กรมหม่อนไหม เปิดศูนย์หม่อนไหมฯหนองคาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พร้อมเปิดจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7-17 เม.ย.นี้

กรมหม่อนไหม เปิดศูนย์หม่อนไหมฯหนองคาย  เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ด้านหม่อนไหม เตรียมพร้อมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่ประเทศเพื่อนบ้าน หวังสร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน   พร้อมเปิดจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7-17 เม.ย.นี้

นายสัตวแพทย์ธนิตย์ เอนกวิทย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาส เป็นประธานพิธีเปิด “โครงการเผยแพร่ผลงานวิจัยด้านหม่อนไหม เพื่อสนับสนุนศูนย์เรียนรู้และการท่องเที่ยวหม่อนไหม” ณ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ หนองคาย (ส่วนแยก) บ้านหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญกับการสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการเกษตร แก่เกษตรกร  ประชาชน ตลอดจนเยาวชน นักเรียน นักศึกษา  โดยมีนโยบายสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวในวิถีเกษตร  นอกจากนี้ ในโอกาสช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดจัดตั้งศูนย์บริการ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ในช่วงวันที่  7 – 17 เมษายน 2560  จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่กรมหม่อนไหมได้จัดทำ “โครงการเผยแพร่ผลงานวิจัย  ด้านหม่อนไหม เพื่อสนับสนุนศูนย์เรียนรู้และการท่องเที่ยวหม่อนไหม” ขึ้น  ซึ่งกิจกรรมนี้นอกจากจะเป็นการให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางในช่วงสงกรานต์แล้ว  ยังเป็นการเผยแพร่ผลงานของกรมหม่อนไหม องค์ความรู้เกี่ยวกับหม่อนไหมสู่สาธรณชน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบสร้างสรรค์  รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หม่อนไหมของเกษตรกร ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล เพื่อพัฒนาและเพิ่มรายได้ภาคเกษตรจากการท่องเที่ยวและบริการ  การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการอนุรักษ์ควบคู่กับการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

นางสุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการเผยแพร่ผลงานวิจัยด้านหม่อนไหม เพื่อสนับสนุนศูนย์เรียนรู้และการท่องเที่ยวหม่อนไหม” ในครั้งนี้  จัดขึ้นในพื้นที่ศูนย์หม่อนไหมฯ จังหวัดหนองคาย  เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีภูมิปัญญาเกี่ยวกับหม่อนไหมที่โดดเด่น เช่น  การทอผ้าไหมลายโบราณ  การเลี้ยงไหมไทยพื้นบ้าน  ไหมป่าดาหลา และ ไหมป่าอีรี่ การใช้วัสดุธรรมชาติมาฟอกย้อมเส้นไหม และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม ฯลฯ  นอกจากนี้ศูนย์ฯ ยังมีพื้นที่ติดกับถนนสายหลัก และติดกับแม่น้ำโขง ทำให้บุคคลที่สัญจรไปมาสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย และยังเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย กรมหม่อนไหมจึงได้คัดเลือกพื้นที่ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ หนองคาย จัดทำเป็นศูนย์เรียนรู้และท่องเที่ยวหม่อนไหม และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และสนองนโยบายรัฐบาลในการให้บริการประชาชนช่วงสงกรานต์

อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวต่อไปว่า  โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยด้านหม่อนไหม   เผยแพร่กิจกรรมงานและสร้างการรับรู้งานด้านหม่อนไหม ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวหม่อนไหม เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรจากการจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวด้านการเกษตรในลุ่มน้ำโขง รวมถึงเพื่อเป็นจุดให้บริการอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยกับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์  ปี 2560 ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการอุทยานไหมป่าดาหลา ไหมอีรี่และไหมพื้นบ้าน นิทรรศการผ้าโบราณเมืองหนองคาย  นิทรรศการทายาทหม่อนไหม นิทรรศการฟองย้อมด้วยวัสดุย้อมสีจากธรรมชาติ สาธิตการแปรรูปและผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม นักท่องเที่ยวหรือผู้มาเที่ยวชมงานสามารถชิมผลหม่อนสดจากต้น  และชิมผลิตภัณฑ์อาหารจากหม่อนและไหม เช่น  น้ำมัลเบอรี่ น้ำดาหลาเบอรี่ ไอศกรีมโบราณจากน้ำมัลเบอรี่  ชาใบหม่อน แซนวิสแยมมัลเบอรี่ อาหารจากดักแด้ ฯลฯ  นอกจากนี้ยังสามารถเลือก  ซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ้าไหมคุณภาพในราคาถูกจากผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกรโดยตรง

ทั้งนี้ คาดว่าการจัด“โครงการเผยแพร่ผลงานวิจัย ด้านหม่อนไหม เพื่อสนับสนุนศูนย์เรียนรู้และการท่องเที่ยวหม่อนไหม”  นอกจากจะเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่งานวิจัยของกรมหม่อนไหมและองค์ความรู้ด้านหม่อนไหมให้แก่ประชาชน เกษตรกร และผู้เข้าร่วมงานได้รับรู้ และสามารถนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ได้แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หม่อนไหมของเกษตรกรช่วยสร้างรายได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาและเพิ่มรายได้ภาคเกษตร จากการท่องเที่ยวและบริการ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้คาดหวังว่าเกษตรกร  ประชาชนและเยาวชนที่เข้าร่วมงานจะเกิดความรัก ความหวงแหนในอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และช่วยกันสืบสานอาชีพด้านหม่อนไหมให้คงอยู่ต่อไป