จีนปวดหัว แนวโน้มแรงงานเกษตรสูงวัยมากขึ้น ปรับตัวแก้วิกฤต หันมาปลูก “ผักแปลงใหญ่ในโรงเรือน”

ปัจจุบัน สาธารณรัฐประชาชนจีน กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรเพิ่มมากขึ้น เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ก้าวเข้าสู่ ‘สังคมสูงวัย’ ขณะที่คนรุ่นใหม่วัยหนุ่มสาวก็ไม่สนใจอาชีพทำการกษตรเพราะงานหนัก เหนื่อย และมีรายได้น้อย รัฐบาลจีนจึงหันมาส่งเสริมให้เกิดการรวมพื้นที่ทำกินของเกษตรกรรายย่อยเข้ามา และให้คณะกรรมการหมู่บ้านเป็นตัวแทนเจรจากับภาคเอกชนเข้ามาลงทุนทำ “เกษตรแปลงใหญ่”

 

สำหรับนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ของจีน จะเน้นใช้เทคโนโลยีเกษตรที่มีความแม่นยำสูงมาใช้เสริมแรงงานภาคเกษตรในระยะยาว เช่น เทคโนโลยีการให้น้ำ ปุ๋ย และการวิเคราะห์สภาพดินในแปลงเพาะปลูกพืชประเภทนาข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด พืชผัก เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งสร้างโรงเรือนเพาะปลูก โดยภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน เนื้อที่กว่า 5 แสนไร่ และมีตลาดรองรับผลผลิตภายในประเทศจีน และส่งออกผลผลิตบางส่วนไปจำหน่ายในต่างประเทศ เช่น รัสเซีย และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจุบัน เมืองซานตง นับเป็นเมืองอุตสาหกรรมการเกษตร ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลและเอกชนของจีน เกษตรแปลงใหญ่ของที่นี่ เน้นปลูกผักในโรงเรือนและใช้เทคโนโลยีแทนแรงงานคน ซึ่งล้ำหน้ากว่าการเกษตรของไทย มีการใช้ดาวเทียมวิเคราะห์ดินและสภาพพื้นที่ และเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล Big Data และมีแอปพลิเคชั่นเพื่อการบริหารจัดการพื้นที่การเกษตรบนคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งบูรณาการข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับพื้นที่การเกษตรจากทุกหน่วยงาน


ซึ่งข้อมูลภายในแอปพลิเคชั่นดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ข้อมูลพื้นที่ด้านการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรเข้าไปดูข้อมูลสภาพพื้นที่ของเกษตรกร เพื่อให้ปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพดินในพื้นที่ตัวเอง ซึ่งก่อนจะปลูกพืชแต่ละชนิด เกษตรกรจะต้องลงทะเบียน โดยในหมู่บ้านจะมีอินเตอร์เน็ตตำบลสำหรับให้เกษตรกรเข้าไปคีย์ข้อมูลในระบบว่าจะเพาะปลูกอะไร ต้นทุน ผลตอบแทนต่อไร่เท่าไร และมีแหล่งรับซื้อจากที่ไหน ซึ่งระบบจากประมวลผลและแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลการเกษตรในรูปแบบสถิติ กราฟ ตัวเลข

2. ข้อมูลทรัพยากรพื้นฐานการผลิตด้านดิน น้ำ และพืช 3. ข้อมูลด้านการตลาดและการซื้อขาย จะมีบริษัทเข้ามาดูข้อมูลที่เกษตรกรปลูกพืชและจะมีการจับคู่ทำการซื้อขายระหว่างกันทันที 4. ข้อมูลด้านการประเมินเพื่อขอสินเชื่อจากธนาคาร กรณีการให้สินเชื่อ ถ้าไม่เกิน 1 แสนหยวน จะมีระบบตรวจสอบใบหน้าบุคคลโดยไม่ต้องทำสัญญา แต่จะใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบใบหน้าในการประเมินการให้สินเชื่อ

 

5. ข้อมูลการตรวจสอบสินค้าเกษตร จะมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ตรวจสอบเหมือนกับการตรวจสอบมาตรฐาน GMP ของไทย โดยเข้าไปติดตามตรวจสอบข้อมูลของเกษตรกรว่ามีสินค้าอะไรบ้าง และจะดูว่าแปลงไหนบ้างที่ทำได้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด

6.ข้อมูลด้านการสอนแนะนำการทำการเกษตรว่าควรจะปลูกและดูแลรักษาอย่างไร และรายละเอียดเกี่ยวกับโรงเรือนปลูกพืช

เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้นำตัวแทนสหกรณ์การเกษตร บินลัดฟ้าเยือนประเทศจีน ศึกษาดูงานการทำเกษตรแปลงใหญ่ ปลูกข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด และผักในโรงเรือน ควบคุมด้วยเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงและแม่นยำ ภายใต้โครงการความร่วมมือการเกษตรระหว่างจีน-ไทย ชื่นชมจีนใช้แอปพลิเคชั่นเพื่อช่วยเกษตรกรยกระดับคุณภาพและเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร พร้อมตั้งเป้านำความรู้กลับมาพัฒนาการผลิตสินค้าให้กับสหกรณ์ของไทยเพื่อให้ทันสมัย เตรียมผลักดันเกษตรแปลงใหญ่นำร่อง 3 สหกรณ์

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยตัวแทนสหกรณ์ 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด จังหวัดอุทัยธานี สหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด จังหวัดตาก และสหกรณ์การเกษตรปักธงชัย จำกัด จังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปศึกษาดูงานและเยี่ยมชมการปลูกผักในโรงเรือน ซึ่งมีการควบคุมด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงและแม่นยำ ซึ่งการเดินทางดังกล่าวดำเนินการภายใต้โครงการความร่วมมือด้านการเกษตรไทย-จีน และได้มีโอกาสหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับข้าราชการฝ่ายปกครอง, ฝ่ายส่งเสริมการเกษตร และภาคเอกชนผู้ผลิตผักรายใหญ่ของจีน ณ เมืองซูกวาง มณฑลซานตง

นายวิศิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการความร่วมมือด้านการเกษตรไทย-จีน ครั้งนี้ เป็นการศึกษาดูงานเพื่อจะนำความรู้มาพัฒนาเกษตรกรของไทย หลังจากที่ได้ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับจีน แล้ว ทางกรมมีแนวคิดว่าจะนำความรู้เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาการผลิตพืชผักและสินค้าการเกษตรให้กับสหกรณ์ของไทย เพื่อให้สหกรณ์นำไปถ่ายทอดและส่งเสริมกับสมาชิกของแต่ละสหกรณ์เอง

ซึ่งการทำเกษตรแปลงใหญ่โดยใช้เทคโนโลยีความแม่นยำสูง สหกรณ์ต้องลงทุนเองแล้วก็แบ่งผลประโยชน์ให้กับสมาชิก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของจีนยังพร้อมให้ความร่วมมือ และเสนอแนวคิดว่าหากประเทศไทยจะทำการเกษตรแปลงใหญ่จริงๆ ทางจีนยินดีจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรของไทย

ซึ่งตนเห็นว่า สหกรณ์ทั้ง 3 แห่ง ที่เดินทางไปด้วยกันมีศักยภาพและมีพื้นที่แปลงใหญ่ที่จะทำการเกษตรแบบจีนได้ ดังนั้น จึงจะให้สหกรณ์ทั้ง 3 แห่ง นำร่องทดลองทำเกษตรแปลงใหญ่ตามแบบที่ได้ดูงานมาจากประเทศจีน ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์จะสนับสนุนเงินทุนส่วนหนึ่งให้กับสหกรณ์นำไปส่งเสริมสมาชิกทำเกษตรแปลงใหญ่ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาพื้นที่ รวมถึงพัฒนาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตรให้กับสมาชิก ให้เป็นที่ยอมรับและตรงตามความต้องการของตลาด ส่งผลทำให้ธุรกิจของสหกรณ์มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป