ผลิตส้มโอขาวแตงกวา ให้ได้คุณภาพ สร้างรายได้ดีหลักแสนถึงหลักล้าน ตลาดนิยมบริโภค ผิวไม่สวย ก็ยังขายได้ดีในประเทศ

คุณสมเจต ซิ้มประดิษฐ์ ชาวสวนส้มโอยุคแรกที่นำส้มโอขาวแตงกวามาปลูกที่ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง

ส้มโอ เป็นไม้ผลที่สำคัญทางเศรษฐกิจและมีศักยภาพสูงในการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ตลาดต่างประเทศที่สำคัญของส้มโอไทย ได้แก่ ฮ่องกง แคนาดา และสิงคโปร์ โดยประเทศคู่แข่งของไทยคือ  จีน อิสราเอล และเวียดนาม พันธุ์ส้มโอที่นิยมรับประทานมากทั้งในประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และหลายประเทศในสหภาพยุโรป คือ ทองดี ขาวน้ำผึ้ง ขาวแตงกวา ซึ่งอย่างจังหวัดพิจิตร มีการปลูกส้มโอกันอย่างแพร่หลายและเป็นไม้ผลเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งของจังหวัดพิจิตร แต่บางท่านไม่ทราบว่า จังหวัดพิจิตรเป็นแหล่งปลูกส้มโอทองดี ขาวน้ำผึ้ง ขาวแตงกวา ส่งออกเป็นจำนวนมากในแต่ละปีทีเดียว

ส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้งและพันธุ์ทองดีของจังหวัดพิจิตร จัดเป็นผลไม้ที่มีศักยภาพในการส่งออกมากในตอนนี้ ดูได้จากราคาขายผลผลิตในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจถึงแม้ว่าจะเป็นไม้ผลที่จะต้องใช้เวลาในการปลูกอย่างน้อย 4 ปี ถึงจะให้ผลผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ แต่มีความยั่งยืนทางด้านการตลาดกว่าไม้ผลอีกหลายชนิด ปัจจุบันมีการขยายพื้นที่ปลูกส้มโอจากสภาพการปลูกในที่ลุ่มยกร่องน้ำ ปลูกในเขตพื้นที่ภาคกลางมาปลูกในสภาพไร่ปลูกในที่ดอนกันมากขึ้น และในธรรมชาติต้นส้มโอจะให้ผลผลิตได้ 2 รุ่น ต่อปี ในฤดูกาลจะเก็บเกี่ยวผลผลิตส้มโอในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ในรุ่นที่สองจะให้ผลผลิตในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ซึ่งผลผลิตในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะมีน้อย ในขณะที่ตลาดส่งออกมีความต้องการตลอดทั้งปี

ส้มโอของอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ปัจจุบันถือว่าเป็นแหล่งปลูกที่สำคัญของประเทศไทย จากข้อมูลพบว่า จังหวัดพิจิตรมีพื้นที่ปลูกส้มโอรวม มากถึง 12,000 ไร่ แล้วจังหวัดพิจิตรปลูกส้มโอเพื่อส่งออกไปต่างประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปีและขายในประเทศ การส่งออกส้มโอของจังหวัดพิจิตรอยู่ในระดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียวในตอนนี้ อย่างที่ทราบกันว่า จังหวัดพิจิตรเองมีชื่อเสียงเรื่องของส้มโอ “ท่าข่อย” แต่ส้มโอท่าข่อยก็มีข้อจำกัดในระดับหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว จังหวัดพิจิตรปลูกส้มโอสายพันธุ์ขาวแตงกวาและทองดีเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนผลผลิตมากพอที่จะขายป้อนตลาดส่งออกโดยเฉพาะตลาดประเทศจีน ที่มีความต้องการส้มโอจากประเทศไทยเป็นจำนวนมากและราคารับซื้อจากสวนเกษตรกรค่อนข้างดีกว่าราคาซื้อขายในประเทศ

ส้มโอขาวแตงกวา ถ้าเน้นการส่งออก ต้องรักษาผิวส้มโอให้สวย

ดังนั้น ผลผลิตส้มโอคุณภาพส่วนใหญ่จะถูกส่งออกทั้งหมด ส่วนสวนที่ไม่สามารถพัฒนาศักยภาพตัวเองได้ ผลิตส้มโอคุณภาพไม่ได้ก็จะเน้นการขายในประเทศเป็นหลัก อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของเกษตรกรว่าต้องการขายให้กับตลาดแบบไหน ราคาแบบไหน ซึ่งก็มีความยากง่ายกันไป แต่ถ้าตั้งใจจริงอะไรก็ไม่ยากนัก

ตัวอย่างเกษตรกรที่ปลูกส้มโอขาวแตงกวา ที่โพธิ์ประทับช้าง ทำรายได้ต่อปีนับล้านบาท ในพื้นที่ปลูก 45 ไร่ คุณสมเจต ซิ้มประดิษฐ์ บ้านเลขที่ 225/3 หมู่ที่ 9 ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร โทรศัพท์ (081) 740-0010 คุณสมเจต เล่าย้อนไปว่า ตนเองได้ตัดสินใจเลือกปลูกส้มโอพันธุ์ขาวแตงกวา เมื่อ ปี พ.ศ. 2535 ทั้งๆ ที่พื้นที่สวนในละแวกใกล้เคียงปลูกแต่ส้มโอท่าข่อยเกือบทั้งหมด

ซึ่งตนเองได้ซื้อกิ่งพันธุ์ส้มโอมาจากจังหวัดชัยนาท มาปลูกในราคากิ่งละ 30 บาท ช่วงนั้นส้มโอขาวแตงกวาจังหวัดชัยนาทกำลังดังมาก เนื่องจากตัวคุณสมเจตเองเคยทำสวนส้มเขียวหวานแบบยกร่องในเขตที่ลุ่มภาคกลางมาก่อน มีประสบการณ์ในการทำสวนส้มเขียวหวานมา มีการประยุกต์วิธีการปลูกส้มโอขาวแตงกวาในพื้นที่ดอน ด้วยการยกร่องปลูกแบบลูกฟูก ด้วยยึดหลักการว่า การปลูกพืชตระกูลส้มจะต้องปรับพื้นที่ให้มีการระบายน้ำให้ดีที่สุด เนื่องจากพืชตระกูลส้มเป็นพืชที่ชอบน้ำ แต่กลัวน้ำขังแฉะการสร้างสวนส้มโออันดับแรกต้องมองเรื่องของการระบายน้ำที่ดี

คุณสมเจต ได้เปรียบเทียบผลผลิตส้มโอขาวแตงกวากับส้มโอท่าข่อยที่มีอายุต้นเท่ากันว่า จากการสังเกตได้ผลผลิตไม่แตกต่างกันมากนัก คือติดผลดกพอๆ กัน น้ำหนักต่อผลใกล้เคียงกัน แต่ราคาขายส้มโอขาวแตงกวาจากสวนต่างกันกับส้มโอท่าข่อยกว่า 2-4 เท่าตัว ในสมัยนั้นส้มโอขาวแตงกวาขายจากสวนได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 15-20 บาท ในขณะที่ส้มโอท่าข่อยขายได้เพียง 5-7 บาท ต่อกิโลกรัม เท่านั้นเอง

คุณสมเจต ซิ้มประดิษฐ์ ชาวสวนส้มโอยุคแรกที่นำส้มโอขาวแตงกวามาปลูกที่
อำเภอโพธิ์ประทับช้าง

คุณสมเจต ก็ยอมรับว่าส้มโอขาวแตงกวาอ่อนแอต่อโรคกว่าส้มท่าข่อยมาก โดยเฉพาะโรคแคงเกอร์ ซึ่งจะต้องมีการวางแผนการป้องกันอย่างดี เนื่องจากส้มโอขาวแตงกวาของคุณสมเจตจะมีพ่อค้าสั่งซื้อไปขายยังตลาดต่างประเทศเป็นประจำ ถึงแม้ในปัจจุบันยังมีพื้นที่ปลูกส้มโอท่าข่อยอยู่มากพอสมควร เนื่องจากเป็นสวนเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ และอายุต้นค่อนข้างมาก จะโค่นเปลี่ยนพันธุ์ส้มโอใหม่ก็ยังเสียดาย แต่เมื่อเห็นราคาส้มโอขาวแตงกวาและส้มโอทองดีมีราคาสูง เพื่อนๆ เกษตรกรบางรายที่สามารถหาพื้นที่ใหม่เพื่อปลูกส้มโอได้ ก็จะเลือกปลูกส้มโอพันธุ์ขาวแตงกวาและพันธุ์ทองดี เนื่องจากราคาและความต้องการของตลาดยังมีอยู่สูง ในส่วนของต้นส้มโอท่าข่อยที่ปลูกอยู่เก่าและมีอายุมากขึ้น เกษตรกรไม่ได้โค่นต้นทิ้ง เพราะยังให้ผลผลิตทำรายได้คุ้มต่อการลงทุนอยู่ ถึงแม้ว่าจะขายได้ราคาไม่ดีนัก แต่ด้วยที่การดูแลรักษาน้อยทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ

 

ทำไม ถึงไม่เลือกปลูกส้มโอท่าข่อย

คุณสมเจต อธิบายว่า ตนเองมองว่า ส้มโอท่าข่อย ยังถือว่าเป็นส้มโอเกรดรองในตลาดบ้านเรา เข้าไปแข่งขันในตลาดยังไม่ได้ แม้มีความพยายามผลักดันให้เป็นที่รู้จัก มีการโปรโมทจัดงานก็ยังไปได้ไม่ดีเท่าที่ควร ยกตัวอย่าง ตั้งแต่สมัยก่อนพ่อค้าแม่ค้ารับไปขาย บอกว่าพันธุ์ท่าข่อยพิจิตร ปรากฏว่าไม่มีคนรู้จัก จนแม่ค้าต้องเปลี่ยนชื่อเป็นส้มโอพันธุ์ทองดีพิจิตร ทั้งที่ทรงผลไม่เหมือนกันเลย อย่างส้มโอท่าข่อยผลจะโตมาก ส้มโอทองดีผลจะมีขนาดเล็กทรงผลแป้น แต่สีส้มโอท่าข่อยสีออกแดงๆ แม่ค้าก็ต้องโกหกไปว่าดินที่จังหวัดพิจิตร อาจจะดีทำให้ผลส้มโอมีขนาดผลใหญ่

“ตอนแรกๆ ก็พอขายได้ แต่นานๆ ไป ก็ขายไม่ได้ เพราะคนซื้อก็เริ่มรู้ว่าเป็นส้มโอท่าข่อย แล้วส้มโอท่าข่อย ยังมีข้อจำกัดอีกหลายข้อ แม้จะรสหวานทานอร่อย แต่ต้องเก็บผลที่แก่จัดๆ เท่านั้น คือเก็บแก่ 90-100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าทำสวนส้มท่าข่อยแปลงใหญ่ อาจจะตัดขายไม่ทันถ้ารอให้ส้มท่าข่อยแก่จัด ซึ่งความเป็นจริงต้องทยอยตัดได้ตั้งแต่ 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป เหมือนส้มโอพันธุ์อื่นๆ ก็จะดีมากสำหรับชาวสวน โดยส้มโอพันธุ์อื่นๆ ก็สามารถทำได้ สามารถทยอยตัดได้ตั้งแต่ 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเรื่อยๆ จนแก่ เพราะยังไงก็ยังมีส้มโอพันธุ์อื่น ก็มีรสหวานนำอมเปรี้ยวเพียงเล็กน้อย ถือว่ากลมกล่อมถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ”

คุณสมเจต บอกอีกว่า แต่ส้มโอท่าข่อยถ้าเก็บไม่แก่จริงๆ ก็จะได้รสหวานอมเปรี้ยวติดขม ซึ่งรับประทานไม่อร่อย เพราะมีรสขม ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวมันสั้นมากที่ชาวสวนมีเวลาจะต้องเก็บขาย ส้มโอท่าข่อยจึงมีข้อจำกัดโดยธรรมชาติของสายพันธุ์ เมื่อเทียบกับส้มโอสายพันธุ์อื่นก็จะด้อยกว่า เวลาแกะเนื้อขายเนื้อส้มโอท่าข่อยจะติดเปลือก แกะรับประทานยาก ไม่ล่อนแห้งเหมือนส้มโอพันธุ์อื่น ส้มโอท่าข่อยจึงไม่มีข้อที่เหนือกว่าเลยถ้าเทียบสายพันธุ์กัน ทำให้ปัญหาในการทำตลาด สร้างราคาส้มโอท่าข่อยจึงมีอุปสรรคมาโดยตลอด

เมื่อถามว่า ส้มโอท่าข่อย ส่งออกได้หรือไม่ คำตอบคือ ส่งออกได้ แต่ราคาก็ไม่จูงใจนักเมื่อเทียบกับส้มโอขาวแตงกวาหรือว่าทองดี การส่งออกจะส่งไปทางตลาดเวียดนามที่จะซื้อส้มโอท่าข่อยแก่ ไม่เน้นผิวพรรณเลย แต่รับซื้อในราคาถูก แต่ชาวสวนท่าข่อยก็อยู่ได้เพราะส้มโอท่าข่อยยังให้ผลผลิตต่อไร่ที่สูง ติดผลดก ผลมีขนาดใหญ่ ขายปลีกในท้องถิ่นหรือตลาดต่างจังหวัดได้ดีในระดับหนึ่ง คงเป็นแนวทางมุมมองตลาดของชาวสวนแต่ละท่าน เนื่องจากส้มโอแต่ละสายพันธุ์ก็มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกัน เช่น

ส้มโอพันธุ์ท่าข่อย

ส้มโอท่าข่อย ออกดอกติดผลง่าย ผลมีขนาดใหญ่ ดูแลง่าย แต่ราคาขายไม่สูงเหมือนสายพันธุ์อื่น

ส้มโอทองดี ติดผลง่าย ติดผลดก แต่บังคับออกดอกยาก ราคากลางๆ แต่ถ้าราคาตกเกรดจากการส่งออก ราคาก็ไม่ค่อยดีมากนัก

ส้มโอขาวแตงกวา เป็นพันธุ์ส้มโอที่มีรสชาติอร่อย กุ้ง (เนื้อ) มีขนาดใหญ่ เกาะตัว ไม่ร่วน กุ้ง (เนื้อ) กรอบ แต่ไม่แห้ง หวานอมเปรี้ยว ฉ่ำแต่ไม่แฉะน้ำ มีเมล็ดน้อยถึงไม่มีเลย

ส้มขาวแตงกวา ออกดอกง่าย แต่ติดผลยาก อ่อนแอต่อโรคแคงเกอร์ แต่ราคาดีแม้ราคาตกเกรดหรือตัดขายตลาดในประเทศ ก็ยังดีกว่าส้มโอพันธุ์อื่นๆ ตอนนี้

ส้มโอที่นี่เกือบทั้งหมดส่งขายแม่ค้าที่คัดส่งออกจีนเป็นหลัก โดยการซื้อขายส้มโอจะวัดรอบวงผลส้มโอราว 17 นิ้ว ขึ้นไป เพื่อให้ผลส้มมีขนาดผลใกล้เคียงกัน เพราะการส่งออกจะต้องบรรจุกล่องไปขายอีกที

 

ส้มโอจากพิจิตร ทั้งส้มโอขาวแตงกวาและทองดี

เมื่อออกสู่ตลาด กลับมองว่าเป็นส้มโอจากแหล่งอื่น

คุณสมเจต เล่าว่า ความจริงแล้วกลับตรงกันข้ามคือ ปัจจุบันแหล่งที่มีชื่อเสียงจะมารับส้มโอจากจังหวัดพิจิตรเอาไปขายเสียมากกว่า แถมยังขายส้มโอได้ราคาสูงกว่า เหตุนี้คงเป็นเรื่องชื่อเสียงของจังหวัดนั้นๆ สร้างมา แต่ก็ต้องยอมรับว่าแม่ค้าต่างจังหวัดที่รับไปขายนั้น เขาจะคัดส้มโอที่มีคุณภาพมาก ส้มโอจะต้องแก่ ซึ่งจะทำให้ได้ส้มโอที่มีรสชาติดี ไม่ซื้อส้มโออ่อนไปขาย ซึ่งส้มโออ่อนแน่นอนย่อมมีรสชาติอมเปรี้ยว ส่งผลต่อการค้าขายในอนาคตของแม่ค้าเองด้วย

ส้มโอขาวแตงกวา มีราคาซื้อขายสูงดีมาโดยตลอด

“สรุปว่า ส้มโอคุณภาพดีนั้นไม่ได้ขายในนามของจังหวัดพิจิตรเลย อีกอย่างที่ส้มโอพิจิตรไม่ค่อยดังเหมือนจังหวัดอื่น อาจจะเป็นเพราะส้มโอสวยๆ ถูกคัดส่งออก แต่ส้มโอที่เหลือค้างสวน เหลือจากการคัดก็จะเก็บขายถูกๆ ขายกันภายในจังหวัดพิจิตร แล้วก็ขายกันในราคาถูกๆ ทำให้คนซื้อไปก็ไม่ค่อยประทับใจ ปากต่อปากก็พูดออกไปว่า ส้มพิจิตรไม่ค่อยดีนัก ทำให้การทำตลาดก็มีอุปสรรค ไม่เหมือนที่อื่นที่เขาจะโปรโมทจนส้มโอของจังหวัดเขาโด่งดังเป็นที่รู้จัก คัดขายแต่ของดี ถ้าไม่ดีก็ส่งขายไปที่อื่น ไม่ขายในจังหวัดเขา เป็นต้น มันกลับตรงข้ามกัน จะโทษใครไม่ได้ ทุกคนมีส่วนหมด”

 

การผลิตส้มโอในปัจจุบันมีคุณภาพดี ผิวสวยขึ้นมาก

คุณสมเจต เล่าว่า ส่วนหนึ่งคือ เกษตรกรได้ปรับตัวเพื่อสร้างคุณภาพส้มโอของสวนตัวเองเพื่อผลิตป้อนตลาดส่งออกเป็นหลัก เนื่องจากราคาจูงใจ ราคารับซื้อสูงกว่าตลาดในประเทศมาก โดยมีหลักอยู่ว่า “การทำส้มโอส่งออกจะต้องผิวสวยมาเป็นอันดับแรก รสชาติเป็นอันดับสอง”

สวนส้มโอขาวแตงกวา ที่ปลูกแบบร่องลูกฟูก เพื่อให้การระบายน้ำดี
ส้มโอขาวแตงกวา วางขายที่จังหวัดชัยนาท

ตอนนี้ปลูกส้มโอขาวแตงกวาทั้งหมด ประมาณ 45 ไร่ เนื่องจากราคาดีที่สุดตลาดนิยมบริโภค แม้จะเจอช่วงราคาถูกหรือส้มโอผิวไม่สวย ตกเกรดส่งออกไม่ได้ ก็ยังสามารถขายในประเทศได้ดีในระดับที่เกษตรกรอยู่ได้ หรือในบางปีราคาส้มโอในประเทศไม่แตกต่างจากราคาส้มส่งออกด้วยซ้ำไป ก็เคยมีมา ราคาส้มโอขาวแตงกวาถือว่ายังดีกว่าพันธุ์อื่น ส้มโอยังเป็นผลไม้ที่สามารถสร้างรายได้หลักแสนถึงหลักล้านให้เกษตรกรชาวสวนได้ ตราบใดที่ผลไม้อย่าง ส้มโอ สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้