พาณิชย์มอง 3 มิติ เปิดตลาดนำเข้า

ผลจากการดำเนินนโยบายอเมริกันมาก่อน หรือ America First ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างเงินสร้างงานของคนอเมริกัน ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ในการหารือระดับผู้นำ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกดดันให้ไทย “เปิดตลาดนำเข้าเนื้อสุกร” จากสหรัฐ ซึ่งอนุญาตให้สามารถใช้สารเร่งเนื้อแดง โดยสหรัฐอาจอาศัยข้ออ้างว่าใช้ตามมาตรฐานอาหารโลก (CODEX) กำหนดในปริมาณที่เหมาะสม ประเด็นนี้สหรัฐได้พยายามเรียกร้องจากไทยมาเป็นเวลานานหลายปีตามที่ปรากฏในการออกรายงาน National Trade Estimate (NTE) ประจำปีทุก ๆ ปีรวมถึงปีนี้

และประเด็นนี้เคยมีกรณีพิพาทในองค์การการค้าโลก (WTO) ในหลายประเทศ เช่น สหภาพยุโรปและจีน ทำให้บางส่วนเกรงว่าสหรัฐอาจจะกดดันไทยเปิดตลาด โดยเอาเหตุผลนี้มาอ้าง แต่ “ใคร” จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเปิดตลาดหรือไม่เปิด

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สอบถามไปยังคณะเจรจาฝ่ายกระทรวงพาณิชย์ของไทย ทั้งในส่วนกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการระหว่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และทีมงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ต่างให้คำยืนยันว่าการหารือระดับรัฐบาลในครั้งนี้เป็นการหารือในภาพรวมของการค้าการลงทุนทั้งหมด ไม่ได้มีการเจรจาเปิดตลาดนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐ ตามที่หลายฝ่ายแสดงความกังวล

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่ได้ข้อสรุปเรื่องสุกรในการหารือครั้งนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการหารือประเด็นนี้อีกเลย ไทยต้องหาคำตอบให้ตัวเองว่า หากเปิดเสรีนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐแล้ว “ใคร” ได้หรือเสียประโยชน์อย่างไร ถ้าไทยไม่เปิดเสรีแล้วให้ประชาชนบริโภคเนื้อสุกรในประเทศที่ไม่อนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงจะส่งผลดีต่อสุขภาพจริง ? เหตุใดมาตรฐานของไทยกับมาตรฐาน CODEX ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ? ที่ไทยเชื่อมั่นว่ามาตรฐานไทยดีกว่า CODEX เพราะมองว่าสหรัฐอยู่เบื้องหลังการกำหนดมาตรฐาน CODEX เป็นเรื่องจริง หรือไทยกำลังหลอกตัวเองอยู่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของใคร

หรือถ้าเปิดเสรีให้สินค้าสหรัฐ เข้ามาแข่งขัน แต่กำหนดเงื่อนไขการนำเข้า เช่น ให้ติดฉลากเป็นภาษาไทย ให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ราคาสินค้าถูกลง แล้วผู้บริโภคไทยพร้อมที่จะ

“อ่าน” ฉลากเวลาซื้อสินค้า และพร้อมที่จะตัดสินใจเลือกจริงหรือ ? และแท้จริงแล้วการ “ปิดประตู-ปิดหน้าต่าง” ไม่ให้คู่แข่งเข้ามาแข่งขัน เป็นวิธีการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือแค่ซื้อเวลา

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์