เผยแพร่ |
---|
กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหนองเหรียง อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง
จัดตั้งเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2534
สมาชิกแรกตั้ง 13 คน
สมาชิกปัจจุบัน 60 คน
ประธานกลุ่ม นางวันดี เกื้ออาษา
ที่ทำการกลุ่ม บ้านเลขที่ 201 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง
โทรศัพท์ (074) 606-182
ผลงานดีเด่น
ความคิดริเริ่ม
สมาชิกกลุ่ม ส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนยางพารา สวนไม้ผล พืชไร่ และพืชผัก ดังนั้น หลังจากกรีดยางพาราเสร็จแล้วจะมีเวลาว่าง จึงพูดคุยและปรึกษาหารือกันเพื่อต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชน ได้แก่ กล้วยน้ำว้าและกล้วยไข่ มาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชน จึงรวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร บ้านหนองเหรียง มีการระดมหุ้นจากสมาชิกเพื่อทำกิจกรรม โดยมีเจ้าหน้าที่เคหกิจเกษตรเป็นที่ปรึกษาและถ่ายทอดความรู้ด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วยให้แก่สมาชิกกลุ่ม และในปี พ.ศ. 2540 สำนักสงฆ์พุทธโคดม ได้บริจาคที่ดินให้กับกลุ่ม เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารที่ทำการกลุ่ม สมาชิกกลุ่มและคนในชุมชนจึงได้รวบรวมเงินทุนเพื่อใช้ในการก่อสร้าง และมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง มีการผลัดเปลี่ยนเวรเพื่อทำการผลิตเป็นประจำทุกวัน
กลุ่มมีการขยายผลต่อยอดนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์ ได้แก่ “กล้วยฉาบม้วน” เป็นแห่งแรกของจังหวัดพัทลุง และเป็นสินค้าแบรนด์เนมของกลุ่ม นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ ได้แก่ กล้วยเส้นอบเนย กล้วยแว่นอบเนย กล้วยไข่กรอบแก้วรสเค็มและรสหวาน และกล้วยกวน เป็นต้น มีช่องทางการตลาด ได้แก่ ที่ทำการกลุ่ม ร้านค้าในจังหวัด โลตัสพัทลุง OTOP พัทลุง และกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ปัจจุบันมีกิจกรรมทั้งหมด 5 กิจกรรม ได้แก่ กลุ่มแปรรูปผลผลิตจากกล้วย กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มกองทุนข้าวสาร และศูนย์จำหน่ายสินค้า
ความสามารถในการบริหาร
และการจัดการสถาบัน
- กลุ่มมีการแบ่งโครงสร้างการบริหารงานของกลุ่มอย่างชัดเจน มีคณะกรรมการบริหารกลุ่ม จำนวน 9 คน มาจากการเลือกตั้งของสมาชิก มีวาระ 4 ปี แบ่งเป็นฝ่ายบริหาร และฝ่ายจัดการประกอบด้วย ฝ่ายจัดหาวัตถุดิบ ฝ่ายผลิต ฝ่ายตลาด ฝ่ายบัญชี และฝ่ายการเงิน และมีคณะกรรมการ ที่ปรึกษากลุ่ม ประธานและคณะกรรมการกลุ่มมีความเสียสละ อดทน มุ่งมั่นในการพัฒนากลุ่ม ให้มีความก้าวหน้าเท่าทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยได้รับการสนับสนุนและให้ความร่วมมือจากสมาชิกกลุ่มเป็นอย่างดี
- ระเบียบข้อบังคับกลุ่ม มีการกำหนดวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน สามารถดำเนินกิจกรรมบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และเป็นที่พึงพอใจของสมาชิก
- หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และชุมชน ให้การสนับสนุนและร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มได้ขอให้หน่วยงานต่างๆ มาเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ในส่วนของเรื่องงบประมาณจะช่วยตนเองก่อนเสมอ ซึ่งต่อมาก็ได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการ ปัจจัยการผลิต และงบประมาณ รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 2,432,500 บาท เป็นต้น
- ยึดหลักการทำงานให้บรรลุเป้าหมายโดยมุ่งเน้นการพัฒนา 5 Smart
- พัฒนากลุ่มเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร ด้านเคหกิจเกษตร ด้านการบริหารจัดการกลุ่ม และเป็นศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ โดยมีคณะกรรมการกลุ่มและสมาชิกเป็นวิทยากรเกษตรกร มีการเชื่อมโยงเครือข่ายวัตถุดิบและการตลาดทั้งภายในและภายนอกชุมชน
- 6. ระบบเอกสาร มีความโปร่งใส ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้และเป็นปัจจุบัน ได้แก่ สมุดบันทึกการประชุมกลุ่ม ระบบการบัญชีกลุ่มออมทรัพย์ ระบบบัญชีรายรับ-รายจ่ายกิจกรรมกลุ่มระบบการปฏิบัติงานของสมาชิก และสมุดเยี่ยมกลุ่ม/ผู้มาศึกษาดูงาน เป็นต้น
- 7. การแบ่งผลประโยชน์จากกิจกรรมกลุ่ม มีการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีไว้เป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ปันผลสมาชิกร้อยละ 65 ค่าตอบแทนคณะกรรมการร้อยละ 15 และทุนสวัสดิการสาธารณะร้อยละ 15 นอกจากนี้ ในแต่ละกลุ่มกิจกรรมยังมีการจัดสรรกำไรสุทธิเป็นรายเดือน โดยเก็บเป็นทุนสำรองร้อยละ 5 ปันผลสมาชิกกลุ่มร้อยละ 80 และทุนสวัสดิการร้อยละ 15
บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสถาบัน
- คณะกรรมการบริหารงาน และคณะกรรมการดำเนินกิจกรรมฝ่ายต่างๆ มาจากการคัดเลือกมีวาระ 4 ปี โดยสมาชิกกลุ่มมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามความเหมาะสม
- สมาชิกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยใช้กระบวนการกลุ่มเปิดให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็น และตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการ โดยมีการประชุมคณะกรรมการและสมาชิกทุก 3 เดือน ตามวาระการประชุมและมีการจดบันทึกการประชุมทุกครั้ง
- สมาชิกยอมรับและปฏิบัติตามกฎระเบียบของกลุ่ม รับรู้และเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง มีความเสียสละ ช่วยเหลือและพัฒนากลุ่มให้สามารถปฏิบัติงานสำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี เช่น การมาปฏิบัติงานแปรรูปตามเวลาที่กำหนด และแต่งกายถูกต้องตามข้อกำหนดมาตรฐานการผลิตอาหาร และสมาชิกได้รับการส่งเสริมในการพัฒนาศักยภาพ เช่น การฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่ม เป็นต้น
- กลุ่มมีแผนพัฒนาธุรกิจ และแผนการให้ความรู้ในการประกอบอาชีพแก่สมาชิกมีการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตการตลาด และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในและนอกชุมชน เป็นแหล่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และเป็นจุดสาธิตของศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยี การเกษตรประจำตำบลบ้านนา
ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสถาบัน
- กลุ่มมีการรับสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปี พ.ศ. 2534 จำนวน 13 คน ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 60 คน ซึ่งร้อยละ 58 ของครัวเรือนเกษตรกรในพื้นที่ เป็นสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่
- การดำเนินกิจกรรมกลุ่มอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2534 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ โดยการบริหารจัดการกลุ่มของคณะกรรมการฯ และสมาชิก ภายใต้การสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ เช่น กิจกรรมการแปรรูปผลผลิตจากกล้วย กิจกรรมการออมทรัพย์ กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมกองทุนข้าวสาร และกิจกรรมศูนย์จำหน่ายสินค้า เป็นต้น
- กลุ่มมีประวัติการเงินที่ดี เป็นที่เชื่อถือของสถาบันการเงิน ในปี 2559 ได้รับการอนุมัติเงินกู้ยืมจาก ธ.ก.ส. จำนวน 500,000 บาท ผ่อนชำระ 5 ปี เพื่อเป็นทุนสำรองในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ และขยายกำลังการผลิต ผ่อนชำระแล้ว 120,000 บาท
- การเจริญเติบโต และความมั่นคงทางฐานะการเงินของกลุ่ม ปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียน 1,170,930 บาท ทุนเรือนหุ้น 20,400 บาท เงินออมทรัพย์ 426,677 บาท รายได้เฉลี่ยของกลุ่ม 1,273,042 บาท
- รายได้ของสมาชิกที่ร่วมทำกิจกรรม เช่น การแปรรูปกล้วย เฉลี่ยเดือนละ 4,000-5,000 บาท/เดือน การปลูกกล้วยเพื่อเป็นวัตถุดิบในการแปรรูป เฉลี่ยเดือนละ 3,000 บาท และรายได้จากการปลูกผักสวนครัว เฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท
- มีแผนการพัฒนากลุ่มอย่างชัดเจน และมีการดำเนินงานตามแผน ดังนี้ แผนด้านการดำเนินธุรกิจ เช่น เพิ่มปริมาณการผลิตขึ้นร้อยละ 20 การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย การจัดซื้อเครื่องกรองน้ำเพื่อแก้ปัญหาการซื้อน้ำในการผลิตสินค้า แผนการถ่ายทอดเทคโนโลยี เช่น การศึกษาดูงานการแปรรูปผลผลิตจากกล้วย การอบรมมัคคุเทศก์เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และแผนพัฒนาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
- คุณภาพชีวิตของครอบครัวเกษตรกรและชุมชนดีขึ้น และมีความมั่นคงด้านอาหาร เช่น สมาชิกมีเวลาดูแลครอบครัวมากขึ้น มีโอกาสเลี้ยงดูด้วยนมแม่มากขึ้น มีบ้านเกษตรสมบูรณ์เพิ่มพูนสุขภาพร้อยละ 83 ของสมาชิกกลุ่ม สามารถลดรายจ่าย มีการทำบัญชีครัวเรือน เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้และรู้จักการออมเงิน ลดปัญหายาเสพติด เกิดความเข้มแข็งและสามัคคีภายในชุมชน
การทำกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์และการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- กิจกรรมการผลิตของกลุ่มอยู่บนพื้นฐานการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและเน้นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การอนุรักษ์พันธุ์กล้วยในชุมชน การใช้เปลือกกล้วยในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ น้ำมันพืชที่ใช้แล้วนำไปบำบัดน้ำเสียก่อนทำให้ได้รับมาตรฐานการผลิต ได้แก่ GMP อย. OTOP มผช. และฮาลาล
- มีการพัฒนาศักยภาพของผู้นำกลุ่มและสมาชิกอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเป็นวิทยากรให้กับศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยี การเกษตรประจำตำบล และศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ในเรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วย การจัดดอกไม้ การทำปุ๋ยหมัก การออมเพื่อการผลิตด้านการเกษตร และการจัดทำบัญชีครัวเรือน
- การใช้ที่ทำการกลุ่มเป็นศูนย์กลางประสานงานให้ความช่วยเหลือในชุมชนด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของอำเภอ ด้านการแปรรูปผลผลิตเกษตรของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของชุมชน
- ร่วมกับเทศบาลตำบล ผู้ใหญ่บ้าน รณรงค์การไม่ตัดไม้ทำลายป่า และกำชับสมาชิกกลุ่มให้ดูแลไม่ให้มีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่
- ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์/บริจาคทรัพย์เพื่อสาธารณกุศล เช่น บริจาคเงินให้แก่สำนักสงฆ์พุทธโคดม และหมู่บ้านหนองเหรียงเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 300 บาท เป็นพลังสำคัญในการสนับสนุนช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน บริจาคทุนการศึกษาและเป็นวิทยากรให้โรงเรียนตามนโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้กับนักเรียนในชุมชน เป็นต้น