เกษตรฯ ชวนหันมาปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย มั่นใจผลตอบแทนคุ้ม กว่าทำนาปรัง

จากข้อมูลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปีการผลิต 2561/62 (สรุปข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562) พบว่า ทั่วประเทศ เกษตรกรมีการเพาะปลูกแล้ว จำนวน 12.10 ล้านไร่ คิดเป็น 75% ของแผน (16.08 ล้านไร่) เป็นข้าวนาปรัง 10.27 ล้านไร่ คิดเป็น 92% ของแผน (11.21 ล้านไร่) นอกจากนี้เป็นพืชไร่ พืชผัก 1.83 ล้านไร่ หรือ 38% ของแผน (4.87 ล้านไร่) กรมส่งเสริมการเกษตรได้เร่งทำความเข้าใจและสร้างการรับรู้กับเกษตรกร เพื่อควบคุมให้การเพาะปลูกพืชฤดูแล้งเป็นไปตามแผนที่ได้กำหนด และให้สร้างการรับรู้เพิ่มเติมในเรื่องของสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ที่ปีนี้ คาดว่าจะมีน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้ไม่มีน้ำเพียงต่อต่อการเพาะปลูกพืชในบางพื้นที่ได้

นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมฯ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรทุกระดับ ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์น้ำต้นทุน และข้อมูลผลตอบแทนของพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยทดแทนข้าวนาปรัง อาทิเช่น สถิติราคาและผลตอบแทนผลผลิตในช่วงฤดูแล้งปีที่ผ่านมา ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2561 ซึ่งพบว่าพืชใช้น้ำน้อยให้ผลตอบแทนสูงกว่าข้าวนาปรัง เช่น ข้าวโพดหวานทั้งเปลือก ถ้าปลูกช่วงกุมภาพันธ์-เมษายนราคาประมาณกิโลกรัมละ 7.21 บาท สามารถทำรายได้ 15,652 บาท ต่อไร่ กำไรประมาณ 8,791 บาท ต่อไร่ข้าวโพดฝักอ่อน ถ้าปลูกช่วงกุมภาพันธ์-เมษายน ราคาประมาณกิโลกรัมละ 17.98 บาท รายได้ 16,464 บาท ต่อไร่ คิดเป็นกำไร 11,080 บาท ต่อไร่ โดยข้าวนาปรัง (โดยปกติจะปลูกช่วงมีนาคม-พฤษภาคม จะขายได้ราคา ตันละ 7,830 บาท รายได้ 5,293 บาท ต่อไร่ คิดเป็นกำไร 398 บาท ต่อไร่ ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

ดังนั้น เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกที่ดีในการหันมาปลูกพืชอื่นแทนการทำนาปรัง ซึ่งจากการสร้างความเข้าใจให้ข้อมูลในพื้นที่ พบว่ามีเกษตรกรที่ได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ให้ความสนใจปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยแทนการทำนาปรัง เพราะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการปลูกข้าวนาปรัง และมีตลาดรองรับแน่นอน เช่น ที่จังหวัดชัยนาท ในหลายพื้นที่ของอำเภอวัดสิงห์ เกษตรกรนิยมปลูกถั่วเขียวหลังฤดูทำนา ได้ราคากิโลกรัมละ 23.75 บาท รายได้ 3,206 บาท ต่อไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 135 กิโลกรัม ต่อไร่ คิดเป็นกำไร 1,406 บาท ต่อไร่ และพื้นที่ของอำเภอเมืองชัยนาท มีเกษตรกรปลูกแตงกวาทดแทนการทำนาปรัง ได้ราคากิโลกรัมละ 16.50 บาท รายได้ 41,250 บาท ต่อไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ย 2,500 กิโลกรัม ต่อไร่ กำไร 28,655 บาท ต่อไร่ ในขณะที่รายได้จากการปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่เดียวกันได้กำไรน้อยกว่า 1,000 บาท ต่อไร่

รองอธิบดีฯ ย้ำเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ในช่วงฤดูแล้งปีนี้ ยังคาดว่าน้ำต้นทุนจะเหลือน้อย ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะขาดแคลนน้ำในอนาคต กรมส่งเสริมการเกษตรจึงขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกร เปลี่ยนมาปลูกพืชอายุสั้น แทนการทำนาปรัง รอบ 2