8 พืชคลุมดิน แต่งสวนก็สวย ปลูกไว้ก็กินได้

“ปลูกพืชคลุมดิน” พืชที่ปลูกหรือหว่านให้มีการเจริญเติบโตอย่างหนาแน่น มีใบหนามีระบบรากแน่นสำหรับคลุม หรือยึดดิน เจริญคลุมพืชทุกอย่างที่อยู่บนดิน เพื่อช่วยให้ดิน มีสิ่งรองรับแรงปะทะ และพัดพาจากกระแสน้ำ และกระแสลม

ใครที่กำลังมองหา “พืชคลุมดิน” ที่นอกเหนือจากการปูหญ้า ยังมีพืชชนิดอื่นๆ ที่ใช้ปลูกเพื่อคลุมดินได้ วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านรวบรวมมาให้ทั้งหมด 8 ชนิดด้วยกัน อีกทั้งยังสามารถปลูกไว้กินได้อีกด้วย นอกจากช่วยคลุมดิน ตกแต่งสวนได้แล้ว กินได้อีกด้วย จะมีชนิดไหนกันบ้างตามมาดูกันเลย

ผักแว่น
ผักแว่น

ผักแว่น

วัชพืชพุ่มเตี้ยขนาดเล็กขึ้นปกคลุมผิวดินเป็นกลุ่ม ลำต้นมีขนปกคลุม ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ ลักษณะเป็นรูปหัวใจ ปลายใบเว้ารูปทรงคล้ายใบโคลเวอร์ ดอกมีสีเหลืองออกดอกตลอดทั้งปี ลำต้นไหลทอดยาวไปตามพื้นดิน

การปลูก : เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุยและชุ่มชื้น จึงงอกงามมากในช่วงหน้าฝน โดยไม่ต้องดูแลตัดแต่ง ทนต่อการเหยียบย่ำพอสมควรจึงปลูกแทนหญ้าได้ นิยมนำมาปลูกตามลานดิน ปลูกไว้ตามซอกหินหรือระหว่างทางเท้า

ชะพลู
ชะพลู

ชะพลู

เป็นพืชคลุมดินที่นิยมปลูกกันทั่วประเทศ เป็นไม้คลุมดินสูง 50-70 เซนติเมตร ชอบแสงรำไร มักปลูกคลุมดินใต้ต้นไม้ใหญ่ ใบมีกลิ่นหอมสามารถใช้ประกอบอาหารได้

Advertisement

การปลูก : เป็นผักสวนครัวที่ปลูกดูแลง่าย นิยมขยายพันธุ์ต้นชะพลูด้วยวิธีการตัดหรือเด็ดกิ่งก้านส่วนยอดของต้นชะพลู โดยให้มีใบติดอยู่สัก 2-3 ใบ นำมาปักชำในกระถางที่มีดินร่วนซุย ปลูกในระยะห่าง 10-15 เซนติเมตร วางกระถางในบริเวณที่ร่มรำไร รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ชะพลูจะออกรากและเติบโตเป็นต้นภายใน 1-2 เดือน ควรใส่ ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกบำรุงต้นชะพลู ทุกๆ 3 เดือน

แว่นแก้ว
แว่นแก้ว

แว่นแก้ว

Advertisement

เป็นผักพื้นบ้านที่ให้ธาตุไนอะซิน โดยส่วนใหญ่จะปลูกเป็นไม้คลุมดิน แทนหญ้าบริเวณริมน้ำ หรือบริเวณดินเลนที่มีน้ำตื้นๆ นอกจากนี้ ยังนำมากินคู่กับน้ำพริกก็อร่อย ส่วนรากห้ามทิ้งเพราะมีประโยชน์หลายหลาก สามารถนำมาต้มดื่มรักษาโรคเกี่ยวกับตับและลำไส้ ช่วยขับปัสสาวะ รักษาแผลให้สมานไวขึ้น

การปลูก : แว่นแก้วเป็นผักที่เจริญเติบโตได้ไว เหมาะสำหรับการปลูกในดินร่วนหรือดินเหนียว เป็นพืชที่ชอบแสงเต็มวัน และชอบน้ำ เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ชื้นแฉะ มักนิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำไหล ถ้าอยากให้ใบเขียวสดก็ควรปลูกในที่มีแดดส่องถึงก็เพียงพอ และควรบำรุงด้วยปุ๋ยทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้ต้นแข็งแรง

สะระแหน่
สะระแหน่

สะระแหน่

สะระแหน่เป็นพืชประเภทไม้เลื้อยคลุมดิน ที่ลำต้นทุกส่วนอวบน้ำ มีสีเขียวปนม่วงแดง แตกกิ่งก้านเป็นพุ่ม เลื้อยไปตามผิวดิน รากออกตามข้อ ลำต้นและใบมีขนสีขาว ใบเดี่ยว ปลายใบกลมมน โคนใบมน ขอบใบหยักมน แผ่นใบหยิกย่น เส้นใบเป็นร่องชัดเจนและมีขนแข็งเล็กๆ ผิวใบด้านบนสีเขียวสดถึงเขียวอ่อน

การปลูก : ต้นสะระแหน่ชอบดินร่วนซุยที่ระบายนํ้าได้ดีและต้องการแสงสว่าง แต่ ไม่ต้องการแดดที่ร้อนจัดจนเกินไป จะปลูกในที่ร่มรำไรหรือในที่แดดก็ได้ ควรเลือกกิ่งสะระแหน่ที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ปักจิ้มลงไปในแปลงเพาะชำ หรือแปลงปลูก ปักให้กิ่งเอนทาบกับดิน รดน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าให้ถึงกับแฉะแล้วโรยแกลบทับกลบดินเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้หน้าดิน และเมื่อแกลบผุก็จะกลายเป็นปุ๋ยต่อไป ประมาณ 4-5 วันก็จะแตกใบ แตกยอดเลื้อยคลุมดิน

โรสแมรี่
โรสแมรี่

โรสแมรี่

ปลูกเป็นไม้กระถาง ไม้ประดับแปลง ไม้คลุมดินชนิดเลื้อย ใบใช้สกัดน้ำมันหอมระเหย เป็นส่วนผสมของยา เครื่องสำอาง มีกลิ่นหอม รสเผ็ดร้อน ใช้แต่งกลิ่นอาหารจำพวกเนื้อ ชา และไวน์ นิยมปลูกเป็นสมุนไพรในสวนครัว

การปลูก : โรสแมรี่เป็นพืชที่ปลูกง่าย มีทั้งชนิดพุ่ม และชนิดเลื้อย ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี ควรปลูกในพื้นที่กลางแจ้งหรือแสงแดดมากพอ รดน้ำไม่น้อยไป ไม่มากไปแนะนำให้รดน้ำตอนเช้า 1 ครั้งเท่านั้น แค่ให้พอดินชุ่ม การปลูกโรสแมรี่ไม่ควรปลูกชิดติดกัน ควรมีระยะห่างการปลูกในแปลงประมาณ 50 เซนติเมตร มักจะขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง หรือเพาะเมล็ด

ก้ามปูหลุด
ก้ามปูหลุด

ก้ามปูหลุด

เป็นพืชที่สามารถปลูกประดับไว้ในที่ร่มหรือเรือนกระจก เหมาะกับการปลูกคลุมดิน ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ มีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร ใบเดี่ยวรูปไข่ สีเขียวเข้มหรือสีเขียวปนม่วงแดง มีแถบสีเทาเงิน 2-3 แถบพาดตามความยาวใบ ใต้ใบสีม่วงแดง โดยใบสามารถนำมาต้มดื่มเพื่อบรรเทาอาการบวมตามร่างกาย

การปลูก : ต้นก้ามปูหลุดจะเจริญเติบโตได้ดีที่เป็นแสงรำไร หรือแสงแดดครึ่งวันเช้า สามารถปลูกบริเวณกลางแจ้งได้ เป็นพืชที่ชอบความชื้น ต้องการน้ำในระดับปานกลาง หลังปลูกควรรดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่แฉะ ดินที่เหมาะกับการปลูกต้นก้ามปูจะเป็นดินร่วนปนทราย เป็นดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี และบำรุงใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปีละ 2 ครั้ง

เตยหอม
เตยหอม

เตยหอม

สามารถใช้ปลูกคลุมดินบริเวณริมน้ำ เพื่อให้รากช่วยยึดดินไม่ให้พังทลาย เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวลักษณะแตกกอเป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นเป็นข้อ ใบออกเป็นพุ่มบริเวณปลายยอด เมื่อโตจะมีรากค้ำจุนช่วยพยุงลำต้นไว้ และมีสรรพคุณล้นหลาม และนำมาประกอบเมนูต่างๆ ได้อีกมากมาย

การปลูก : เป็นพืชที่ปลูกดูแลง่าย ชอบแสงแดดรำไร แต่ถ้าไม่โดนแดดเลยจะโตช้า เป็นพืชที่ชอบน้ำ หากดินปลูกไม่มีส่วนผสมของดินเหนียว จึงควรต้องรดน้ำให้ชุ่มแฉะ ยิ่งมีน้ำขังจะยิ่งแตกกอได้ไว และสามารถปลูกได้ทุกฤดู แต่ฤดูที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงฤดูฝน จะไม่ต้องดูแลมาก ควรรดน้ำวันละ 2 รอบ คือช่วงเช้าและเย็น ต้องเป็นช่วงที่มีแสงแดดไม่จัด และบำรุงต้นด้วยการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ในช่วงเดือนที่ 2 เป็นต้นไป

บัวบก
บัวบก

บัวบก

นิยมปลูกลงดินริมน้ำหรือบริเวณที่ชื้น ลำต้นเล็ก ๆ ทอดเลื้อยไปตามผิวดินที่ชุ่มชื้น รากออกตามข้อ ความสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร ใบกินแกล้มกับอาหารได้หลายอย่าง ให้แคลเซียมและวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย ขับปัสสาวะ ลดความดันแก้ช้ำใน

การปลูก : ต้นใบบัวบกชอบแสงแดดครึ่งวัน หรือแสงเต็มวัน เป็นพืชที่ชอบความชุ่มชื้น จึงควรรดน้ำชุ่มๆ ทุกวัน เช้า-เย็น ดินที่ปลูกต้องกักเก็บความชื้นได้ดี สามารถปลูกในดินเหนียวได้ดีมากๆ ควรใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจน หลังจากปลูกได้ประมาณ 30 วัน

การปลูกพืชคลุมดิน

  1. ปลูกให้เจริญเติบโตอยู่บนดินในระยะที่ไม่มี การปลูกพืชหลัก 
  2. ปลูกโดยวิธีหว่านลงไปในระหว่างแถวของไม้ยืนต้น ซึ่งนิยมทำกันมากในสวนยางและสวนผลไม้ 
  3. ปลูกตามแปลงปลูกพืชบนคันดิน ตามขั้นบันไดบนทางระบายน้ำ

ประโยชน์ของพืชคลุมดิน 

  1. ช่วยป้องกันการชะล้างหน้าดิน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ความลาดเอียง เมื่อฝนตกหนักจะช่วยรองรับแรงปะทะของเม็ดฝน ทำให้ความเร็วลดลงก่อนที่จะทำใหดินถูกพัดพาไปที่อื่น 
  2. ช่วยลดความเร็วและการกระจายของการไหลน้ำที่ไหลบ่าบนผิวดิน จึงทำให้น้ำซึมลงไปในดินได้มากขึ้น 
  3. เพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน เมื่อมีการไถกลบต้นเถา หรือใบของพืชคลุมร่วงหล่นลงไปในดิน 
  4. ถ้าเป็นพืชคลุมดินที่เป็นพืชตระกูลถั่วจะสามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศมาใช้ประโยชน์เพิ่มเติมให้แก่ดิน 
  5. ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินไว้ให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ 
  6. ช่วยต่อต้านขัดขวางการเจริญเติบโตของพืชที่ไม่ต้องการ เช่น หญ้าคาและวัชพืชต่างๆ 
  7. รากของพืชคลุมช่วยทำให้ดินโปร่ง มีช่องอากาศมากขึ้น สามารถระบายน้ำได้ดี

การปลูกพืชคลุมดิน นอกจากจะช่วยรักษาความชื้นในดินแล้ว ยังช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดิน ป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ลดอุณหภูมิภายในดิน ช่วยป้องกันวัชพืช

ขอบคุณภาพ : Kaset today / สมุนไพรดอทคอม

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมการเกษตร / กรมพัฒนาที่ดิน / บ้านและสวน

 

เผยแพร่ออนไลน์ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ.2567