โคราชแจ้งเกษตรกรท้ายเขื่อนงดปลูกข้าวนาปรัง 1.5 แสนไร่ หลังลำตะคองเหลือน้ำน้อย

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการใช้แผนบริหารจัดการน้ำจังหวัดนครราชสีมาปี 2559/2560 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 รวมระยะเวลา 5 เดือน โดยกล่าวว่า ล่าสุดสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นเขื่อนหลักที่ผลิตน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคให้กับประชาชน 5 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย อำเภอสีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเมืองนครราชสีมา ล่าสุดมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 119.106 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 37.87% ของความจุเขื่อน ทำให้กลุ่มผู้ใช้น้ำในลุ่มน้ำลำตะคองได้มีการประชุมและมีมติให้เขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนไม่เกินวันละ432,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศในลำตะคอง พร้อมกับแจ้งให้เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ชลประทานท้ายเขื่อนซึ่งมีอยู่กว่า 150,000 ไร่ และหันไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน เพื่อรักษาปริมาณน้ำกักเก็บไว้ในการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก พร้อมทั้งประสานให้ประปาเทศบาลนครนครราชสีมาสูบน้ำดิบโดยตรงจากเขื่อนลำตะคองวันละ50,000 ลูกบาศก์เมตร และสูบน้ำดิบโดยตรงจากเขื่อนลำแชะวันละ 40,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้ในการผลิตน้ำประปาให้กับประชาชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา

นายวิเชียร กล่าวด้วยว่า ทางจังหวัดนครราชสีมาได้สั่งการไปให้นายอำเภอทุกอำเภอเร่งสร้างฝายชะลอน้ำในลำน้ำทุกสาย เพื่อให้ทุกพื้นที่มีน้ำใช้ไปตลอดฤดูแล้งนี้ และแผนบริหารจัดการน้ำของจังหวัดนครราชสีมา สามารถบริหารจัดการน้ำให้ครอบคลุม และเกิดประโยชน์สูงสุดผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วน

ที่มา มติชนออนไลน์