ยุบ 6 พันบริษัทไม่ส่งงบการเงิน พาณิชย์หวั่นหลอกลวงประชาชน ประสานทุกจว.ขีดชื่อพ้นทะเบียน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้าถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทที่มีสำนักงานในกรุงเทพฯ 6.3 พันราย หลังไม่นำส่งงบการเงินนานติดต่อกัน 3 ปี เพื่อป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพ หวั่นทุจริตหลอกลวงประชาชน หวังสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจ พร้อมประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งขีดชื่อนิติบุคคลที่เข้าข่ายออกจากทะเบียน แนะช่องทางตรวจสอบข้อมูล

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า จากกรณีมีนิติบุคคลบางกลุ่มที่จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจอย่างถูกต้องจริง แต่เวลาต่อมาไม่ได้ปฏิบัติตนในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อโดยเอาความน่าเชื่อถือของการจดทะเบียนนิติบุคคลมาแอบอ้างจนเกิดความเสียหายต่อบุคคลที่หลงเชื่อ และยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศตามมา ดังนั้นในปีงบประมาณ 2561 กรมจะดำเนินการถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครออกจากทะเบียน 6,309 ราย เนื่องจากไม่นำส่งงบการเงินย้อนหลังนานติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี (ปีงบการเงิน 2559-2557) เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน สร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูล และป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ส่วนนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดดำเนินการในแนวทางเดียวกัน

นางกุลณี กล่าวว่า สำหรับนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดออกจากทะเบียน กรมได้ใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐานใน 3 ประเด็น คือ 1. นิติบุคคลที่ไม่นำส่งงบการเงินต่อกรมเพื่อแสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินกิจการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นับตั้งแต่ปีปัจจุบันย้อนหลังไป 3 ปีติดกัน 2. นิติบุคคลไม่มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ตามที่จดทะเบียนไว้ และ 3. นิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี ส่งผลให้ชื่อของนิติบุคคลนั้นยังคงค้างอยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนของกรม ซึ่งทำให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกับจำนวนนิติบุคคลที่ยังมีตัวตนอยู่ในปัจจุบัน มากไปกว่านั้นอาจส่งผลต่อประชาชน ผู้ร่วมค้า หรือผู้ร่วมลงทุนที่อาจเข้าใจผิดว่านิติบุคคลเหล่านั้นยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ และก่อให้เกิดความเสียหายจากการทุจริตหลอกลวงตามมา

นางกุลณี กล่าวว่า ทั้งนี้ แม้นิติบุคคลที่มีสถานะร้างจะสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลไปแล้ว แต่ความรับผิดชอบยังคงมิได้สิ้นสภาพตามไปด้วย รวมไปถึงนิติบุคคลอาจฟื้นคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน กรมในฐานะเป็นนายทะเบียนตามกฎหมายมีอำนาจถอนทะเบียนนิติบุคคลที่มิได้ทำการค้าเป็นห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทร้างแล้วแต่กรณี โดยจะมีการประกาศชื่อนิติบุคคลที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนบนเว็บไซต์ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.dbd.go.th นอกจากนี้ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลเพื่อความรอบคอบก่อนการลงทุนหรือดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้ง่ายๆ ด้วยตนเองผ่านได้ 3 ช่องทาง คือ   1. สายด่วน 1570 2. www.dbd.go.th หัวข้อ คลังข้อมูลธุรกิจ และ 3. ดาวน์โหลด Application  “DBD e-Service” ผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็กสถานะนิติบุคคล

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน