“หอยเชอรี่เสียบไม้” อาหารพื้นบ้านโกอินเตอร์ ทำง่าย ฟันรายได้เกือบแสนต่อเดือน

หอยเชอรี่ เดิมเป็นหอยน้ำจืดที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำทวีปอเมริกาใต้ ในประเทศไทยนำเข้ามาครั้งแรกจากประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน ในฐานะของหอยที่กำจัดตะไคร่น้ำและเศษอาหารในตู้ปลา ซึ่งนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายราวก่อนปี พ.ศ. 2530 ต่อมาได้มีผู้คิดจะเลี้ยงเพาะขยายพันธุ์เป็นสัตว์เศรษฐกิจเพื่อการบริโภค แต่ยังไม่ได้รับความนิยมจึงปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ จนกลายเป็นปัญหาชนิดพันธุ์ต่างถิ่น แต่ในปัจจุบันนี้ หอยเชอรี่ได้กลับมาทวงบัลลังก์ความนิยมคืน จากกระแสอาหารรสแซ่บฉบับพี่น้องชาวอีสาน ที่ได้มีการนำเอาหอยเชอรี่ที่หลายคนไม่ต้องการมาปรุงใส่สรรค์สร้างในเมนูอาหารอย่างยำและส้มตำ จนทำให้ตอนนี้กระแสการเลี้ยงหอยเชอรี่ให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจกลับมาอีกครั้ง และประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้ด้วยการต่อยอดแปรรูปออกมาให้มีรูปแบบที่น่ากินมากยิ่งขึ้น

หอยเชอรี่เสียบไม้ สด สะอาด น่ากิน

คุณชฎาพร เบญมาศ หรือ คุณเวย์ อยู่บ้านเลขที่ 4/2 หมู่ที่ 6 ตำบลนิยมชัย อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี อดีตครูสอนดนตรี หันเอาดีด้านการเกษตร จากการปูพื้นฐานทำสวนผสมผสาน เลี้ยงหนูพุกสร้างรายได้เสริมควบคู่กับงานประจำมาก่อน จนเกิดความมั่นใจว่าอาชีพเสริมที่ทำอยู่จะสามารถต่อยอดสร้างรายได้หลักได้ จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นครู เพื่อกลับมาลุยต่อยอดงานเกษตรที่รักให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

คุณชฎาพร เบญมาศ หรือ คุณเวย์

เริ่มต้นต่อยอด จากอาชีพเสริม
ให้กลายเป็นอาชีพหลักที่มั่นคง

คุณเวย์ บอกว่า โชคดีก่อนลาออกจากงานประจำตนเองได้มีการวางรากฐานด้านงานเกษตรไว้แล้วส่วนหนึ่ง ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่มั่นใจแล้วว่าอาชีพเสริมที่ทำควบคู่กันมาจะสามารถเปลี่ยนมาเป็นรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวได้อย่างมั่นคง จึงไม่ลังเลที่จะลาออกจากงานประจำเพื่อเดินหน้าลุยงานที่รักอย่างเต็มตัว ด้วยการเริ่มต้นพัฒนาไปตามลำดับ จากที่บ้านพ่อแม่เป็นเกษตรกรก็ได้ซึมซับงานด้านการเกษตรออกมาแล้วต่อยอดมาเลี้ยงหนูพุก พร้อมแปรรูปก็ขายดีมาก และยิ่งพอได้ทำไปเรื่อยๆ ยิ่งเกิดความสนุกอยากที่จะต่อยอดเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ขึ้นมา ด้วยการยึดหลักว่าต้องเป็นสิ่งที่ทำง่าย หาได้ใกล้ตัว จนได้ไปเปิดเจอกับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหอยเชอรี่ ที่เมื่อก่อนเคยเป็นศัตรูพืชในไร่นา ผู้คนไม่ต้องการ แต่ในปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมนำหอยเชอรี่มาบริโภค นำมาเป็นส่วนประกอบในเมนูยำ ส้มตำ และลาบมากขึ้น จึงเกิดเป็นไอเดียที่จะจับหอยเชอรี่ที่เป็นอาหารพื้นบ้านตัวนี้มาต่อยอดสร้างรายได้

เปิดหน้าร้านขายในตัวเมืองจังหวัดลพบุรี

โดยเริ่มต้นจากการทดลองนำหอยเชอรี่มาเสียบไม้แล้วนำมาย่างทำกินกันเองในครอบครัวก่อน จากนั้นเมื่อได้กินเองแล้วรู้สึกถูกใจกับรสชาติ เคี้ยวเข้าไปแล้วสัมผัสถึงความกรุบคล้ายปลาหมึก จึงได้เริ่มขยับขยายทำย่างขายในชุมชนก็ได้ผลตอบรับดีมากอีกเช่นกัน และจากวันนั้นก็ได้มีการขยับขยายช่องทางออนไลน์ ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนไปถูกใจพี่ๆ คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ ก็เกิดเป็นการเจรจาซื้อขายและกลายมาเป็นลูกค้าประจำ ทำให้ตอนนี้ตลาดหอยเชอรี่เสียบไม้ของเราติดตลาดทั้งในและต่างประเทศแล้ว หากนับเวลาตั้งแต่เริ่มทำถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 8 เดือน ที่ได้เริ่มลองผิดลองถูกแปรรูปหอยเชอรี่เสียบไม้ขึ้นมา จนประสบผลสำเร็จในการสร้างรายได้

นำหอยเชอรี่ที่เก็บมาล้างทำความสะอาดก่อนนำไปลวก

ด้วยการอาศัยเทคนิคการหาตลาดอย่างง่ายๆ ใช้วิธีการนำเสนอขายคู่ไปกับหนูพุกอบที่เป็นผลิตภัณฑ์เดิมที่ขายส่งตลาดต่างประเทศเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนหอยที่นำมาแปรรูปนั้น ในช่วงแรกจะมีหอยที่เลี้ยงเองและรับซื้อมาจากคนในหมู่บ้าน แต่ในช่วงหลายเดือนหลังมานี้ความต้องการของผู้บริโภคมีเพิ่มมากขึ้น หอยที่เลี้ยงเองและรับจากคนในหมู่บ้านไม่เพียงพอ จนต้องทำการหาเครือข่ายจากคนรู้จักที่สุรินทร์มาเพิ่ม

การเลี้ยงเบื้องต้นไม่มีอะไรมาก หอยเชอรี่เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายมากๆ ที่บ้านจะปล่อยเลี้ยงในบ่อดินควบคู่ไปกับการเลี้ยงปลา หอยเชอรี่เจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ลูกหอยอายุเพียง 2-3 เดือน จะจับคู่ผสมพันธุ์ได้ตลอดเวลา หลังจากผสมพันธุ์ได้ 1-2 วัน ตัวเมียจะวางไข่ในเวลากลางคืน โดยคลานไปวางไข่ตามที่แห้งเหนือน้ำ เช่น ตามกิ่งไม้ ต้นหญ้าริมน้ำ โคนต้นไม้ริมน้ำ ข้างๆ คันนา และตามต้นข้าวในนา ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 4-5 เดือนก็สามารถจับขายได้แล้ว

ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี

 ขั้นตอนการแปรรูป
“หอยเชอรี่เสียบไม้”

เจ้าของบอกว่า สำหรับเทคนิคขั้นตอนการแปรรูปหอยเชอรี่เสียบไม้นั้นไม่ยาก สำคัญที่สุดคือความสดและสะอาด หากสามารถรักษามาตรฐานทั้ง 2 ข้อนี้ไว้ได้ เรื่องอื่นก็ไม่มีปัญหา

ขั้นตอนการแปรรูป

เปิดหน้าร้านขายในตัวเมืองจังหวัดลพบุรี

1. เริ่มต้นจากคัดเลือกไซซ์ของหอยเชอรี่ จะต้องเป็นไซซ์ที่พอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป หรือเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายขึ้น ก็คือไซซ์ที่พอเหมาะจะต้องมีขนาดตัวประมาณเหรียญ 5-10 จะเป็นไซซ์ที่กินได้อร่อยที่สุด แต่ถ้าหากใหญ่กว่านี้เนื้อจะเหนียว เคี้ยวยาก หรือถ้าหากขนาดตัวเล็กกว่านี้จะปัดเป็นไซซ์สำหรับนำไปทำยำ ส้มตำ และเมนูอย่างอื่นต่อไป

2. เมื่อคัดไซซ์หอยได้ตามที่ต้องการแล้ว จากนั้นนำมาล้างทำความสะอาด แล้วนำหอยเชอรี่ลงไปลวกในน้ำเดือด เพื่อให้ง่ายต่อการแกะเนื้อออกมา

3. จากนั้นใช้ด้ามช้อนงัดเอาแต่ส่วนหัว แล้วตัดส่วนปากและหนังคอทิ้ง

4. นำส่วนหัวที่ทำการตัดแต่งแล้ว ไปล้างทำความสะอาด โดยให้ล้างหลายๆ น้ำ และให้ผสมน้ำส้มสายชูลงไปล้างในน้ำสุดท้ายเพื่อกำจัดกลิ่นคาว

5. จากนั้นถึงตอนการนำมาเสียบไม้ โดยเทคนิคการเสียบไม้หากอยากให้น่ากิน ให้เริ่มเสียบจากหอยตัวใหญ่ไว้ข้างล่างแล้วไล่ตามลำดับขึ้นมา

6. นำมาแพ็กใส่ถุงเตรียมขาย บรรจุถุงละ 10 ไม้ น้ำหนักประมาณ 400 กรัม โดยรูปแบบการแพ็กหากส่งขายภายในประเทศจะแพ็กใส่ถุงพลาสติกธรรมดา แต่สำหรับการแพ็กถุงเพื่อนำส่งต่างประเทศจะแพ็กซีลสุญญากาศ

วิธีการเก็บรักษา หากเก็บรักษาไว้ในตู้แช่แข็งสามารถเก็บได้นานประมาณ 1 เดือน หรือหากพ่อค้าแม่ค้าท่านใดที่ไม่มีตู้แช่แข็งจะแนะนำให้แช่ในถังน้ำแข็งแล้วอัดน้ำแข็งลงไปเยอะๆ แล้วโรยเกลือด้านบน จะอยู่ได้นานประมาณ 1 อาทิตย์

เตรียมจัดส่งลูกค้าต่างจังหวัด

“หอยเชอรี่” จากอาหารพื้นบ้าน
สู่การสร้างรายได้หลักแสน

แพ็กถุงส่งขายในประเทศ

คุณเวย์ บอกว่า สำหรับการสร้างรายได้จากหอยเชอรี่เสียบไม้ของที่ฟาร์มถือว่ามาได้ไกลมากๆ จากอาหารบ้านๆ อย่างหอยเชอรี่ที่แค่มีการนำมาแปรรูปดัดแปลงนิดหน่อยทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงเฉพาะตลาดในประเทศ แต่รวมไปถึงตลาดต่างประเทศที่ทางฟาร์มทำส่งอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเกาหลี เยอรมนี ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ โดยรูปแบบการจัดส่งเนื่องจากที่ฟาร์มอยู่ห่างจากตัวเมืองลพบุรี จึงได้มีกำหนดจัดส่ง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ คือวันจันทร์ พุธ และศุกร์ โดยปริมาณการจัดส่งแต่ละครั้งประมาณหลัก 2,000-3,000 ไม้ ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นจะจัดส่งเฉลี่ยประมาณเดือนละ 2-3 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000 ไม้ต่อ 1 ประเทศ นับว่าเป็นที่พึงพอใจอย่างมากกับยอดขาย และในตอนนี้เพื่อเป็นการขยายสร้างฐานลูกค้าอยากให้คนทั่วไปได้ลองกินเยอะๆ จึงได้ทำการเปิดขายหน้าร้านในตัวเมืองจังหวัดลพบุรี ในรูปแบบย่างขายพร้อมน้ำจิ้ม นับว่าเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายจากอาหารพื้นบ้านที่หลายคนมองข้ามหรือบางคนยังไม่กล้ากิน ตอนนี้ได้กลายมาเป็นสินค้าสร้างรายได้ต่อเดือนเฉียดแสนบาทให้กับเรา

แพ็กถุงส่งขายในประเทศ

 ฝากถึงเกษตรกรมือใหม่

“หากใครสนใจที่จะหาอาชีพเสริม อย่างแรกไม่ต้องไปมองหาอย่างอื่นไกล ให้มองหาสิ่งที่ใกล้ตัวนี่แหละ แล้วก็ให้เริ่มจากความชอบ และยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบอะไรไม่เหมือนคนอื่นยิ่งดี เพราะอย่างตัวเวย์เอง เวย์เป็นคนที่ชอบอะไรที่แปลกไปกว่าคนอื่น ซึ่งในตอนที่ทำก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เวย์ทำจะขายได้ไหม แต่ลองทำไปก่อน ทำให้ตัวเองกิน ทำให้คนในครอบครัวกิน แล้วถ้ามันโอเคถึงค่อยทดลองเปิดตลาดเล็กๆ ขายในหมู่บ้านก่อน หรือถ้าอยากจะกระตุ้นยอดขายตอนนี้ ออนไลน์ช่วยคุณได้ เพียงแต่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า เพราะในสมัยนี้ลูกค้าออนไลน์จะกังวลเรื่องสินค้าไม่ตรงปกมากที่สุด เพราะฉะนั้น ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า ทำของให้ดี สด สะอาดอยู่เสมอ และเรื่องของราคาต้องให้จับต้องได้ตามกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างของเวย์จะขายส่งในราคาถุงละ 50 บาท ขายปลีกถุงละ 80 บาท ราคาส่งเท่ากันทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้ใครได้อีกหลายคน” คุณเวย์ กล่าวทิ้งท้าย

กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด อร่อยไม่แพ้ปลาหมึก
ซีลสุญญากาศเตรียมส่งขายตลาดต่างประเทศ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสั่งซื้อหอยเชอรี่เสียบไม้ ติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 083-330-8203

 

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่ื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2565