ผู้เขียน | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
มะรุม มีประโยชน์มากมาย ใช้บริโภคได้ตั้งแต่ใบอ่อน ดอก ฝักอ่อน และฝักแก่ หรือแม้แต่เมล็ดยังสามารถนำไปสกัดน้ำมันได้อีกด้วย นอกจากนี้ มะรุมยังปลูกง่าย เติบโตเร็ว และทนต่อโรค แม้แต่ปลูกในกระถางก็ให้ผลดีและอยู่ได้หลายปี
วิธีปลูก คัดเลือกเมล็ดที่สมบูรณ์ และแก่เต็มที่ หากหาพันธุ์อินเดียได้จะยิ่งดี เพาะเมล็ดที่เตรียมไว้ลงในถุงเพาะชำสีดำ มีวัสดุปลูกที่ร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี หลังเมล็ดงอกประมาณ 2 เดือน ต้นกล้าจะเลื้อยและทอดยอดสูง หรือยาวประมาณ 25 เซนติเมตร ให้ใช้มีดคมๆ และสะอาดตัดต้นให้เตี้ยลง เหลือเพียง 12 เซนติเมตร ผูกกับหลักไม้ขนาดพอเหมาะ ให้ต้นตั้งตรง อีกไม่นานต้นกล้าจะแตกยอดใหม่ออกมาด้านข้างใต้รอยตัดลงมาเล็กน้อย
บำรุงต่อไปอีก 2-3 เดือน ต้นกล้าจะแข็งแรง สมบูรณ์ ลำต้นมีขนาดใกล้เคียงกับแท่งดินสอดำ พร้อมนำลงปลูกในกระถางมังกร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15-18 นิ้ว หรือใหญ่กว่าก็ได้ ใส่ดินผสมประกอบด้วยดินร่วนสะอาด และกาบมะพร้าวสับขนาดเล็ก หรือแกลบดิบอย่างใดอย่างหนึ่ง อัตรา 3 : 1 พร้อมเติมปุ๋ยคอกเก่าเล็กน้อย คลุกเคล้าจนเข้ากันดีแล้วใส่เกือบเต็มกระถาง ฉีกถุงเพาะชำต้นกล้าที่เตรียมไว้ ระวังอย่าให้ระบบรากฉีกขาด ปลูกลงที่กลางกระถาง กลบดินพอแน่น ปักหลักไม้ผูกกับต้นกล้า ป้องกันลมพัดโยก ใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนโต๊ะ โรยบางๆ รอบต้นกล้าแล้วรดน้ำตาม วางกระถางในตำแหน่งที่รับแดดได้เต็มที่
แต่ช่วง 3-5 วันแรก ควรพรางแสงให้บ้าง ครบกำหนดแล้วเปิดให้รับแสงได้ หมั่นดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากกระถางมีพื้นที่ขนาดเล็ก ระบบรากจึงถูกกำจัดพื้นที่ ทำให้ประสิทธิภาพการหาอาหารต่ำลง ปุ๋ยจึงขาดไม่ได้ จึงจำเป็นต้องให้ปุ๋ยสูตรเดิม อัตรา 1-2 ช้อนโต๊ะ เดือนละ 2 ครั้ง แต่อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม เมื่อต้นมะรุมมีอายุ 5-6 เดือน ต้นจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้องตัดต้นให้เตี้ยลง เหลือความสูงไว้เพียง 50-80 เซนติเมตร ทาแผลด้วยปูนแดง ป้องกันเชื้อโรค บำรุงต้นต่อไป ภายใน 1 สัปดาห์ ต้นมะรุมจะแตกยอดใหม่ออกทางด้านข้าง ใต้รอยตัด
หมั่นรดน้ำใส่ปุ๋ย เมื่อต้นมะรุมมีอายุ 7 เดือน หลังจากปลูกลงในกระถาง ต้นมะรุมจะออกดอกสะพรั่ง ระยะนี้ให้โชยน้ำเป็นละอองไปที่ดอก จะช่วยให้ติดฝักดีขึ้น ทอดระยะไปอีกประมาณ 1-2 เดือน ฝักมะรุมจะสมบูรณ์เต็มที่ สามารถเก็บเกี่ยวไปบริโภคได้ตามต้องการ
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2563