กสส.หนุนสหกรณ์ผลักดันสมาชิกปลูกข้าวโพดหลังนาป้อนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ สร้างรายได้ดีกว่าทำนา

กรมส่งเสริมสหกรณ์ปลื้มข้าวโพดหลังนาขยายผลสำเร็จ ทำรายได้สูงกว่าข้าวนาปรังกว่า 3 เท่า ยกสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นต้นแบบ เตรียมหนุนสมาชิกปลูก เชื่อสงครามมีผลกระทบวัตถุดิบอาหารสัตว์ส่งราคาข้าวโพด อาจสูงถึง 10 บาทต่อกิโลกรัม

นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า โครงการสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังนาได้ผลเป็นที่น่าพอใจโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ที่สหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ลงมือปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวนาปรังมาเป็นข้าวโพดหลังนาสร้างรายได้มากกว่าการปลูกข้าวถึง 3 เท่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา สหกรณ์ยังคงเดินหน้าส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาอย่างต่อเนื่อง เดิมเกษตรกรปลูกข้าวได้กำไร 1,200 บาทต่อไร่ เมื่อเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดทำให้ได้กำไรเพิ่มเป็น 4,170 บาทต่อไร่ กรมจึงได้ส่งเสริมให้มีการขยายผล

ปัจจุบันมีสหกรณ์หลายแห่งมองข้าวโพดเป็นพืชทางเลือกใหม่ จึงมีสมาชิกสหกรณ์หันมาปลูกข้าวโพดในฤดูแล้งเพิ่มมากขึ้น เฉพาะที่อุตรดิตถ์จาก 2,300 ไร่ เพิ่มเป็น 10,130 ไร่ ประกอบกับสถานการณ์สงครามทั้งยูเครนและเมียนมากระทบต่อการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น จึงเชื่อว่าจะจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวโพดเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

“เกษตรกรที่ปรับจากการปลูกข้าวนาปรังมาปลูกข้าวโพดหลังนา แม้จะไม่มากหากเปรียบเทียบกับความต้องการในประเทศที่มีประมาณ 8 ล้านตัน ประเทศไทยผลิตได้เพียง 4-5 ล้านตัน ปลูกข้าวโพดฤดูแล้งทำรายได้ที่ดีเปรียบเทียบต่อไร่ระหว่างข้าวกับข้าวโพด กสส.ประเมินว่าจากสถานการณ์สงครามที่ยูเครนกระทบต่อการส่งออกพืชทดแทน ได้แก่ ข้าวสาลีและที่เมียนมากระทบต่อการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้ในประเทศขาดแคลนกว่า 3 ล้านตัน ส่งผลให้ราคาข้าวโพดสูงขึ้น ปลายปีที่ผ่านมาราคาขึ้นไปถึง 8-9 บาทต่อกิโลกรัม ระดับความชื้น 15% จากปัญหาเมียนมา ประกอบกับปัญหาสงครามยูเครนคาดว่าจะดึงราคาข้าวโพดขึ้นไปกว่า 10 บาทต่อกิโลกรัม เชื่อว่าเกษตรกรจะหันมาปลูกข้าวโพดเพิ่มทั้งในฤดูและนอกฤดู จากราคาที่จูงใจ ประกอบกับใช้เวลาปลูกเพียง 120 วันเท่านั้น กสส.จึงพร้อมสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรที่มีธุรกิจรวบรวมข้าวโพดมาช่วยรับซื้อและเชื่อมโยงตลาด กสส.มีงบสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพสหกรณ์หรืองบ พ.ร.ก.ฉุกเฉินสถานการณ์โควิด ตามนโยบายของ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้มีการปรับปรุงยุ้งฉาง ลานตาก โกดัง หรือเครื่องอบลดความชื้น และพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด” นายอัชฌา กล่าว