เผยเศรษฐกิจโตกระจุก ภาคใต้ยังเหนื่อย ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้า พค. ปรับลดลงจากราคาเกษตรต่ำ

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนพฤษภาคมปรับลดลง อยู่ที่ 47.7 จากเดือนเมษายนที่ 49.4 ผลจากสถานการณ์ทางด้านภาคการเกษตรที่ราคาสินค้ายังอยู่ในระดับต่ำ โดยจากการสำรวจตั้งแต่ต้นปีที่ดัชนีปรับดีขึ้นต่อเนื่องทุกเดือน ทั้งนี้ ดัชนีการบริโภคอยู่ที่ 47.0 จากเดือนก่อนที่ 48.7 เพราะประชาชนมีการใช้จ่ายและบริโภคไปจำนวนมากแล้วในช่วงเทศกาลสงกรานต์และเดือนนี้เป็นช่วงเปิดเทอมประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมมากขึ้น ด้านการลงทุน อยู่ที่ 46.0 จากเดือนก่อนที่ 47.8 การท่องเที่ยว อยู่ที่ 58.7 จาก 60.1 ในเดือนก่อน ภาคการเกษตร อยู่ที่ 39.7 จาก 39.5 ภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 46.8 จาก 44.9 ภาคการค้า อยู่ที่ 45.5 จากเดิม 46.1 ภาคการค้าชายแดน ที่ 45.3 จาก 50.9 ภาคบริการที่ 52.3 จาก 52.1 และการจ้างงานที่ 45.9 จากเดิม 54.7 อย่างไรก็ตาม มุมมองดัชนีคงความเชื่อมั่นหอการค้าในอีก 6 เดือนข้างหน้าปรับดีขึ้น โดยดัชนีอยู่ที่ 50.1

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์ พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมและรายภาคมีทิศทางที่ปรับดีขึ้น และคาดว่าจะปรับดีขึ้นในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม หากแยกเป็นรายภาค พบว่า เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวแบบกระจุกตัว โดยภาคที่ฟื้นตัวดีสุด คือ ภาคตะวันออก เพราะมีการขยายตัวด้านอุตสาหกรรมจากการส่งออกและมีแรงหนุนจากการท่องเที่ยว รองลงมาคือ กรุงเทพ และปริมณฑล ที่แรงขับเคลื่อนมาจากภาคการค้า รองลงมา คือ ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่พึ่งพาภาคเกษตรเป็นหลักยังต้องการการกระตุ้น ต่อมาคือ ภาคกลางมีความหลากหลายทั้งพึ่งพาภาคเกษตรในบางจังหวัด พึ่งพาอุตสาหกรรมในบางจังหวัด และพึ่งพาการท่องเที่ยวในบางจังหวัด จึงได้รับอานิสงส์การฟื้นตัวไม่ทั่วถึง ขณะที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบมากสุด เพราะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวกระจุกในภาคท่องเที่ยวดี แต่ภาคเกษตรยังไม่ฟื้นตัวจากราคายางและราคาปาล์มที่ตกต่ำ

ที่มา : มติชนออนไลน์