| ที่มา | สัตว์เลี้ยงสวยงาม |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุจิต เมืองสุข |
| เผยแพร่ |
“นกยูงไทย” ถือเป็นสัตว์เฉพาะ ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องขออนุญาตเลี้ยง ขออนุญาตเพาะพันธุ์ ขออนุญาตจำหน่าย เพราะจัดอยู่ในกลุ่มของสัตว์ป่าคุ้มครอง การเลี้ยงจึงจำเป็นต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ ว่ามีนกยูงไทยในครอบครอง แต่การเลี้ยงนกยูงที่มีผู้เลี้ยงแพร่หลายในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่เป็นการเลี้ยง “นกยูงอินเดีย” ซึ่งมีหลายสี และไม่จำเป็นต้องมีเอกสารการอนุญาตใดๆ
น้องเล็ก หรือ คุณขวัญชนก รัตนอุดมมงคล สาวสวยแห่งเมืองจันทบุรี ใช้เวลาว่างจากการเป็นแม่บ้านให้เกิดประโยชน์ ด้วยการมองงานอดิเรกที่ก่อให้เกิดรายได้ให้กับครอบครัว เริ่มจากการเลี้ยงสัตว์ปีกในกลุ่มสัตว์สวยงาม เช่น นก เป็ด ห่าน ไก่ ขยับไปหาสัตว์เลี้ยงอื่นอีกในกลุ่มสัตว์ปีกด้วยกัน ในที่สุดก็ตกหลุมรัก นกยูง สัตว์ปีกสวยงาม ที่มองเห็นความสง่างามในตัว จึงเริ่มต้นจากนกยูงอินเดีย สีขาว คู่แรก เพราะไม่ต้องขออนุญาต แต่ทั้งนี้ น้องเล็ก บอกว่า เริ่มเลี้ยงในครั้งแรกก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ไม่ว่าจะเลี้ยงสัตว์อะไรก็ตาม ความสำเร็จของการเลี้ยง ไม่ใช่การจำหน่ายได้ แต่เป็นการสามารถเพาะพันธุ์และต่อยอดได้
“ความน่ารักของนกยูงอินเดีย คือ ใจดี ไม่ดุ ยิ่งถ้าเราเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ เขาจะเชื่อง ติดคน เราสามารถปล่อยเดินนอกกรงได้ เวลานกยูงแพนหาง สวย ดูเพลิน ทำให้มีความสุขไปอีกแบบ”
นกยูงอินเดีย มีหลายสี ทำให้น้องเล็กเริ่มสนใจสีอื่นอีก จึงเลือกซื้อเพิ่มในสีที่ชอบ เพื่อนำเข้ามาเพาะพันธุ์และต่อยอด เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ภายในฟาร์ม
น้องเล็ก เล่าว่า ที่เริ่มต้นจากนกยูงอินเดียสีขาว สปิทสี (สปิทสี หมายถึง พ่อแม่ต่างสีมาผสมกัน) จากฟาร์มของ คุณสันติศักดิ์ ถนอมสิงห์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเหตุผลของการเลือกนกสปิทสีมา เนื่องจากมีโอกาสได้ลูกนกยูงสีหลายสี จากนั้นค่อยเพิ่มสีของนกยูงอินเดียเป็นนกยูงสีม่วงด่าง สีคามิโอ้ด่าง และสีคามิโอ้แบล็กโชว์เดอร์ และสีอื่นๆ เพิ่มตามเข้ามาเรื่อยๆ
“การเลี้ยงนกยูง ไม่ใช่เรื่องยาก” น้องเล็ก บอก
กรงสำหรับเลี้ยงนกยูง หากเป็นกรงมาตรฐานหรือกรงเพาะพันธุ์ ควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 4×4 เมตร สูง 2.50-3 เมตร โดยการผสมพันธุ์สามารถใช้หลักการผสม ตัวผู้ 1 ตัว สามารถผสมตัวเมียได้ถึง 5 ตัว แต่ถ้าให้เหมาะสม ควรให้ตัวผู้ 1 ตัว ผสมตัวเมีย 2-3 ตัวก็พอ
วัยที่เหมาะสมสำหรับการผสมพันธุ์ในนกยูงอินเดียคือ อายุไม่ต่ำกว่า 2 ปี ในนกยูงไทยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี จึงจะสมบูรณ์มากพอสำหรับการผสมพันธุ์
ส่วนอุปกรณ์ภายในกรงเลี้ยง ที่สำคัญคือ ที่ใส่น้ำและอาหาร ซึ่งควรเปลี่ยนทุกวันตามเวลาที่ให้อาหาร นอกจากนั้น ควรมีคอนสำหรับนก เพราะนกยูงยังเป็นสัตว์ปีกที่บินขึ้นลงคอน หรือเกาะนอนบนคอน คอนควรสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 1.20 เมตร บริเวณพื้นกรงควรเป็นทรายละเอียด
พื้นที่ตั้งของกรง ควรอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ แต่ต้องไม่มีลมพัดแรง สภาพอากาศรอบกรงมีส่วนช่วยให้นกยูงผสมพันธุ์และไข่ได้ดี และเมื่อนกยูงผสมพันธุ์แล้ว ให้หมั่นสังเกตไข่ หากพบให้เก็บเข้าตู้ฟัก
“เมื่อนำไข่เข้าตู้ฟัก อุณหภูมิภายในตู้ฟักควรอยู่ที่ 37.5 องศาเซลเซียส ความชื้น 60-65 เปอร์เซ็นต์ หลังไข่ฟักจะนำลูกนกยูงมาอนุบาลในกรงอนุบาล และกกไฟให้อุ่นประมาณ 1 เดือน จากนั้นปล่อยลูกนกยูงลงพื้นดิน
น้องเล็ก เล่าว่า อาหารสำหรับนกยูง เป็นอาหารชนิดเดียวกับไก่ เพราะเป็นสัตว์ปีกเหมือนกัน อาหารไก่เล็กเหมาะกับนกยูงเล็ก อาหารไก่โตก็เหมาะกับนกยูงโต แต่จะเสริมอาหารประเภทผักและผลไม้ให้กับนกยูงบ้าง อาหารหลักจะให้เพียงวันละครั้ง ส่วนอาหารเสริมก็ตามสะดวกเท่าที่หาได้
ในแต่ละวัน น้องเล็กจะเข้าไปที่กรงนกยูง ให้อาหารและเปลี่ยนน้ำสะอาดทุกวัน รวมถึงการทำความสะอาดกรงเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเปลี่ยนอาหารและน้ำ ซึ่งความสะอาดภายในกรงเลี้ยงเป็นเรื่องจำเป็น ควรกำจัดมูลนกยูงที่สะสมออก และพ่นยาฆ่าเชื้ออย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
ส่วนการให้วัคซีนเช่นเดียวกับสัตว์ปีกทั่วไปนั้น จะไม่ได้เข้มข้นตามฟาร์มสัตว์ปีกใหญ่ๆ แต่ผู้เลี้ยงควรมียาเฉพาะเตรียมไว้ เช่น ยาพ่นฆ่าเชื้อโรค ยาฆ่าปรสิต ยาแก้หวัด โดยเฉพาะยาแก้หวัด เมื่ออากาศเปลี่ยนจะพบว่าเป็นหวัดได้ง่าย และควรให้วิตามินเสริมในช่วงที่นกยูงต้องการความสมบูรณ์ของร่างกาย เช่น ช่วงฤดูผสมพันธุ์ใกล้วางไข่ เป็นต้น
สำหรับโรคในนกยูง พบได้น้อย อาจเป็นเพราะนกยูงเป็นสัตว์ป่า จึงมีภูมิคุ้มกันในร่างกายของสัตว์ป่าค่อนข้างสูง น้องเล็ก บอกว่า ที่พบได้บ่อยคือ โรคฝีดาษ ซึ่งมีสาเหตุมาจากยุงกัด หากพบก็ให้แกะแผลที่ถูกยุงกัดแล้วใส่ยาจะช่วยบรรเทาได้
น้องเล็ก บอกด้วยว่า นกยูงเป็นสัตว์อายุยืน หากเลี้ยงและดูแลดี นกยูงจะมีอายุหลายสิบปี ดังนั้น ผู้เลี้ยงที่สนใจควรศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน นอกจากนี้ สถานที่เลี้ยงควรอยู่ห่างไกลชุมชน เพราะนกยูงยังมีสัญชาตญาณสัตว์ป่า เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์จะร้องหาคู่ทั้งเพศผู้และเพศเมีย แม้ว่าจะเลี้ยงรวมในกรงเดียวกัน นกยูงก็จะยังคงร้องหาคู่และมีเสียงร้องดัง อาจรบกวนเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้
ปัจจุบัน น้องเล็ก มีนกยูงในฟาร์มไม่น้อยกว่า 20 ตัว เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ประมาณ 16 ตัว นกยูงทั้งหมดรอต่อยอดผสมพันธุ์ให้ได้สีใหม่ สวย คุณภาพดี ตามที่ตลาดหรือลูกค้าต้องการ โดยนกยูงจะเริ่มจำหน่ายออกเมื่อมีอายุ 1 เดือนขึ้นไป โดยจะให้ผู้สนใจมารับเองที่ฟาร์ม แต่หากผู้สนใจอยู่ไกลฟาร์มมาก จำเป็นต้องรอให้นกยูงมีอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือน จึงจะจัดส่ง เพื่อความปลอดภัยและลดอัตราเสี่ยงการสูญเสียนกยูงลง
น้องเล็ก ถ่อมตัวว่า ไม่ได้เป็นเจ้าของฟาร์มนกยูงที่มากฝีมือ แต่พร้อมพัฒนาและต่อยอดนกยูงที่เลี้ยงไว้อยู่เสมอ และปัจจุบัน เป็นสมาชิกของ “ชมรมรักษ์นกยูง” และเป็นหนึ่งในแอดมินหลักที่ช่วยดูแลความเรียบร้อยและความเคลื่อนไหวของกลุ่มในเฟซบุ๊ก โดยกลุ่มเฟซบุ๊ก ชมรมรักษ์นกยูง เป็นกลุ่มมีไว้สำหรับซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน บอกเล่าประสบการณ์ และเป็นฐานความรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนกยูง โดยมีคุณสันติศักดิ์ ถนอมสิงห์ เป็นผู้ริเริ่มในช่วงแรก และคอยดูแล ประสาน ให้ความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในชมรมดำเนินไปด้วยดี
หากสนใจแวะไปเยี่ยมชมที่ฟาร์มได้ แค่แจ้งก่อนล่วงหน้า น้องเล็ก ยินดีต้อนรับที่ “Lekkiiz farm” หมู่ที่ 5 ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โทรศัพท์ (095) 837-1517 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก lekkiiz rattanaudommongkol
เผยแพร่ครั้งแแรกเมื่อวันที่ วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2563
