ผ่าธุรกิจ “TRV” ผู้นำด้านชิ้นส่วนยางขึ้นรูป สร้างคุณภาพ-มาตรฐานสากล จนลูกค้าญี่ปุ่นให้ความไว้วางใจกว่า 25 ปี

ผู้ประกอบการ SME ที่เติบโตจากโรงงานตึกแถว สู่ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางขึ้นรูปแถวหน้าเมืองไทย ที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ ความชำนาญ และความเชื่อมั่น สร้างคุณภาพ และมาตรฐานระดับสากล จนได้รับความไว้วางใจให้ผลิต และส่งมอบผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนประกอบของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น

คุณประเสริฐ เรืองเลิศสถิตกุล กรรมการ บริษัท ที.อาร์.วี รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRV เปิดเผยถึงที่มาของเส้นทางธุรกิจ ผลิตชิ้นส่วนยางขึ้นรูปว่า ธุรกิจของ TRV มีจุดกำเนิดจากธุรกิจครอบครัว ของ คุณธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ (มหาชน)

โดยคุณพ่อของคุณธีรวุฒิ ผลิตและค้าขายในตลาดคลองถม ย่านวรจักร เป็นกิจการเล็กๆ ทำอยู่ 8 ปี เห็นว่าไม่มีกำไร จึงแยกตัวออกมาขายยางสุขภัณฑ์ แต่สู้ต้นทุนไม่ได้ จึงเดินออกจากธุรกิจครอบครัวเมื่อปี 2536 โดยดำเนินธุรกิจผลิตขึ้นรูปชิ้นส่วนยางในตึกแถว ทำอยู่ 11 ปี ธุรกิจเติบโตขึ้นเป็นลำดับ จากตึกแถวเล็กๆ สู่การทำโรงงาน และจดทะเบียนในนาม บริษัท ที.อาร์.วี รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด

มุ่งมั่นพัฒนา “คุณภาพ” เพื่อยกระดับธุรกิจ

คุณประเสริฐ เผยว่า บริษัทเริ่มต้นธุรกิจจากเครื่องจักรรุ่นเก่าแบบแมนนวล ต่อมาเมื่อจึงเริ่มลงทุนด้านเทคโนโลยีกึ่งอัตโนมัติ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยให้ความสำคัญในทุกกระบวนการ และส่งมอบสินค้าได้ตรงตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ จึงเริ่มมีออร์เดอร์มากขึ้น เริ่มจากแบรนด์ลูกค้าที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น

ส่วนค่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของไทย ที่ดำเนินธุรกิจกับเราจนถึงวันนี้ นับเป็นเวลากว่า 25 ปี เมื่อได้รับความไว้วางใจแล้ว บริษัทจึงต้องมุ่งมั่นรักษาคุณภาพ มาตรฐานไว้ให้ได้ ทั้งเรื่องความตรงต่อเวลาในการส่งมอบงาน การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า รวมทั้งพัฒนาการผลิตให้มีประสิทธิภาพ มีการสูญเสียในการผลิตน้อยที่สุด ซึ่งเราทำได้น้อยกว่า 0.2% และตั้งเป้าที่จะไม่มีการสูญเสียเลย

“การได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าบริษัทญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องง่าย บริษัทใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี เพื่อเข้าถึงลูกค้ารถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์สำคัญ โดยลูกค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมด เป็นคู่ค้ากับ TRV มาตั้งแต่เริ่มธุรกิจจนถึงปัจจุบัน”

มุ่งสู่มาตรฐานสากลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นลูกค้า

คุณประเสริฐ เผยว่า “TRV” มุ่งสร้างกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานระดับสากลและให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยได้รับมาตรฐานที่สำคัญ ได้แก่

1. วัตถุดิบไม่มีสารต้องห้ามหรือโลหะหนักปนเปื้อนตามมาตรฐาน SoC (Substance of (Environment) Concern) ประกาศใช้เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และ RoHS (Restriction of Hazardous Substances) ว่าด้วยเรื่องการใช้สารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป หรือ EU

2. ระบบการบริหารจัดการคุณภาพไอเอสโอ 9001 : 2015

3. ระบบการจัดการคุณภาพสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ IATF 16949 : 2016

4. ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 : 2015

“โดยทั่วไป การจะเข้าไปรับงานบริษัทญี่ปุ่นได้ ต้องได้รับมาตรฐานสากลเพื่อรับรองคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจ 9001 : 2015 เราจึงเริ่มวางระบบมาตรฐานมากขึ้น ต่อมาเรามีออร์เดอร์เกี่ยวกับรถยนต์ จึงต้องมีมาตรฐานด้านระบบคุณภาพการผลิตด้านยานยนต์โดยเฉพาะ คือ IATF 16949 : 2016 เราดำเนินการจนได้ใบรับรอง ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วบริษัทได้ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและสามารถขยายตลาดได้กว้างขึ้น ด้วยความโดดเด่นด้านคุณภาพที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลทั้งญี่ปุ่นและยุโรป ส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง”

ผลิตภัณฑ์ “TRV” มีใช้ในอุตสาหกรรมอะไรบ้าง?

คุณประเสริฐฉายภาพธุรกิจว่า ปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในฐานลูกค้าหลักของ TRV ซึ่งผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูป นับเป็นส่วนสำคัญและมีความต้องการในตลาดสูง โดย TRV เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจำแนกตามกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

1. อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์ กลุ่ม Tier 1 และ Tier 2 อาทิ ท่อยางกันกระแทก ยางร้อยสายไฟในรถยนต์ ปะเก็นยาง ยางโอริง ลูกยาง ซีลยาง ยางแป้นเบรก ยางกันลื่น เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 52.46%

2. อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ ชิ้นส่วนยางในหม้อหุงข้าว ปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ คอมเพรสเซอร์ ตู้เย็น เครื่องกรองอากาศ เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 46.49%

3. อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางขึ้นรูปอื่นๆ อาทิ ชิ้นส่วนยางในเครื่องจักรการเกษตร ท่อประปา เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 1.05%

คุณธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ (มหาชน)

เส้นทางสู่ตลาดหลักทรัพย์ SME ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

คุณประเสริฐ เผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของคุณธีรวุฒิ ผู้ก่อตั้งบริษัทที่มองการณ์ไกล ได้เริ่มเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 60 ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 20 ปี บริษัทมุ่งพัฒนาธุรกิจทั้งด้านการบริหารจัดการ ทั้งระบบบัญชีที่มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ การพัฒนาบุคลากร กระบวนการผลิตและกระบวนการจัดการของเสียที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตลอดจนคุณภาพของสินค้า การส่งมอบให้ทันเวลา ที่สำคัญคือการสร้างมาตรฐานระดับสากล

ด้วยเหตุนี้ ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น แบรนด์ดังต่างๆ มากมาย ส่งผลให้บริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อช่วยสนับสนุนแผนการขยายกำลังการผลิต และการแข่งขันในตลาด เพื่อรองรับโอกาสเติบโตในอนาคตต่อไป

ดังนั้น ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ต้องเริ่มจากการมีวิสัยทัศน์ในการมองธุรกิจว่าต้องการให้เติบโตในรูปแบบใด และที่สำคัญต้องมีการวางระบบการจัดการ ระบบบัญชีที่มีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่ต้น ถือเป็นสิ่งที่ SME ต้องให้ความสำคัญในการทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน (Sustainability)

คุณประเสริฐ เรืองเลิศสถิตกุล กรรมการ บริษัท ที.อาร์.วี รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)

จุดแข็งของ TRV ที่ทำให้ธุรกิจแข็งแกร่ง

คุณประเสริฐ กล่าวว่า “TRV” ทำธุรกิจด้วยแนวคิดการเติบโตแบบยั่งยืน (Sustainability) โดยยืดหลัก “การให้บริการ” เป็นสำคัญ

“เราเน้นคุณภาพในการบริการเป็นหลัก ต้องซัพพอร์ตลูกค้าให้ตรงเวลา ไม่ทำให้ลูกค้าเสียหายในการผลิต และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามปัญหาของลูกค้า ช่วยให้วางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้นด้วย”

เมื่อถามถึงกลยุทธ์การรักษาลูกค้า คุณประเสริฐ เผยว่า เราต้องรักษาคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ไว้ให้ได้ และส่งมอบสินค้าตามกำหนด และรักษาความสัมพันธ์ของลูกค้าตลอดจนซัพพลายเออร์ สิ่งนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ

Cost Management อีกหนึ่งความท้าทายในการทำธุรกิจ

ในส่วนการพิจารณาเรื่องราคา คุณประเสริฐ เผยว่า การบริหารต้นทุนยาง ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิต มีส่วนสำคัญ เพราะยางเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาไม่นิ่ง ขึ้น-ลง ตามตลาดโลก จึงมีการทบทวนทุก 3 เดือน กับซัพพลายเออร์

“บริษัทมีการวางแผนเรื่องการกำหนดราคาขายอยู่แล้ว โดยมีต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ เราต้องไปควบคุมต้นทุนวัตถุดิบในการผลิต โดยการลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนที่ดี ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารต้นทุน”

ใช้ระบบ Data Driven มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน

คุณประเสริฐ ขยายความว่า การที่จะวางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เราต้องใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยเช่นกัน จากเดิมที่เราเก็บข้อมูลต่างๆ ด้วยระบบแมนนวลเป็นหลัก

ล่าสุดเราเปลี่ยนมาใช้ระบบ Barcode มาช่วยในการเก็บข้อมูลมากขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ Real time มากขึ้น ถูกต้องมากขึ้น ตรวจสอบและนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการผลิตได้ง่ายขึ้น ทำให้เราควบคุมวัตถุดิบได้ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งระบบจะช่วยให้เราเก็บข้อมูลมาวางแผนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น ทำให้ลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบ Automation จำเป็นแค่ไหน?

คุณประเสริฐให้ข้อมูลเรื่องการนำระบบ Automation มาใช้ในธุรกิจว่า สำหรับ TRV ระบบ Automation ยังนำมาใช้งานไม่มากนัก เนื่องจากลักษณะงานเรายังต้องใช้แรงงานคนเป็นหลัก อธิบายให้เห็นภาพว่า ชิ้นงานที่เราผลิตจะมีลักษณะเป็นยางแต่เหมือนดินน้ำมัน เมื่อใส่เข้าไปในแม่พิมพ์และปั๊มออกมาจะมีเศษที่เป็นส่วนเกินรอบๆ ชิ้นงาน จึงต้องมีการตัดแต่งให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่สามารถใช้ระบบ Automation เข้ามาช่วยได้

“ดังนั้น ในบางขั้นตอนเรายังต้องพึ่งพาแรงงานคนเป็นหลัก จะเรียกว่าเป็น “งานฝีมือ” ก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้ บริษัทก็มีการศึกษาการใช้งานในระบบออโตเมชั่นมากขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาการผลิตให้มีประสิทธิภาพในอนาคต”

แนวโน้มธุรกิจยางขึ้นรูป ในอนาคต

คุณประเสริฐ ให้มุมมองในเรื่องนี้ว่า ธุรกิจยางขึ้นรูปเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญในการใช้งาน ใช้ทดแทนกันได้ยาก เพราะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ดังนั้น เชื่อว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งบริษัทมองหาโอกาสในการขยายฐานลูกค้า โดยเพิ่มหรือขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโต และขยายตัวทางธุรกิจของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสที่มาแรง คือการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทมองว่า สินค้าของ TRV ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เพราะสินค้าของบริษัทที่เป็นชิ้นส่วนยางขึ้นรูป น่าจะได้รับประโยชน์ในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นส่วนประกอบในรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

รู้จัก บริษัท ที.อาร์.วี รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) เพิ่มเติมได้ที่

https://trvrubber.co.th/index

________________________________________

Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ

สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิกหรือสายด่วน 1333