ชีวิตเหยิมเหยิม 6 ตอน อาหารฮอม สร้างอาชีพ

ที่นี่มีเรื่องน่ารักๆ อยู่เรื่องหนึ่งคือเรื่องการฮอม เมื่อมีการจัดงานพวกเราจะไม่มีเงินช่วยงาน ไม่มีนี้หมายความว่าไม่มีจริงๆ คือพวกเราเป็นกลุ่มนักเขียน คนทำงานศิลปะ ที่มีเงินน้อย และไม่ทำตามมารยาท เมื่อไม่มีก็ไม่ต้องพยายามให้เดือดร้อน ใช้วิธีอื่นที่พอทำงาน เช่น การฮอม คือเอาของมาช่วยงาน ใครมีอะไรก็ช่วยสิ่งนั้น หรือช่วยแรง พวกช่างก็ช่วยจัดทำเวที นักดนตรี นักร้อง ก็ทำการแสดงไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหาร ทำอาหารมาช่วยกัน และต่างภูมิใจที่จะนำเสนออาหารของตัวเอง

เปิดสวนเหยิมเหยิม และห้องสมุด เมื่อ 22 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา มีเพื่อนๆ นำอาหารมาฮอมหลายอย่าง อันแรกที่นำเสนอคือข้าวยำม่วงงาม สิงหนคร จังหวัดสงขลา เรียกว่า ข้าวยำม่วงงาม เพราะเธอเป็นคนม่วงงาม นำทุกอย่างมาจากม่วงงามเลยทีเดียว ตั้งแต่น้ำข้าวยำที่เคี่ยวข้นมาจากบ้าน ปลาบ่น พริกบ่นคั่ว มะพร้าวคั่ว ส่วนข้าวสวยมาหุงที่สวน ข้าวสำหรับทำข้าวยำนั้นต้องหุงให้พอดี แห้ง ร่วนสวย ไม่เปียก ผักเอามาจากที่โน้นบ้างมาเก็บจากที่นี่บ้างและซื้อที่ตลาดบ้าง ซึ่งผักที่ซื้อมาจากตลาดนั้นไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะเป็นพวกกะหล่ำปลีและแครอต ทั้งสองอย่างนี้ไม่มีในข้าวยำภาคใต้ เป็นผักสมัยใหม่ที่ถูกนำมาประกอบภายหลัง

เพื่อนคนหนึ่งบอกว่า เราจะไม่ใส่แครอตลงไปในข้าวยำ เพราะกลิ่นและรสชาติของแครอตไปกับผักอื่นๆ ไม่ได้ น้องม่วงงามบอกว่า เดี๋ยวนี้ภาคใต้เขาก็ใส่แครอตกันบ้างแล้วเพื่อให้สีสวย อย่างไรเสียงข้างมากที่เป็นสาวใต้ก็บอกว่าไม่ยอมให้มีแครอต ในที่สุดก็ตกลงกันได้ว่า เราจะเอาแครอตใส่ไว้ในจานอีกใบ ถ้าใครจะใส่ก็มาหยิบไปแต่จะไม่อยู่ในถาดผักข้าวยำ ถือว่าเป็นการประนีประนอมที่ลงตัว หรือหาทางออกให้แครอตได้อย่างดี

“สีของอาหารเราจะต้องยืนยันสีเดิม ถ้าไม่มีเหลืองแดงก็แสดงว่า อาหารจานนั้นไม่มีเหลืองแดงก็ไม่ต้องมี วันก่อนเพื่อนรุ่นน้องแกงพุงปลาเอาพริกหวานสีแดงดอกใหญ่หั่นเป็นพูใส่แกงพุงปลา ถามว่าทำไมต้องใส่พริกหวานเขาว่าเพื่อแต่งสี แต่งสีทำไมแกงพุงปลาก็ต้องเป็นสีของแกงพุงปลาแค่ใส่หน่อไม้ก็พอไหว” ฉันสรุปยาวยืดเรื่องสีของอาหาร ก่อนปั่นจักรยานไปเก็บใบขมิ้นกับใบข่า ใบมะกรูดมาให้ ดอกดาหลาไม่มี ดาหลาจะให้สีสวยแดงส้มแลมีรสเปรี้ยวซึ่งเหมาะกับข้าวยำ

“ใส่กลีบกุหลาบแทนดาหลาได้ไหม”

น้องม่วงงามถาม ซึ่งความจริงแล้ว กุหลาบไม่มีรสเปรี้ยว แต่ก็ได้เพราะกุหลาบไม่ได้มีกลิ่นแรงที่จะทำให้เสียรสกุหลาบมอญมีกลิ่นอ่อนๆ และอีกอย่างหนึ่งกุหลาบเราปลูกเองอยากโชว์อยู่แล้ว ข้าวยำม่วงงามตอนนี้จึงมี ใบขมิ้น ใบข่า มะกรูด ตะไคร้ และมะม่วงดิบเป็นหลัก มีกลีบกุหลาบกับกะหล่ำสีม่วงประกอบและแครอตเป็นทางเลือก

ข้าวยำม่วงงาม อาหารเป็นหน้าเป็นตาของงานทีเดียว เพราะน้องม่วงงามเธอโฆษณาชวนชิมตลอดเวลา และของเธอก็อร่อยจริงๆ ข้าวยำม่วงงามสุดยอดที่ปลาบ่นเป็นปลาทะเลสดๆ กับน้ำข้าวยำที่ใช้บูดู น้ำอ้อย หรือน้ำตาลโตนด  มะขามเปียก กะปิ เคี่ยวจนข้น มะพร้าวคั่วไฟอ่อนๆ ใจเย็นๆ จนกรอบ หอมกรุ่น เช่นเดียวกับพริกขี้หนูแห้ง เอาทุกอย่างโรยลงไปบนจานข้าว ราดน้ำข้าวยำ โรยด้วยข้าวเหนียวทอดกรอบและหมี่ผัดนุ่มๆ เมื่อจะกินก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน

นอกจากเลี้ยงแขกเลี้ยงเพื่อนแล้ว ยังถวายเพลพระด้วย แรกเพื่อนคนหนึ่งเสนอว่า พระอาจจะฉันไม่เป็นเพราะว่าเป็นพระทางเหนือ แต่เธอยืนยันว่าไม่มีปัญหาเพราะมันคือข้าวกับผัก แต่มีอาหารอื่นให้ท่านด้วย ปรากฏว่าเป็นจริงอย่างเธอว่า ท่านฉันได้สบาย ในบรรยากาศดีๆ ที่สะพานไม้

อาหารเดินทางไกลจากสงขลาถึงเชียงใหม่ เธอเรียกใครต่อใครหลายคนมาเป็นผู้ช่วยในการซอยผักทุกอย่าง ต้องซอยจนเป็นฝอยกันเลยทีเดียว แบบซอยหยาบๆ นั่นไม่ได้ มือซอยกับมีดคมนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับข้าวยำเป็นถาดๆ โชคดีที่ว่า ในช่วงเตรียมงาน มีลุงแก้วมาลับมีดไว้ให้ ลุงแก้ว ป้าหอม สองผัวเมียที่น่าอิจฉายิ่ง เพราะแกได้ทำงานเคียงคู่กันตลอด แกมีหน้าที่ทำความสะอาดบริเวณภายนอกบ้านที่เรียกว่ามือหนึ่ง แกทำเฉพาะภายนอก ทั้งตัดหญ้า เก็บกวาด ขนย้ายเศษไม้จัดวางในที่ที่เหมาะ พวกเราคุยกันว่า ใครที่รักจะทำงานทางนี้น่าจะมาฝึกงานกับลุงแก้ว ป้าหอม ก่อน แต่อาชีพอื่นๆ ก็เอาป้าหอม ลุงแก้ว เป็นตัวอย่างการทำงานอย่างซื่อสัตย์ต่อหน้าที่

ถ้าค่าจ้างแรงงานคนอื่นสามร้อย ป้าหอม ลุงแก้ว จะได้สี่ถึงห้าร้อยต่อวัน เพราะคุณภาพของงาน และไม่ว่าผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของบ้านจะอยู่หรือไม่ ลุงแก้ว ป้าหอม ก็จะทำงานของตัวเองอย่างดี ไม่มีทิ้งงานกลางคันแบบที่เบิกเงินไปแล้วทำไม่เสร็จในป้าหอม ลุงแก้ว ไม่มี แต่คิวลุงแก้ว ป้าหอม ก็ไม่ค่อยว่าง

วันหนึ่งฉันไปดูเครื่องมือการทำงานของลุงแก้วพบว่าคมกริบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจอบ มีดพร้า เครื่องตัดหญ้า ฉันชมว่ามีดลุงคมมาก ลุงว่า “ทำงานให้ได้ดีต้องมีเครื่องมือดี” จริงของลุง

“มามาสอนการลับมีดให้” ลุงว่า แต่ฉันไม่กล้า ฉันกลัวของมีคมพอๆ กับกลัวที่แคบๆ จึงไม่ฝึกการลับมีด

น้องชายคนหนึ่งเป็นผู้ช่วยช่าง เขาสนใจการลับมีดจึงไปฝึกกับลุงแก้ว ป้าหอม ได้วิชาลับมีดติดตัวไป

“รับจ้างลับมีดตามบ้านก็ได้นะ” ฉันบอกเขา

“ใช่ ลับมีดและย้อมผ้าไปด้วย เดี๋ยวนี้คนเดินย้อมผ้าตามบ้านหายไป” ช่างพูดขึ้น

“ย้อมผ้าไปด้วยมันหนักไปนะ ต้องมีเตา มีหม้อย้อม ลับมีดเฉยๆ ดีกว่าแค่มีหินลับมีด เดินตามบ้านก็ได้แล้ว”

คุยเสร็จคิดขึ้นได้ว่าเดี๋ยวนี้สังคมไม่เหมือนเก่า เดินไปร้องถามลับมีดไหมครับ ย้อมผ้าไหมครับ คงไม่มีใครมาเปิดประตูให้ เพราะเขากลัวคนไม่ดีมีมากมาย นอกจากว่าไปเปิดอยู่ตรงไหนสักแห่งให้น่าเชื่อถือ เช่น รับจ้างลับมีดที่กาดวัว นั่งลับไปเรื่อยๆ เป็นที่รู้จักแล้วเขาก็เอามีดมาให้เราเอง จนมีชื่อเสียงเป็นที่ไว้ใจและได้มีการบอกต่อให้ไปลับที่บ้าน

“เป็นอาชีพได้หมดเหมือนกันนะนี่ เหยิมก็จะเป็นหนึ่งในลูกค้า หรือให้เหยิมเป็นที่รับส่งมีดก็ได้นะ มีผู้เดินทางเอามีดมาฝากลับและนัดวันมารับมีด”

นี่แหละที่มาของมีดคมๆ ที่จะซอยผักข้าวยำในวันงาน และอาจจะเป็นอาชีพเสริมของใครๆ ก็ได้ เพราะเป็นอาชีพได้จริงๆ ลงทุนน้อย ฝึกจนมีความชำนาญเป็นพอ

ก่อนจบวันนี้ กลับมาที่ข้าวยำอีกครั้ง เพราะเหยิมเหยิมการ์เด้นจะเปิดขายข้าวยำม่วงงามทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จึงทบทวนอีกครั้ง และเผื่อคนอื่นจะทำขายด้วยก็ดี ใครๆ ก็จะได้กินของอร่อยและมีคุณค่าทางอาหาร

เริ่มต้นตรงที่น้ำข้าวยำก่อนนะคะ น้ำบูดู หอมแดง ตะไคร้ทุบ ลงไปต้มจนเดือดแล้วเอามากรองเอาแต่น้ำ แล้วเติมน้ำตาล กะปิ น้ำมะขาม ลงไปเคี่ยวจนข้นได้ที่ มะพร้าวขูดคั่ว ปลาบ่น พริกแห้งบ่น ข้าวเหนียวตากแดดให้แห้งทอด หมี่ผัดน้ำ ผักซอยบางๆ มีใบขมิ้น ใบมะกรูด ใบข่า ตะไคร้ ดอกดาหลา ม่วงซอย

ตักข้าวให้ลูกค้าหยิบผักเอง ราดน้ำข้าวยำเอง หรือจะหยิบจัดให้เป็นจานๆ ก็ได้ค่ะ ถ้าขายเป็นถุงก็แยกระหว่างข้าว ผัก และน้ำข้าวยำ ให้เอาไปคลุกเองเมื่อจะกิน

นี่ถือเป็นการนำเสนออาชีพแบบเหยิมเหยิมๆ