วิสาหกิจกลุ่มหมูดำเหมยซาน ที่เทิง เชียงราย เลี้ยง-แปรรูปหมูดำปลอดสาร เนื้อนุ่ม

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง ได้นำพันธุ์จากอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา มาเลี้ยงในตำบลศรีดอนไชย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เนื่องจากพบว่าหมูดำพันธุ์นี้เลี้ยงง่าย กินง่าย ทนทานแข็งแรง ให้ลูกดก จึงทำให้ชาวบ้านที่เคยเลี้ยงกันจำนวน 5 คนเมื่อปี 2560 มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 41 ครัวเรือนในปี 2562

แม้คุณสมบัติหมูดำเหมยซานจากจีนจะมีข้อดีเรื่องลูกดก แต่มีความจำเป็นต้องปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพทางธรรมชาติของชาวบ้านในพื้นที่ ดังนั้น จึงนำหมูดำเชียงใหม่มาผสมแล้วคัดพันธุ์เพื่อต้องการสายพันธุ์ให้มีขนาดใหญ่ แข็งแรง เนื้อมาก มีสีสวยตรงตามความต้องการของตลาด

คุณคามิน คนึงคิด หรือ คุณเน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง

คุณคามิน คนึงคิด หรือ คุณเน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง ที่ตำบลศรีดอนไชย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ให้ข้อมูลว่า คุณสมบัติเด่นของหมูดำเหมยซานคือมีลูกดก เลี้ยงง่าย ตัวใหญ่ สามารถเลี้ยงโดยใช้อาหารทางธรรมชาติได้ ไม่ต้องฉีดยา ขณะเดียวกัน ยังนำอาหารเหลือจากการบริโภคมาเป็นอาหารหมู จึงช่วยกำจัดของเหลือในครัวเรือน เป็นการลดต้นทุนได้มาก

อาหารหมูที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ

สมาชิกของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง ได้ประโยชน์จากการเลี้ยงหมูดำคือ ขายลูกหมูและหมูโต พร้อมกับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ, นำมูลหมูไปผลิตเป็นปุ๋ยเพื่อใส่ในต้นพืช ผัก ผลไม้, นำมูลหมูดำไปเลี้ยงไส้เดือน แล้วนำมูลไส้เดือนกับน้ำหมักมูลไปใส่ในนาข้าวเพื่อผลิตเป็นข้าวอินทรีย์

การผสมพันธุ์แบบธรรมชาติ
ปรับปรุงพันธุ์ระหว่างเหมยซานกับเชียงใหม่

คัดลูกหมูที่มีคุณภาพขายส่งให้พ่อค้าลาว                            ส่วนหมูโตรับออเดอร์แล้วส่งเข้าโรงงานชำแหละ

หมูดำพันธุ์นี้ใช้เวลาท้อง 3 เดือนกับ 21 วัน ได้ลูกจำนวน 12-21 ตัว ต่อครอก ในเดือนแรกลูกหมูกินนมแม่ผสมกับรำอ่อน เมื่ออายุได้ 1 เดือนจึงคัดลูกหมูที่มีคุณภาพขายส่งให้พ่อค้าลาวในราคาตัวละประมาณ 1,100-1,500 บาท มีน้ำหนักเฉลี่ย 6-10 กิโลกรัม ต่อตัว
สำหรับลูกหมูที่ไม่มีคุณภาพจะเลี้ยงขุนต่อไป โดยในช่วง 2 เดือนจะเลี้ยงด้วยอาหารหมูร่วมกับรำ พอเข้าเดือนที่ 3 จะใช้เฉพาะอาหารธรรมชาติคือ หญ้าเนเปียร์ 3 ส่วน รำ 2 ส่วน และอาหารหมู 1 ส่วน สูตรนี้ช่วยให้หมูดำตัวใหญ่ เนื้อสีสวย นิ่ม

“โดยเฉพาะใกล้ถึงเวลาส่งโรงชำแหละจะเน้นให้กินหญ้าเนเปียร์เนื่องจากจะทำให้เนื้อหมูชำแหละมีสีแดงเข้มตามธรรมชาติ กับมีไขมันแทรกตามเนื้อ เนื้อนิ่ม มีลักษณะเหมือนกับเนื้อวัว ซึ่งเหมาะกับการนำไปปรุงเป็นอาหารแบบปิ้งย่าง”

หมูทุบ
แหนมหมูดำ

เนื้อหมูดำแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

ไม่เพียงเลี้ยงหมูคุณภาพขาย แต่ทางกลุ่มยังต่อยอดด้วยการนำเนื้อหมูดำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารหลายอย่างที่มีความอร่อย นุ่ม และมั่นใจในความปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นหมูแดดเดียว แหนมหมู และหมูทุบ เป็นการพัฒนาวิธีการผลิตแบบภูมิปัญญาผสมกับนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยหมูแดดเดียวขนาด 300 กรัมขายราคา 100 บาท, แหนมหมูห่อขนาด 200 กรัมขายราคา 25 บาท หรือใส่เป็นแพ็กมีจำนวน 4 ห่อราคา 100 บาท และราคาหมูทุบ แพ็กเล็กราคา 35 บาท แพ็กกลางราคา 60 บาท และแพ็กใหญ่ราคา 140 บาท ช่องทางขายสินค้าแปรรูปเหล่านี้ส่งไปตามงานต่างๆ ที่จัด รวมถึงขายที่ร้านประชารัฐในกรุงเทพฯ ด้วย

หมูแดดเดียว
แบรนด์หมูดำคุณภาพที่วางใจในเรื่องความปลอดภัย

มูลหมูนำมาสร้างประโยชน์อื่นๆ ได้มาก

มูลหมูถือเป็นสิ่งที่ตามมาประชากรหมูเพิ่มจำนวนขึ้นมากอย่างรวดเร็ว ดังนั้น กลุ่มนำมูลหมูมาใช้ประโยชน์ด้วยการผสมกับรำหยาบผลิตเป็นปุ๋ยใส่พืชผัก อีกทั้งยังนำไปเลี้ยงไส้เดือนพันธุ์ AF ซึ่งสมาชิกเลี้ยงกันทุกบ้านกว่า 80 ครัวเรือน โดยมูลไส้เดือนเมื่อนำไปผ่านกระบวนการแล้วนำไปผสมน้ำสำหรับใช้รดต้นไม้ พืช ผัก พ่นในนาข้าว

ผลจากการปฏิบัติเช่นนี้ทำให้สมาชิกกลุ่มที่ทำเกษตรกรรมอยู่ไม่ต้องซื้อปุ๋ย/ยา ช่วยลดต้นทุนได้เป็นอันมาก และคุณภาพของมูลไส้เดือนยังช่วยทำให้ผลผลิตทางการเกษตรทุกอย่างมีการเจริญเติบโตงอกงาม สมบูรณ์
การเลี้ยงหมูดำแบบธรรมชาติปลอดสาร หรือเป็นหมูดำอินทรีย์ สร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค ดังนั้น จึงทำให้ฐานลูกค้าขยายวงออกไปมากขึ้น มีลูกค้าสั่งซื้อทั่วประเทศ ช่วยทำให้ราคาหมูดำทางภาคเหนือแข็งขึ้นมาก ทั้งนี้ เพราะไม่เพียงความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย แต่ลูกค้ายังชื่นชอบคุณภาพหมูดำของกลุ่มเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิกกว่า 41 ครัวเรือน ในแต่ละครัวเรือนจะได้ประโยชน์จากการเลี้ยงหมูดำด้วยการนำไปเป็นอาหารในครอบครัว กับมีรายได้จากขายหมูดำ เนื่องจากการรวมกันเลี้ยงและขายช่วยให้ได้ราคาสูงกว่าขายกันเอง นอกจากนั้น ยังก่อให้เกิดกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละกระบวนการแปรรูป ทำให้ชาวบ้านทุกเพศวัยในชุมชนมีงานทำ มีรายได้ ถือเป็นการส่งเสริมอาชีพในชุมชน

นำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มออกขายตามงานต่างๆ

ผลจากความร่วมแรงร่วมใจจนทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกลุ่มได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้นและต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับจังหวัดเชียงราย รางวัลชนะเลิศระดับเขตตรวจราชการ และล่าสุดเข้ารับรางวัลระดับประเทศเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562

“ฉะนั้น การเลี้ยงหมูแบบอินทรีย์ถือเป็นแนวทางที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพ เป็นอาชีพที่มีต้นทุนน้อย ขายได้ราคาสูง มีตลาดรองรับชัดเจน แน่นอน สร้างกำไรให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างดี แถมยังปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคอีกด้วย” คุณคามิน กล่าว

ตัวแทนสมาชิกกลุ่มเข้ารับรางวัลชนะเลิศกลุ่มอาชีพ ระดับจังหวัดเชียงราย ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี

ท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์หมูดำจากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง ติดต่อสั่งซื้อ หรือเป็นตัวแทนขายได้ที่โทรศัพท์ (099) 379-0888, (063) 772-0565

…………

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2563