น้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่ม ฝีมือ มทร.ล้านนา วิทยาเขตลำปาง ดื่มง่าย สร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์

ข่าวการวิจัยของอาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร พบว่า มะม่วงมหาชนกสามารถเพิ่มสารต้านมะเร็ง สร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายมนุษย์ ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ลดการเกิดต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม มะม่วงมหาชนกที่สามารถต้านโรคมะเร็งได้และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งหลายชนิดได้นั้น มาจากผิวสีของผลที่มีสีแดง ซึ่งผลจากการค้นพบทำให้มะม่วงมหาชนกเริ่มกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง

กระแสการตื่นตัวผลจากการวิจัยมะม่วงมหาชนกจะช่วยให้ชาวสวนมะม่วงหันมาให้ใส่ใจมะม่วงมหาชนกกันอีกและยังเป็นการเพิ่มมูลค่ามะม่วงมหาชนกให้เป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มมากขึ้นได้ หลายคนไม่ชอบรับประทานมะม่วงมหาชนกเพราะติดกลิ่นขี้ไต้ของมัน ต้องกลับมาทบทวนการรับประทานมะม่วงมหาชนกกันใหม่ มะม่วงมหาชนกเป็นมะม่วงพันธุ์ลูกผสมที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างมะม่วงพันธุ์ซันเซตของอเมริกากับมะม่วงพันธุ์หนังกลางวันของไทย ผลยาวคล้ายมะม่วงหนังกลางวัน

อาจารย์วัชรี เทพโยธิน

มีลักษณะเด่นของที่เปลือกผลเมื่อแก่หรือสุกมีผิวสีแดงม่วงสวยงามหรือสีเหลืองเข้มปนแดง แต่มะม่วงมหาชนกที่รู้จักกันในวันนี้คงไม่ใช่ลักษณะเด่นของผลที่สวยงามดังกล่าวอีกต่อไป มะม่วงมหาชนกเป็นมะม่วงที่นิยมปลูกกันมากพันธุ์หนึ่ง เนื่องจากมะม่วงมหาชนกเหมาะต่อการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศเพราะมีเปลือกหนา ขนาดผลและรูปทรงสม่ำเสมอ นอกจากส่งออกในรูปแบบผลสดแล้วยังส่งออกไปในผลิตภัณฑ์จากการแปรรูป เช่น น้ำมะม่วง มะม่วงกระป๋อง เป็นต้น

ในการแปรรูปมะม่วงส่วนใหญ่นั้น มักใช้ผลมะม่วงส่วนที่เหลือจากการจำหน่ายหรือเมื่อมีผลผลิตล้นตลาดจึงจะถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามะม่วงทุกพันธุ์จะนำมาแปรรูปได้ทั้งหมด มะม่วงพันธุ์หนึ่งก็เหมาะกับผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ บางพันธุ์สามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง แต่บางพันธุ์แปรรูปได้ผลิตภัณฑ์ไม่กี่อย่าง

การแปรรูปมะม่วงทำได้ 2 แบบ คือ การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป หมายถึงการนำไปปรุงแต่งหรือผ่านกระบวนการง่ายๆ ก่อนการบริโภค เช่น แช่เยือกแข็ง ทำน้ำมะม่วง เนื้อมะม่วงสดตีป่น และน้ำมะม่วงเข้มข้น เป็นต้น และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มะม่วงสำเร็จรูปที่บริโภคได้ทันที เช่น มะม่วงดอง มะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงอบแห้ง มะม่วงกวน แยมมามาเลท ไอศกรีมมะม่วง เซอร์เบทมะม่วง เค้กมะม่วง โดนัทมะม่วง พายมะม่วง ท็อฟฟี่มะม่วง เจลกึ่งวุ้นมะม่วง กัมมี่แบร์มะม่วง และน้ำมะม่วงพร้อมดื่ม เป็นต้น

พร้อมดื่ม

ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ได้รับการตอบสนองจากผู้บริโภคกันอย่างกว้างขวาง ประชาชนในหลายประเทศต่างมีความห่วงใยใส่ใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพกันมากขึ้น เครื่องดื่มน้ำผลไม้พร้อมดื่มต่างๆ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค น้ำผลไม้มีประโยชน์ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ก็ยังพบว่าน้ำผลไม้พวกมะม่วงผลิตออกกันมาน้อย แต่ผู้บริโภคยังมีความต้องการอยู่ เนื่องจากน้ำมะม่วงมีโปรตีน วิตามินเอ และวิตามินซีสูง

ดังนั้น การแปรรูปเป็นน้ำมะม่วงพร้อมดื่มก็เพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค มีมะม่วงอยู่หลายพันธุ์สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมะม่วงได้ดี เช่น พันธุ์โชคอนันต์ มะม่วงแก้ว มะม่วง 3 ปี และมะม่วงมหาชนก แต่ก็พบว่า มะม่วงพันธุ์ 3 ปี สามารถผลิตเป็นน้ำมะม่วงพร้อมดื่มที่มีคุณภาพดี โดยมีสมบัติเด่น คือมีสีเหลืองเข้ม กลิ่นหอม รสชาติเปรี้ยวนำหวาน แม้มะม่วงมหาชนกจะเป็นรองในคุณสมบัติดังกล่าว แต่มะม่วงมหาชนกมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าที่สามารถต้านโรคมะเร็งหลายชนิด

ส่วนน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มที่เกิดจากแนวคิดของ อาจารย์วัชรี เทพโยธิน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ลำปาง ที่ต้องการทำให้มีน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มออกมา เพื่อสะดวกต่อการซื้อหาและให้ง่ายกับการบริโภค โดยอาจารย์วัชรีได้ทำการศึกษากระบวนการผลิตน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่ม จนได้ผลิตเป็นน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มขึ้นมา

 

ขั้นตอนการทำ

  1. เตรียมเนื้อมะม่วงมหาชนก ทำความสะอาดผลมะม่วง ปอกเปลือก ฝานเอาแต่เนื้อแยกเมล็ดออก บดให้ละเอียดด้วยเครื่องบด
  2. นำเนื้อมะม่วงที่ได้จากการบดมาผสมกับน้ำสะอาด ในอัตราส่วนของเนื้อมะม่วงต่อน้ำ เท่ากับ 1:2 (เนื้อ 1 ส่วน น้ำ 2 ส่วน) จากนั้นกรองน้ำมะม่วงที่ได้ด้วยผ้าขาวบาง จนได้เป็นน้ำมะม่วงล้วนๆ ไม่มีกากใยปนมาด้วย
  3. เติมน้ำทรายขาวให้ได้ระดับความหวานที่ 11 องศาบริกซ์ และปรับปริมาณกรดด้วยกรดซิตริก ร้อยละ 0.30 เติมเกลืออัตราส่วนร้อยละ 0.075 ต้มน้ำมะม่วงที่อุณหภูมิ 90-90 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 10 นาที
  4. นำน้ำมะม่วงจากการต้มแล้วบรรจุใส่ขวด โดยขวดจะผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว การบรรจุลงขวดกระทำขณะที่น้ำมะม่วงยังร้อน พร้อมกับการผนึกปิดฝาขวด
  5. นำขวดที่บรรจุน้ำมะม่วงแล้ว มาทำการพาสเจอไรซ์ ต้มฆ่าเชื้อโรคที่อุณหภูมิ 85-90 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาที เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการผลิตน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่ม เหลือเพียงขั้นตอนการปิดฉลากและการบรรจุลงกล่อง

น้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มสามารถเก็บในตู้เย็นได้นานประมาณ 6 เดือน เวลาดื่มควรเขย่าขวดก่อนเพื่อให้เนื้อกับน้ำผสมให้เข้ากันทั่ว

ต้ม
เครื่องบด
กรอง
ปิดฝา
พาสเจอไรซ์

อาจารย์วัชรีได้นำเทคโนโลยีการผลิตน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มนี้ไปถ่ายทอดสู่ภาคเอกชน จนภาคเอกชนสามารถผลิตน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มออกมาจำหน่าย แต่ยังผลิตได้อยู่ในจำนวนจำกัด น้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มนอกจากดื่มได้โดยตรงแล้วยังดื่มพร้อมน้ำแข็งได้ ส่วนเนื้อมะม่วงมหาชนกแช่แข็งเก็บไว้เป็นวัตถุดิบหลักนั้น จะทำให้สามารถผลิตน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มได้ตลอดปี โดยนำมะม่วงมหาชนกแช่แข็งออกมาทำการปล่อยทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนนำไปผสมกับน้ำตามอัตราส่วนที่กำหนด

ส่วนการยอมรับของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์น้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มนั้น พบว่าผู้บริโภคให้การยอมรับผลิตภัณฑ์น้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่ม คิดเป็นร้อยละ 97 ถ้าหากมีผลิตภัณฑ์น้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มออกจำหน่ายในราคาขวดละ 15 บาท บรรจุขวดในปริมาตรสุทธิ 330 มิลลิลิตร

แต่สารที่สามารถต้านโรคมะเร็งได้ จากมะม่วงมหาชนกมาจากผิวสีของผลที่มีสีแดง ดังนั้น ถ้าจะให้น้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มมีสรรพคุณต้านทานโรคมะเร็งได้ การทำน้ำมะม่วงมหาชนกพร้อมดื่มคงต้องใส่เปลือกมะม่วงมหาชนกผสมลงด้วยก็เป็นได้

ผู้ที่สนใจต้องการทำน้ำมะม่วงพร้อมดื่ม ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ อาจารย์วัชรี เทพโยธิน โทร. (081) 472-3916 หรือ email : [email protected]