ชาวประมง 22 จังหวัด ขู่จอดเรือประท้วงรัฐบาล หากเมินแก้ปัญหาความเดือดร้อน

ที่สมาคมประมงสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา พร้อมสมาชิกสมาคมประมง เจ้าของเรือประมง แพปลา และผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประมง ใน จ.สงขลา 250 คน ร่วมหารือ เพื่อเตรียมรวมตัวไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนชาวประมง ในวันที่ 1 ส.ค. และขอให้แก้ไขปัญหาภายใน 7 วัน หากไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหา ชาวประมงทั่วประเทศจะพร้อมใจกันจอดเรือหยุดทำการประมงประท้วงรัฐบาล

รายงานข่าวแจ้งว่า มติของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ที่มีผู้แทนสมาคมประมงจากทั่วประเทศเข้าร่วมการประชุม มีข้อเรียกร้องที่ขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา คือ 1. การขาดแคลนแรงงาน ขอให้ใช้ ม.83 พ.ร.ก. ประมง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เป็นการช่วยให้ภาคการประมงประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยขอให้เปิดให้คนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรไทยอย่างผิดกฎหมายและเปิดโอกาสให้บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ทำบัตรซีบุ๊กได้ เพื่อทำงานในเรือประมง ซึ่งมีความต้องการแรงงาน จำนวน 50,000 คน และให้มาตรการเปิดใช้ตลอดระยะเวลา 2 ปี

2.การซื้อเรือคืน ขอให้หน่วยงานของรัฐเร่งดำเนินการเรื่องการซื้อเรือคืนโดยเร็วที่สุด 3. ปัญหาของกฎและระเบียบต่างๆ ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่ออกมาบังคับใช้กับผู้ประกอบการเรือประมงในช่วงระยะหลัง ไม่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพฯ ทำให้เกิดปัญหา และ 4. กรมเจ้าท่า ขอให้เร่งรัดการแก้ไข ปรับปรุง กฎข้อบังคับการตรวจเรือที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นไปหลายเดือนแล้ว 5.กรมประมง ขอให้แก้ไขปัญหากฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ ของกรมประมง ที่เป็นปัญหาต่อการปฏิบัติของชาวประมงในหลายๆ ฉบับ 6. PIPO ขอให้แก้ไขปัญหาในการแจ้งเข้า-ออก เนื่องจากแต่ละหน่วยและเจ้าหน้าที่แต่ละศูนย์ปฏิบัติไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน แม้จะมีการร่วมกันจัดทำคู่มือแนวการปฏิบัติแล้วก็ตาม และ 7. VMS ปัญหาค่าบริการรายเดือนของอุปกรณ์ VMS ที่ชาวประมงต้องรับภาระในช่วงที่เรือจอด

นายสุรเดช กล่าวว่า สมาชิกชาวประมงทั่วประเทศ มีมติคัดค้านการที่รัฐบาลจะไปให้สัตยาบันเพื่อรับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 188 (C.188) โดยนายกสมาคมประมงทั่วประเทศทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล จะมีหนังสือคัดค้าน และนำไปยื่นที่ทำเนียบรัฐบาลพร้อมกัน ในวันที่ 1 ส.ค.

ที่มา. มติชนออนไลน์