เพลิดเพลินกับการทำสวนผลไม้ สไตล์ข้าราชการวัยเกษียณ ได้ผลผลิตดี ราคาไม่ธรรมดา

อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ถือเป็นทำเลที่ได้เปรียบทางด้านเกษตรกรรม เพราะเป็นพื้นที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำน่านและยม ซึ่งเป็นแหล่งการเกษตรที่สำคัญของจังหวัด

ในวาระที่เดินทางไปอำเภอบางระกำนี้เอง เราได้มีโอกาสได้รู้จัก คุณสมปอง พงษ์ศักดิ์ศรี ซึ่งอดีตเคยรับราชการอยู่ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.กระทั่งภายหลังเกษียณ ท่านได้กลับมาบ้านเกิดเลขที่ 99 หมู่ 15 ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก อีกครั้งเพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบมากที่สุดในชีวิต นั่นคือการปลูกต้นไม้ จนนำมาสู่การสร้างสวนผลไม้และไม้ดอกไม้ประดับที่ให้ชื่อว่า “สวนสมปอง”

ในพื้นที่ขนาด 23 ไร่ ภายในสวนสมปองที่มองดูสะอาดสะอ้าน ถูกออกแบบจัดวางพันธุ์ไม้ต่างๆ ทั้งไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ อย่างเป็นระเบียบ พร้อมแต่งเติมความสมบูรณ์ทางธรรมชาติด้วยการขุดบ่อน้ำขนาดใหญ่ 2 ไร่ลึก 4 เมตร สำหรับเลี้ยงปลาหลายชนิด อีกทั้งบริเวณโดยรอบพื้นที่ทั้งหมดถูกปลูกด้วยต้นมะพร้าวเป็นแถวแนวราวกำแพงทางธรรมชาติ

คุณสมปองในวัย 70 กว่าปี กับบุคลิกและอัธยาศัยที่เรียบง่ายกล่าวแบบเป็นกันเองว่า เป็นคนที่ชอบต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก ทั้งนี้อาจเพราะถูกปลูกฝังจากพ่อแม่ให้รักต้นไม้และชอบต้นไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะไม้ดอกพื้นบ้านอย่างมะลิ บานชื่น และบานไม่รู้โรย

 ไม่ได้เรียนจบเกษตรฯ แต่มีใจรักก็ทำได้

แม้ตัวเองจะเรียนมาทางสายพาณิชย์ ไม่ได้เชี่ยวชาญลึกซึ้งกับการเกษตรเท่าไรนัก แต่ลุงสมปองก็อาศัยความมีใจรัก พร้อมกับคลุกคลีพันธุ์ไม้หลายชนิดจากครอบครัว ฉะนั้นหากมีเวลาว่างจากงานเมื่อใด คุณลุงจะลงมือปลูกต้นไม้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาคิดว่า ถ้าเปลี่ยนมาปลูกไม้ผลบ้างคงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ อย่างฝรั่ง กล้วยน้ำว้ามะลิอ่องที่เป็นไม้ผลพื้นบ้านซึ่งหาไม่ยาก

ตลอดชีวิตราชการของคุณสมปองมีความจำเป็นต้องย้ายไปประจำยังภูมิภาคจังหวัดต่างๆ เพื่อความเหมาะสม ซึ่งถ้าไม่ได้ทำงานประจำอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนมากมักย้ายไปประจำในจังหวัดแถบภาคเหนือตอนบนและตอนล่างเสียส่วนใหญ่อย่างเชียงใหม่ ลำปาง และพิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านเกิดตัวเอง

มะพร้าวน้ำหอมที่ปลูกไว้บริเวณรอบสวน

ปลูกมะพร้าวน้ำหอม สร้างทัศนียภาพให้บ้าน แต่กลับมีคุณภาพขายได้ราคาดี

มะพร้าวที่ลุงสมปองปลูก เป็นพันธุ์น้ำหอมจากอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เป็นสายพันธุ์ที่คัดเลือกให้มีน้ำหอมโดยเฉพาะ ตั้งใจว่าจะปลูกเพื่อความสวยงาม โดยปลูกไว้บริเวณริมรั้ว กระทั่งมีผลผลิตจำนวนมากและมีรสชาติหวานหอม อีกทั้งละแวกในเขตอำเภอแทบจะหาคนปลูกมะพร้าวยาก

ลุงสมปองเผยว่า ความจริงมะพร้าวดูแลง่าย เพียงแต่อย่าให้ขาดน้ำเท่านั้น ควรใส่เกลือปีละครั้ง ใส่ต้นละเกือบกิโลกรัม ใส่ปุ๋ยปีละ 3 ครั้ง เป็นปุ๋ยสูตร 16-16-16 และควรผสมขี้วัวด้วย แต่ที่ต้องใส่เพื่อให้น้ำมะพร้าวมีรสหวานหอมคือใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 เพียงปีละครั้ง

จากวิธีปลูกที่ใส่ใจในเรื่องคุณภาพ ทำให้ผลผลิตมะพร้าวน้ำหอมในสวนของคุณลุงสมปองเป็นที่หมายปองของผู้คนทั่วไป บางคนมักแวะเวียนมาซื้อไปทานบ้าง ซื้อไปขายบ้าง จนทำให้ไม่เพียงพอ จากนั้นคุณสมปองจึงต้องปลูกมะพร้าวน้ำหอมเพิ่มอีก และในปัจจุบันมีอยู่ถึง 300 ต้น โดยในรุ่นหลังนี้นำไปปลูกบริเวณด้านหลังที่ดิน เป็นการปลูกแบบยกร่องจำนวน 200 ต้น

ผลผลิตที่เกิดขึ้นจะขายให้แก่ผู้สนใจและเดินทางมาซื้อ โดยขายผลละ 7-8 บาท จากสวน ก่อนจะมีพ่อค้านำไปขายในท้องตลาดในราคา 15-20 บาท อย่างไรก็ตาม การกำหนดราคาขายของคุณสมปองไม่เน้นเชิงพาณิชย์ เพราะเขามองว่าเป็นความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ส่วนรายได้จะใช้เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น

 

ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองอีก เพราะมองตลาดส่งออก

ขณะปลูกมะพร้าว ปรากฏว่าเป็นช่วงเดียวกับกระแสมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ ทำให้คุณลุงสมปองเกิดความสนใจเพราะเป็นสิ่งท้าทาย อีกทั้งมองว่าพิษณุโลกเป็นแหล่งปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองได้คุณภาพ

ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปที่อำเภอเนินมะปรางค์ เพราะที่นั่นมีชื่อเสียงด้านการปลูกและทำพันธุ์มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองส่งออก ก่อนจะซื้อมาปลูกจำนวน 300 ต้น แล้วนำมาปลูกในพื้นที่เดิมของกล้วยน้ำว้ามะลิอ่องที่หมดอายุ

มะม่วงน้ำดอกไม้ใช้เวลาประมาณ 4 ปีจึงได้ผลผลิต คุณสมปองชี้ว่า ถ้าปล่อยให้มะม่วงออกผลตามฤดูกาลอาจทำให้ราคาต่ำไม่คุ้ม จากนั้นจึงเปลี่ยนมาทำเป็นมะม่วงนอกฤดูเพิ่มขึ้นไปด้วย โดยได้ศึกษาหาความรู้จากตำรา เอกสาร อินเทอร์เน็ต และสอบถามผู้รู้แล้วทดลองทำ ในตอนแรกไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แต่พยายามแก้ไขมาตลอด 1 ปี จนกระทั่งสามารถทำได้เป็นผลสำเร็จ

“รายได้จากการขายมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองในปีหนึ่งไม่มากนัก เรียกว่าคุ้มทุนดีกว่า แต่ยังรักและชอบ เพราะถือว่าให้ร่มเงาและความสวยงามของทรงพุ่ม ตลอดจนสร้างสภาพแวดล้อมให้สะอาด เปรียบเหมือนมีเครื่องกรองฝุ่นก่อนถึงตัวบ้าน”

ลุงสมปองเน้นปลูกมะม่วงผลสุก ดังนั้นนอกจากน้ำดอกไม้สีทองที่ปลูกอยู่แล้ว เขายังนำพันธุ์มะม่วงมหาชนกที่ให้ผลผลิตได้ดีมาก เป็นพันธุ์มะม่วงที่ปลูกง่าย ดูแลน้อย ราคาดี รสชาติอร่อย เพราะฉะนั้นเมื่อถึงช่วงที่เก็บเกี่ยวผลผลิตจึงรับเงินอย่างเดียว

ต้นมะนาวแป้นรำไพรุ่นแรกที่ปลูกในวงบ่อ

ปลูกมะนาวแป้นรำไพ มีผลผลิตดี ราคาไม่ธรรมดา

ไม้ผลอีกชนิดที่ลุงสมปองปลูกในช่วงหลังคือมะนาวแป้นรำไพ สำหรับพันธุ์นี้เขาถูกชักชวนจากเพื่อนร่วมงานที่ชอบการเกษตรได้นำไปปลูกแล้วได้ผลผลิตดีมาก แต่จากข้อมูลที่ได้ศึกษามาพบว่า มะนาวพันธุ์นี้ดูแลยาก อีกทั้งยังไวต่อการเป็นโรค จึงทำให้เขาไตร่ตรองอยู่นานจนตัดสินใจนำมาทดลองปลูกก่อนจำนวน 120 ต้น เป็นการปลูกในวงซีเมนต์สูง 40 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร แล้วนำดินที่มีคุณภาพมาปลูก จนกระทั่งได้ผลผลิตดีมากในรุ่นแรก

เจ้าของสวนสมปองชี้ว่า การปลูกในวงซีเมนต์มีข้อดีตรงที่สามารถบังคับผลผลิตให้ออกนอกนอกฤดูได้ง่าย อีกทั้งต้นมะนาวยังได้รับน้ำและอาหารอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม พอใกล้ถึงช่วงที่กำลังมีโรคระบาดจะต้องหมั่นใส่ใจฉีดพ่นยาป้องกัน

“คุณสมบัติเด่นของแป้นรำไพอยู่ตรงมีเปลือกบาง เมล็ดน้อย น้ำหอม ซึ่งตรงกับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังขายในราคาไม่แพงและต่ำกว่าท้องตลาด ดังนั้น ผลผลิตมะนาวที่ได้อย่างในเดือนมีนาคม ปี 2553 มะนาวที่ปลูกจำนวน 120 ต้น ทำเงินได้ถึง 6 หมื่นกว่าบาท เป็นการขายตรงให้แก่ร้านอาหารหลายประเภทที่อยู่ละแวกไม่ไกลจากบ้าน แต่ละรายสั่งกันไม่ต่ำกว่าพันลูก สั่งวันเว้นวัน”

มะนาวที่คุณสมปองปลูกมี 2 รุ่น หลังจากปลูกมะนาวรุ่นแรกได้ปีที่ 6 ผลมะนาวมีขนาดลดลง ขาดคุณภาพ ทั้งนี้เป็นเพราะการเจริญเติบโตของรากมีจำนวนมาก ทำให้แน่น เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงจำเป็นต้องรื้อมะนาวที่ปลูกในวงบ่อออก แล้วเปลี่ยนหลักคิดจากมะนาววงบ่อมาเป็นการปลูกมะนาวจากการต่อตอมะขวิดและตอส้มโอแทนจำนวนกว่า 200 ต้น เขาชี้ว่าตอมะขวิดมีคุณสมบัติทนแล้ง ทนน้ำขังที่เฉอะแฉะ อีกทั้งมีระบบรากที่หากินเก่ง และในอนาคตต้องได้ผลที่มีขนาดใหญ่และมีคุณภาพอย่างแน่นอน

คุณสมปองเผยว่า การปลูกพืชชนิดใดก็ตามควรมีหลักและวิธีที่ถูกต้อง จะอาศัยความชำนาญอย่างเดียวไม่ได้ ฉะนั้น เหตุผลที่ทำให้พืชทุกชนิดที่ปลูกในสวนสมปองมีคุณภาพ อาจมิได้เกิดจากความได้เปรียบทางธรรมชาติของพื้นที่เพียงอย่างเดียว เพราะการวางผังปลูกต้นไม้แต่ละชนิดเป็นความคิดของตัวเอง อีกทั้งมองว่าควรจัดเป็นกลุ่ม เป็นประเภทอย่าปลูกคละกัน เพราะพืชแต่ละชนิดมีความต้องการต่างกัน แต่หลักที่กำหนดเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้คือ ควรปลูกแบบขวางตะวันเพราะจะได้รับแสงตลอดเวลา เป็นประโยชน์ที่ดีต่อพืชผลทุกชนิด

บ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ขุดเพื่อเตรียมพร้อมหากขากแคลนน้ำ

ลุงสมปองมองว่า การทุ่มเทให้กับการปลูกต้นไม้หลายชนิดถือเป็นความสุขทางใจมากกว่าเงิน ทุกวันนี้เขายังคงใช้ชีวิตทั้งหมดอยู่กับต้นไม้พร้อมกับผู้ช่วยเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้วัยจะล่วงเลยมามาก แต่มิได้เป็นอุปสรรคแต่ประการใด

“เพราะฉะนั้น ทุกครั้งเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วชงกาแฟมานั่งที่ชานบ้าน มองไปยังต้นไม้หลายชนิดที่ปลูกไว้แล้วเกิดความสุข ความภูมิใจ สดชื่นเสมือนหนึ่งได้รับประทานอาหารเสริมทางใจ จนทำให้เกิดความกระชุ่มกระชวยจนลืมอายุจริงตัวเอง และเมื่อใดที่คุณคิดจะปลูกอะไรสักอย่างจึงถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการช่วยรักษาความสมดุลของสิ่งแวดล้อม แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เป็นการช่วยคลายความเหงาจากกิจกรรมต่างๆ ที่บังคับให้คุณมีงานทำทั้งวันโดยไม่เบื่อ แล้วคุณจะรู้ทันทีว่าตัวเองมีค่าเกินกว่าการอยู่เฉย…” ลุงสมปองกล่าวทิ้งท้าย

ในพื้นที่สวนของคุณสมปองมีกิ่งพันธุ์ไม้หลายชนิดจำหน่ายในราคาไม่แพง ท่านที่สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 083-4926155