ผู้ว่า ฯกยท.เดินหน้าแก้ปัญหาราคายางให้มีเสถียรภาพ

ผู้ว่า ฯกยท.ลงพื้นที่จ.ระยองทำความเข้าใจ เกษตรกร พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาราคายางให้ มีเสถียรภาพ พร้อม นำแผ่นยาง ที่ได่จากการศึกษาวิจัย ผลิตภัณฑ์ยางสร้าง สนามเด็กเล่น โรงเรียนชนบท

นาย ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ระว่า เดินทาง ลงพื้นที่ที่ จ. ระยอง โดย ได้ ลงพื้นที่ ที่ อ. บ้านค่าย เพื่อ ดู ความคืบหน้าในการ ส่งเสริมการโค่นต้น และ ปลูกพืชผลทางการเกษตรที่มีความเหมาะสม รวมทั้งการ แปรู ผลิตภัณฑ์จากยางพาราในพื้นที่ ขณะเดียวกันยัง ได้ เดินทางไปทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกร ชาวสวนยาง ที่สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย จ. ระยอง จากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ทาง รัฐาลได้มีการการ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมา ทาง กยท. ได้ มี แนวทางแก้ปัญหาราคายาง ร่วมกับภาคเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และภาคเอกชน กระทรวงเกษตรฯ โดยได้ เตรียมประกาศตั้งพนักงาน กยท. ใช้อำนาจตาม มาตรา 41 พ.ร.บ. ควบคุมยาง พ.ศ. 2542 ให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ยังมีแนวทางที่จะส่งเสริมแปรรูปยางสู่ผลิตภัณฑ์รวมทั้งการ ผลักดันใช้ยางภายในประเทศให้เป็นรูปธรรม ด้วยการเร่งรัดให้แต่ละหน่วยงานดำเนินการให้เกิดการใช้ยางให้ได้มากที่สุด

นอกจากนั้น การส่งเสริมการใช้ยางในรูปแบบหรือนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดการแปรรูปมากขึ้น ในส่วนของภาคเอกชนจะเป็นการร่วมมือและรณรงค์ให้หันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพาราภายในประเทศให้มากขึ้น โดยเน้นการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งขณะนี้ กยท. เดินหน้าร่วมกับภาคเอกชนผลิตยางล้อ ภายใต้โครงการยางล้อประชารัฐ แบรนด์ TH -TYRE เป็นการใช้ยางที่ผลิตภายในประเทศผ่านสหกรณ์ชาวสวนยาง และมีบริษัทที่ได้มาตรฐานอย่างบริษัท ดีสโตน จำกัด มาเป็นผู้ผลิตยางล้อ และกยท. พร้อมเปิดรับทุกบริษัทที่สนใจจะลงทุนแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางประเภทต่างๆ ร่วมกัน โดยขณะนี้ ผู้สนใจล้อยางแบรนด์ TH-TYRE สามารถสั่งซื้อกับ กยท.ทั่วประเทศได้ พร้อมทั้ง ระบบตลาดภายในประเทศ กยท. ผลักดันการซื้อขายจริง ตั้งแต่ตลาดระดับท้องถิ่นของ กยท. เพื่อลดความเสี่ยงหรือการเก็งกำไรจากตลาดซื้อขายล่วงหน้า และเปิดโอกาสให้เกษตรกรเข้าถึงตลาดและการบริการได้มากขึ้น รวมถึงเปิดตลาดกลาง 6 แห่ง ของ กยท. จะรองรับผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีคุณภาพเพื่อเพิ่มมูลค่ายางพารา รวมทั้งผลักดันให้ มีตลาดกลางระดับภูมิภาค (RRM) ของ 3 ประเทศ คือ ประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพื่อสร้างเสถียรภาพราคายางให้มากขึ้น

ผู้ว่า กยท. กล่าวอีกว่า ในการเดินทางมาจ. ระยองครั้งนี้ นอกจากมีการทำความเข้าใจกับเกตรกรยังถือโอกาศ จัดกิจกรรม CSR ปูพื้นยางสนามเด็กเล่น โดยนำแผ่นยางการการศึกษาวิจัยของ กยท. จัดทำพื้นสนามเด็กเล่นด้วยยางพารา โดยคณะผู้บริหาร พนักงานร่วมปูพื้นยางสนามเด็กเล่น ณ โรงเรียนบ้านสีระมัน ต.ห้วยทับมอญ อ.ชะเมา จ.ระยองด้วยการนำบล็อกยางพารามา จำนวน 900 แผ่น มาปูเป็นพื้นสนามเด็กเล่น คิดเป็นพื้นที่ 93.12 ตารางเมตร ซึ่งมีการใช้ยางแท่ง STR 20 จำนวนประมาณ 1 ตัน มาเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็นบล็อกยางในกิจกรรมนี้ สำหรับบล็อกยางพาราที่นำมาปูพื้นสนามเด็กเล่น เป็นงานวิจัยของฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยาง กยท. ซึ่งผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบล็อกยางปูพื้น เลขที่ มอก.2378-2551 จะมีความยืดหยุ่นและสามารถรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดีเพื่อส่งเสริมให้สนามเพื่อเป็น แหล่งพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้านกีฬา และประโยชน์ของยางพาราให้กับเยาวชน และคนในชุมชน ในขณะเดียวกัน ปลูกผังจิตสำนึกด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมกับพนักงาน กยท. พร้อมนำงานวิจัยผลิตภัณฑ์ยางพาราสร้างประโยชน์แก่ชุมชน ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศอีกทางหนึ่งด้วย