ชาวไร่อ้อยอำนาจเจริญโวยต้องแบกค่าใช้จ่ายขนส่งข้ามจังหวัด!

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เมื่อวันที่3 กุมภาพันธ์ 2562 นายอธิจิตร ธนูชัย หนึ่งใน เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในอำเภอหัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ในช่วงนี้เกษตรกรชาวอำนาจเจริญ ทำการปลูกอ้อยกว่า 2 แสนกว่าไร่มีปัญหาเรื่องการขนส่งนำอ้อยไปจำหน่ายในตัวเมืองที่มีโรงงานผลิตน้ำตาล หรือโรงน้ำตาลนั่นเอง ต้องจ้างรถบรรทุกจากไร่อ้อยที่ตนปลูกไปส่งโรงงานน้ำตาลที่จังหวัดกาฬสินธิ์ หรือจังหวัดขอนแก่นทำให้มีกำไรเหลือน้อย ซึ่งต้นอ้อยที่ชาวเกษตรกรปลูกตกไร่ละ 18-20 ตัน และที่สำคัญจุดที่จะเข้าหีบไปยังโรงงานน้ำตาลมิตรผลที่กาฬสินธุ์ก็ไกลค่าขนส่งก็แสนจะแพงอยากให้ทางภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุนให้อำนาจเจริญเปิดโรงงานเร็วๆ จะได้ไม่เสียค่าขนส่งไปส่งอ้อยที่ปลูกในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ จำนวนหลายแสนไร่ไปขายที่อื่น เพื่อให้ชาวเกษตรกรชาวอำนาจเจริญมีรายได้ดีขึ้นนั้นเอง และที่สำคัญการขนส่งก็ลำบากหารถขนส่งยาก ราคาก็แพง รถหีบอ้อยขึ้นรถก็เสียต้องรอกันเป็นวันๆ กว่าจะซ่อมเสร็จ

ด้านนางพิจิตรา ไชยธรรม อายุ 36 ปี เกษตรกรบ้านคำพระ ต.คำพระ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ตนทำนามากว่า 30 ปี มีพื้นที่นาจำนวน 35 ไร่ ได้ข่าวว่าจะมีโรงงานน้ำตาลมาเปิดใกล้บ้านที่ตำบลน้ำปลีก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ จึงได้เปลี่ยนสภาพจากการปลูกข้าวมาปลูกอ้อย 30 ไร่ ซึ่งได้ผลผลิตกว่า 500 ตันสร้างรายได้แล้วกว่า 400,000 บาท จากการขายอ้อย และส่งอ้อยเข้าหีบ นับว่าสร้างรายได้มากกว่าแต่ก่อนกว่าที่เคยปลูกข้าว โดยเฉพาะเพื่อนๆ เกษตรกรที่มีนาดอน (นาในที่สูงไม่มีน้ำพอที่จะปักดำนาข้าวได้) หันมาปลูกอ้อยกันเป็นจำนวนมากสร้างรายได้ ทำให้ชีวิตมีความสุขอยู่ดีกินดี ปลดหนี้ปลดสิน และบางรายมีเงินเก็บฝากธนาคารก็เป็นจำนวนมาก บอกเลยว่าการปลูกอ้อยแทนนาข้าวนับว่าสร้างรายได้ดีกว่าปลูกข้าวเพราะผลผลิตได้มากกว่า มีกำลังมากกว่าปลูกข้าว

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์