กรมหม่อนไหม เผยผลการดำเนินงานโครงการไทยนิยม ยั่งยืน

กรมหม่อนไหม ชูโครงการไทยนิยม ยั่งยืน อีกหนึ่งผลสำเร็จการส่งเสริมด้านหม่อนไหมเพื่อลดพื้นที่การบุกรุกทำลายป่า พร้อมลดการนำเข้าเส้นไหมจากต่างประเทศให้น้อยลง

นายไพโรจน์ เฮงแสงชัย รองอธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า จากการที่กรมหม่อนไหมรับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ดำเนินการโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ปี 2561 จำนวน 2 โครงการ

1. การดำเนินงานในโครงการส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในเขตพื้นที่ภาคเหนือภายใต้กรอบชุมชนอยู่ดีมีสุข ได้ดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่เขตภาคเหนือ ให้หันมาประกอบอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทั้งหมด 800 ราย พื้นที่ 2,400 ไร่ มีการดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรม คือ 1) กิจกรรมการเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม เกษตรกรเป้าหมาย 200 ราย และ 2) กิจกรรมเลี้ยงไหมเพื่อผลิตแผ่นใยไหม เกษตรกรเป้าหมาย 600 ราย มีการดำเนินโครงการยึดหลักการตลาดนำการผลิต โดยโครงการนี้เป็นการไปส่งเสริมเกษตรกรจากเดิมที่ทำกินด้วยการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่ป่า ทำให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ให้หันมาปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นการสร้างอาชีพที่มั่นคง ซึ่งเป็นการปลูกเพื่อขายผลผลิตรังไหมและแผ่นใยไหม พร้อมกันนั้นกรมหม่อนไหมก็ได้ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศในการรับซื้อผลผลิตรังไหมและแผ่นใยไหมของเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัท ขอนแก่นสาวไหม จำกัด และบริษัท จุลไหมไทย จำกัด ในการรับซื้อผลผลิตรังไหม และในส่วนของ บริษัท NTGS และ บริษัท ควอนตั้ม จำกัด จากประเทศเกาหลี เข้ามารับซื้อตัวไหมสุก พร้อมจัดทำแผนความต้องการรับซื้อแผ่นใยไหมจากกลุ่มเกษตรกรเพื่อนำไปแปรรูปเป็นเครื่องสำอางต่อเนื่องถึงปี 2564 จำนวน 5 ล้านแผ่น เฉลี่ยเกษตรกรจะมีรายได้ตั้งแต่ 6,000-20,000 บาท ต่อรอบการผลิต

2. โครงการเพิ่มทักษะอาชีพเกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้กรอบคนไทยไม่ทิ้งกัน งบประมาณ 7,253,400 บาท มีเป้าหมายอบรมเพิ่มทักษะอาชีพด้านหม่อนไหมให้กับเกษตรกรผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1,600 ราย ประกอบด้วย หลักสูตรการปลูกหม่อนผลสดเพื่อใช้ประโยชน์ จำนวน 400 ราย และหลักสูตรการแปรรูปผลิตภัณฑ์หม่อนไหม จำนวน 1,200 ราย ในภาพรวมของการดำเนินงานในโครงการที่ 2 นี้ลุล่วงไปกว่า 90% และคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ในปลายเดือน 2561 นี้

“อย่างไรก็ตาม จากผลการดำเนินงานทั้ง 2 โครงการใหญ่ในส่วนของกรมหม่อนไหม ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกษตรกรมีความพึงพอใจให้การตอบรับและยอมรับที่จะปรับเปลี่ยนตนเองมาสู่การมีอาชีพใหม่อย่างอาชีพเลี้ยงไหมที่มีความยั่งยืนด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ” รองอธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าว