เชอรี่หวานออสเตรเลีย ปลูกได้ในเมืองไทย

เชอรี่หวานออสเตรเลีย หรือ อะเซโรล่าเชอรี่

หลายท่านอาจจะเคยเห็น ผลไม้ทรงกลมป้อม เล็กสีแดงสด เมื่อสุกจัดจะมีสามสีอยู่บนต้น คือ เขียว จะเริ่มสู่สีส้มอมเหลือง พอแก่จัดก็จะเป็นสีแดงสดสวยงาม ประดับอยู่บนต้นทรงพุ่มเตี้ย ที่ดกเต็มต้น ตัดกับสีเขียวเข้มของใบ ดูแล้วสวยงาม

สีสันของผลเชอรี่หวานออสเตรเลีย สดใส สวยงาม น่ารับประทาน

ผลไม้ชนิดนี้หลายคนอาจจะส่ายหน้าไม่รู้จัก แต่ถ้าเห็นแล้วก็จะทราบว่าเป็นผลไม้เมืองร้อนทั่วไป พันธุ์พื้นเมืองบ้านเราก็มี ลักษณะเหมือนกัน ต่างกันที่รสชาติ ของไทยเราจะเปรี้ยวจัด ต้องจิ้มพริกเกลือ แต่พันธุ์จากออสเตรเลีย จะหวานอมเปรี้ยวรับประทานผลสดได้เลย

มารู้จักที่มาของ อะเซโรล่าเชอรี่ และผลของการวิจัย

อะเซโรล่าเชอรี่ (Acerola Cherry) อยู่ในพืชตระกูล Malpighiaceae ที่มีลำต้นเป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ สูงประมาณ 6 เมตร ออกดอกและผลเป็นช่อๆ ลักษณะคล้ายผลเชอรี่ เส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 1.25-2.5 เซนติเมตร มีผิวที่บางและช้ำง่ายมาก รสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลไม้ขนาดกลมป้อมนี้ มีวิตามินสูง จึงมีบริษัทอาหารเสริมต่างๆ ใช้เป็นส่วนผสม เพื่อชะลอวัย แต่วันนี้ได้นำพืชชนิดนี้มาเสนอให้ทุกท่านเลือกปลูกเพื่อรับประทานผลสดได้ที่บ้าน โดยการปลูกเป็นพืชที่มีประโยชน์ทั้งสดชื่นและคุณค่าทางวิตามินซีสูงชนิดหนึ่ง ที่สามารถจับต้องได้

ผลสุกไล่เลี่ยกัน

 เราได้อะไรจาก อะเซโรล่าเชอรี่ บ้าง

อันดับแรกพบว่า จากขนาดอะเซโรล่าเชอรี่ จำนวน 100 กรัม จะให้พลังงานเพียง 59 กิโลแคลอรี เท่านั้น ทำให้เหมาะมากสำหรับเป็นอาหารควบคุมน้ำหนัก แต่พร้อมกันนี้จะพบว่า ผลอะเซโรล่าเชอรี่ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวิตามินซี และวิตามินเอ ในต่างประเทศพบว่า อะเซโรล่าเชอรี่ เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงมาก จึงทำให้โครงสร้างผิวและคอลลาเจนในผิวแข็งแรง รวมถึงวิตามินเอที่มีมากและให้ประโยชน์ในด้านการรักษาบาดแผล และรวมถึงการปกป้องกันผิวจากแสงแดด ซึ่งอะเซโรล่าเชอรี่ ให้วิตามินซีสูงถึง 1,644 มิลลิกรัม ซึ่งสูงกว่าระดับปกติที่ร่างกายต้องการหลายเท่า เช่นเดียวกับวิตามินเอ ที่ได้รับถึง 752 หน่วย และเนื่องจากวิตามินทั้ง 2 ตัวนี้ จึงมีผลต่อการกระตุ้นภูมิต้านทานในร่างกายในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว

ลำต้นทรงพุ่มเตี้ย

แม้จะดูเหมือนว่า อะเซโรล่าเชอรี่ จะมีผลดีมากในด้านการให้วิตามินซี แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าจะรับประทานได้ทุกคนอย่างไม่มีข้อควรระวัง เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงมาก วิตามินซีอาจทำปฏิกิริยากับยาในกลุ่มควบคุมการแข็งตัวของเลือด และอาจลดประสิทธิภาพของยาลงได้ และสำหรับวิตามินที่สูงมากก็อาจมีผลต่อการทำงานของไต ถ้าเป็นผู้ป่วยที่มีโรคไตอยู่แล้ว การบริโภคอะเซโรล่าเชอรี่ควรอยู่ในการควบคุมหรือให้คำแนะนำของแพทย์ด้วย จึงจะปลอดภัยในการบริโภค

ทั้งหมดนี้คือ อะเซโรล่าเชอรี่ ผลไม้ที่ให้ประโยชน์ด้านการเสริมสร้างคอลลาเจนและความงามของผิวพรรณ จากวิตามินซีและวิตามินเอที่สูง แต่อยู่ในรูปแบบของสารสกัด (ขอบคุณ ที่มา : ifit4health.com)

เชอรี่หวาน หรือ อะเซโรล่าเชอรี่ เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีปริมาณวิตามินซีอันอุดมสมบูรณ์ที่สุด ชนิดหนึ่งของโลก โดยมีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 50 เท่า นอกจากนั้น ยังมีสารอาหารตามธรรมชาติ ที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เรียกว่า สารพฤกษเคมี (Phytofactors) นิยมนำมาผลิตอาหารเสริมบำรุงผิว

อาจารย์วิเชียร บุญเกิด

ประโยชน์ของ อะเซโรล่าเชอรี่

  1. 1. ผลไม้แห้งการต่อต้านอนุมูลอิสระ… เราทราบกันดีว่า อนุมูลอิสระเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเสื่อมถอยลง เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ต้นเหตุของริ้วรอยเหี่ยวย่นซึ่ง อะเซโรล่าเชอรี่ มีสารที่เรียกว่า ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) สารตัวนี้จะทำหน้าที่ร่วมกับวิตามินซี ช่วยเกิดกลไกต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกายของคุณเซลล์ของคุณจึงได้รับการปกป้อง มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น
  2. 2. ชะลอผิวพรรณให้แลดูอ่อนเยาว์… เป็นผลไม้ที่ควรค่าแก่การบริโภคมากๆ เพราะช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เนื่องจากอะเซโรล่าเชอรี่ (Acerola cherry Extract)จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวของคุณมีความยืดหยุ่นนั่นเอง ผิวจึงเนียนละเอียดมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น รอยเหี่ยวย่นต่างๆ ลดลง
  3. 3. สร้างภูมิคุ้มกันได้ดี… อย่างที่ทราบว่า โรคมะเร็ง ยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ อาจเกิดจากการทำงานของเซลล์ที่เสื่อมลง ภูมิคุ้มกันลดลง อะเซโรล่าเชอรี่ (Acerola cherry Extract) มีสารที่ยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง รวมถึงช่วยยับยั้งเอ็นไซม์ที่ทำให้มะเร็งมีการกระจายตัวอีกด้วยค่ะ ทั้งยังเสริมสร้างภูมิต้านทาน ระดับของเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นในเลือดส่งผลให้เกิดการกำจัดเชื้อโรคจากร่างกายได้ดี
  4. 4. บรรเทาโรคเบาหวาน… โรคเบาหวาน เป็นอีกโรคหนึ่งที่ถูกจัดอันดับอยู่ในระดับที่คนเป็นมากที่สุดโรคหนึ่ง…อะเซโรล่าเชอรี่ จะช่วยลดการเกิดโรคเบาหวานได้เพราะสามารถชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรต และการดูดซึมกลูโคส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานมีความคงที่มากขึ้นเรียกว่าเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยเบาหวานไม่ต้องกังวลเหมือนผลไม้ชนิดอื่นๆ
  5. 5. มีวิตามินซีที่มหัศจรรย์… อะเซโรล่าเชอรี่ (Acerola cherry Extract) ประกอบด้วยวิตามินซีที่ทำให้การดูดซึมได้ดีกว่าวิตามินซีทั่วไป เราจึงไม่ต้องแปลกใจกันเลยว่า ทำไม มันจึงถูกนำไปสกัดเป็นอาหารเสริม เพราะการดูดซึมได้ดีนี้ จะทำให้ร่างกายได้วิตามินซีอย่างเต็มที่ทั้งนี้ผงอะเซโรล่าเชอรี่ สามารถเกิดประโยชน์ต่อร่างกาย (Bioavailable) ได้มากกว่าวิตามินซีที่สังเคราะห์แบบทั่วไปเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับวิตามินซีจากอะเซโรล่าเชอรี่ และวิตามินซีอื่นๆ ในปริมาณเท่าๆ กัน
  6. 6. มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา… อะเซโรล่าเชอรี่ (Acerola cherry Extract) มีผลต่อต้านเชื้อรา เพราะมีสารออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราชนิดต่างๆ เมื่อร่างกายได้รับอะเซโรล่าเชอรี่ จะเกิดกระบวนการจากกลไกภายใน เป็นแอนติบอดี้โดยธรรมชาติ ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อราตามผิวหนัง หรือในส่วนต่างๆ ของร่างกายได้

เพราะฉะนั้น อะเซโรล่าเชอรี่ (Acerola cherry Extract) จึงเป็นที่นิยมนำมาสกัดสารแอนตี้บอดี้โดยธรรมชาติ ที่ช่วยดูแลระบบการทำงานจากภายใน คุณจึงไม่ใช่เพียงจะมีผิวที่สวย แต่เซลล์ของคุณจะแข็งแรง สุขภาพจะดี

จากข้อมูลทางด้านอาหารดังกล่าวข้างต้น อาจารย์วิเชียร บุญเกิด อยู่บ้านเลขที่ 161/2 หมู่ที่ 1 ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นอีกท่านหนึ่งที่สรรหาพืชชนิดนี้มาปลูก อย่างน้อยก็ปลูกไว้เพื่อรับประทานผลสดที่บ้าน นอกเหนือจากความสวยงามของต้นแล้วยังได้ประโยชน์อีกด้วย

ยังไม่สุกเต็มที่

อาจารย์ปลูกอะเซโรล่าเชอรี่อย่างไร

และสร้างรายได้อย่างไร

ผลไม้แต่ละชนิดมีความโดดเด่น ความพิเศษ และคุณลักษณะเฉพาะแตกต่างกันออกไป

“เชอรี่หวานออสเตรเลีย ที่ผมนำมาเป็นกิ่งพันธุ์นี้ ยังเป็นพืชใหม่ เหมาะสำหรับท่านที่ใช้ปลูกเป็นพืชผสมผสานกับสวนให้มีพืชหลากหลาย ถ้าแนะนำเรื่องรายได้ ถ้าปลูกมากๆ ก็นำมาแปรรูปตากแห้ง นำไปชงดื่ม หรือขายผลสด เพราะพืชชนิดนี้เป็นทั้งอาหารและยา เป็นผลไม้ที่ปลูกแล้วสามารถทำให้คุณยิ้มได้ และสดชื่นในทุกๆ เช้า มีไว้ที่บ้านนะครับ” อาจารย์บอก

วิธีการปลูก… แนะนำให้ขุดหลุมไม่ต้องลึกมาก ประมาณ 30 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร ใช้ขุยมะพร้าวสับหยาบรองพื้น และปุ๋ยคอก รดน้ำสม่ำเสมอเช้าเย็นในช่วงแรก

คุณค่าทางอาหารสูง

การดูแล… ต้นเชอรี่หวานออสเตรเลีย ไม่ค่อยมีโรคพืช นอกจากถ้าขาดน้ำมาก จะมีเพลี้ยแป้งเกาะตามกิ่งหรือก้านของผล ให้ตัดส่วนที่เป็นเพลี้ยทิ้ง และฉีดพ่นด้วยน้ำส้มควันไม้ สำหรับผลสดก็ระวังนกกับกระรอกครับ แต่ที่สวนผมก็แบ่งๆ ให้กินครับ เสียงนก ก็เพราะดี ทำให้รู้ได้ว่าต้นไม้ในพื้นที่เรานอกจากคลุมดินแล้ว ยังให้ร่มเงาสัตว์ได้ด้วย

“ผมปลูกเชอรี่หวานออสเตรเลีย เป็นส่วนหนึ่งของพืชที่สวนผสมผสานของผม เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนและยังขายกิ่งพันธุ์แก่ท่านที่สนใจ โทร.สอบถามเพิ่มเติมผมได้ที่ 085-244-1699 สวนสุวรรณีปรางทอง จังหวัดกำแพงเพชร” อาจารย์วิเชียร บอก…