หนุ่มนิสิตวิศวะจุฬาฯ หารายได้ระหว่างเรียน เพาะต้นไม้ป่าหายากขาย สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน

หนุ่มนิสิตวิศวะจุฬาฯ สร้างรายได้เสริมระหว่างเรียน ด้วยการ “เพาะต้นไม้ป่าหายากขาย” สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน โดยไม่ต้องขอเงินจากคุณพ่อคุณแม่ 

คุณแฟรงค์ หรือ คุณปรเมศ สุขมงคล นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วัย 21 ปี ที่นอกจากการเรียน แล้วยังมองหาอาชีพสร้างรายได้ระหว่างเรียน ด้วยการเพาะต้นไม้ป่าหายากขาย สร้างรายได้ระหว่างเรียนสูงสุดถึง 170,000 บาทต่อเดือน ถือว่าเป็นธุรกิจที่เหมาะกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้าน โรงเรียนและมหาวิทยาลัยก็ปิดการเรียนการสอน ทำให้เกิดความเบื่อในการอยู่บ้าน จึงคิดที่จะเพาะต้นไม้ป่าและปลูกต้นไม้เพื่อผ่อนคลาย

คุณแฟรงค์ หรือ คุณปรเมศ สุขมงคล กับต้นมะริดแห่งสวนบ้านแม่ทองหล่อ

ซึ่งเป็นความชอบต้นไม้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว จากความชอบและสนใจต้นไม้มาตั้งแต่อายุ 14 ปี เริ่มแรกสนใจปลูกต้นมะนาว พยายามศึกษามาเรื่อยๆ และก็หยุดไปช่วงหนึ่งแต่ความชอบนั้นยังอยู่ในใจตลอด

ถ้ามีโอกาสก็จะแวะไปดูตามสวนต่างๆ สนใจเรื่องต้นไม้ด้วยตนเอง โดยทางครอบครัวไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องต้นไม้มาก่อน แต่ท่านก็สนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ตลอดมา

เขามาเริ่มต้นเพาะต้นไม้ป่าอีกครั้งเพราะว่าเรียนออนไลน์ที่บ้าน มีสถานการณ์โควิด-19 เกิดความเบื่อหน่ายก็ทดลองซื้อเมล็ดพันธุ์ไม้ป่าหายากที่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะไม่รู้จักมาก่อนหรือกำลังจะสูญพันธุ์ จึงซื้อเมล็ดพันธุ์มาเพาะ เริ่มที่ 300 ต้น พอเมล็ดพันธุ์โตขึ้นเต็มบ้านไม่รู้จะทำอย่างไร เดิมทีคิดว่าจะนำไปถวายวัด แต่ก็ลองโพสต์ขายออนไลน์ดู และโพสต์ขายในกลุ่มจุฬามาเก็ตเพลส พอโพสต์ลงไปก็เลยขายดีเลย เพราะว่าราคาไม่แพงมากด้วย ตอนขายครั้งแรกราคาต้นละ 20-30 บาท เปิดขายสองวันหมดเกลี้ยง ตอนนั้นได้เงินมาหมื่นสาม ราคาขายตอนนั้น มีแบบ 20-50-100 บาทตามความสูงของต้นกล้า ก็นำเงินที่ได้มาต่อยอดลงทุนเพาะเมล็ดต่อ

.บ้านที่เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นกล้าและต้นไม้ป่าที่ปลูกให้ร่มเงาภายในสวน

จากความชอบกลายมาสู่ความสำเร็จ

อาจจะเป็นเพราะว่าภาวะโลกร้อนและเกิดโรคระบาดอุบัติใหม่ ความแออัดต่างๆ ของผู้คนโดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ ทำให้คนตระหนักถึงผลกระทบและต้องการพื้นที่ว่างที่ทดแทนโดยการปลูกต้นไม้พื้นถิ่นที่ให้ทั้งร่มเงาและฟอกอากาศ อย่างเช่นเมืองใหญ่ผลกระทบของมลภาวะมากมายและอุณหภูมิที่สูงขึ้นทุกปี ถ้าได้ร่มเงาของต้นไม้มาซับทั้งฝุ่นและร่มเงา โดยเฉพาะพันธุ์ไม้ป่าหรือพื้นเมืองตามธรรมชาติและทรงพุ่มของพันธุ์ไม้เหล่านั้น

ส่วนใหญ่จะเป็นทรงพุ่มที่ให้ร่มเงา ยังมีผลให้ได้รับประทานหรือนำมาเป็นส่วนประกอบของสมุนไพรได้เป็นอย่างดี เช่น ลูกอินจัน ผลมะตาด ผลมะริด เป็นต้น ทำให้คนอยากที่จะปลูก นอกจากความสวยงามของลำต้นแล้วยังมีผลให้ได้รับประทาน บางชนิดยังให้กลิ่นหอมเย็นชื่นใจอีกด้วย

พื้นที่ภายในสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ป่าหลากหลายชนิด

แรงบันดาลใจ

นอกจากแรงบันดาลใจหลักที่มาจากความชอบ ยังได้คำแนะนำจาก พระอาจารย์ดาวเรือง ที่อยู่วัดป่าบ้านอ้อมแก้ว จังหวัดอุดรธานี ที่ให้คำแนะนำว่าให้ขายต้นไม้แล้วจะดี ด้วยความชอบอยู่แล้วก็เลยทดลองทำดู

“เริ่มหันมาปลูกต้นไม้จริงจังอายุได้ 19 ปีครับ พอได้เงินก้อนแรกจากการขายต้นกล้าครั้งแรกก็นำมาลงทุนหมดเลย โดยสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ สั่งกล้าพันธุ์มาบ้าง เพราะบางอย่างเพาะไม่เป็น ตอนแรกก็สั่งเมล็ดพันธุ์มาสองสามอย่าง ก็ทดลองทำมาเรื่อยๆ พร้อมกับการเรียนรู้ในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความเจริญเติบโตของต้นไม้ การใช้ชนิดของปุ๋ยอย่างถูกต้องและถูกกับจริตของต้นไม้ว่าชอบปุ๋ยแบบไหน…พื้นที่ที่ใช้เพาะต้นกล้าที่ก่อให้เกิดรายได้หลักหมื่นหลักแสนต่อเดือนให้กับนิสิตหนุ่มรายนี้ ใช้เนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวาเท่านั้น เป็นบ้านของคุณยายเพิ่งเสียชีวิตไปช่วงปีที่แล้ว ก็ขอยืมจากแม่ แต่ก็กำลังคิดที่จะขยายที่เพิ่มเพราะมีลูกค้าเพิ่มขึ้น ยิ่งเข้าหน้าฝนยิ่งขายดี” คุณแฟรงค์บอก

จากความชอบกลายเป็นอาชีพ

จนประสบความสำเร็จ มีเงินจ่ายค่าเทอมเอง

คุณแฟรงค์บอกว่า ตนเองชอบต้นไม้ตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยที่บ้านไม่ได้ทำอาชีพนี้มาก่อน ตอนแรกสนใจเรื่องของต้นมะนาว ตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่เดินทางไปแถบชานเมืองแถวนครปฐมหรือราชบุรี  คุณพ่อคุณแม่ขับรถผ่านสวนมะนาวยังขอร้องให้แวะดูสวนมะนาว และคิดที่จะปลูกมะนาว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ กว่าจะมาถึงวันนี้ ได้ปลูกต้นไม้มาหลายอย่าง ลองผิดลองถูกมาก็มาก ไม่ประสบความสำเร็จก็มี เพียงแต่ไม่ท้อ

คุณแฟรงค์กับผลงานและความร่มรื่นในสวน

การที่ตนเองประสบความสำเร็จนั้น ส่วนหนึ่งคิดว่า เป็นเพราะช่วงโรคระบาด คนกักตัวอยู่กับบ้านมากขึ้น การแก้ความเบื่อและการผ่อนคลายก็คือการปลูกต้นไม้ ซึ่งอาชีพขายต้นไม้อย่างตนเองเข้ากับภาวะปัจจุบันพอดี การค้าขายส่วนใหญ่ก็ทางออนไลน์ การขนส่งก็สะดวกขึ้น ตนเองก็สั่งเมล็ดพันธุ์มาปลูก ตอนนั้นปลูกพะยูงกับแคนา สั่งมาเพาะเล่นๆ ไว้พอมันโตและมีหลายต้นเต็มบ้านก็ลองโพสต์ขายดู ปรากฏว่าหมดเกลี้ยง ก็ยิ่งเพิ่มแรงบันดาลใจให้ผมพัฒนาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้มากขึ้น ตอนขายครั้งแรกก็ต้นละ 20-30 บาท เปิดขายสองวันก็หมดเกลี้ยง ตอนนั้นได้เงินมาหมื่นสาม ซึ่งมีราคา 50-100 บาทเพิ่มขึ้นมาด้วย ลงปุ๊บก็ขายได้ดีเลย

เจ้าตัวบอกว่า นอกจากคิดแล้วก็ลงมือทำถือว่าเป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจเป็นแนวทางไปสู่ความสำเร็จในวัยที่ยังเป็นนิสิตปี 2 จนถึงปัจจุบันนี้เรียนอยู่ปีที่ 3 ยอมรับว่า ยากมากกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พยายามเก็บเงินลงทุนด้วยตัวเองทุกอย่าง แม้ตอนเริ่มทำจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่พอมาถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าคุ้มค่า

ส่งขายต่างประเทศ

คุณแฟรงค์บอกว่า นอกจากจะจัดส่งให้ทั่วประเทศยังส่งออกไปถึงต่างประเทศมาแล้ว ในอนาคตมีความคาดหวังว่าจะขยับขยายให้ไปไกลกว่านี้ สำหรับลูกค้าจากต่างประเทศก็คือคนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่แถบประเทศเพื่อนบ้าน ก็มีกัมพูชา ตอนนั้นเขามาสั่งไป 800 กว่าต้น ก็ส่งไปทุกอย่างรวมๆ กัน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีต่างชาติ แต่ก็มีอีกเจ้าหนึ่งสั่ง 400 ต้น และ 300 ต้น ก็จัดส่งไป ที่ตนเองมีประสบการณ์ส่งของส่วนใหญ่แพ็กของส่งตามบริษัทโลจิสติกต่างๆ แต่ถ้าไม่ไกลเกินไปผมก็ไปส่งด้วยตนเอง

นอกจากการมองเห็นโอกาสแล้ว ลงมือทำแล้ว หลายคนคงอยากรู้วิธีคิดหรือวิธีการวางแผนของสวนนี้ที่กำลังเติบโตและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

“ทำอะไรผมทำเต็มที่ทุ่มเทและตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์ต่อลูกค้าตรงไปตรงมาอันนี้คือสิ่งสำคัญมากครับ ถ้าต้นไม้มีปัญหาปลายทาง ผมยินดีที่จะส่งให้ใหม่ ปัญหามีไว้แก้ การเรียนรู้ก็ได้จากการทำงาน” เจ้าตัวบอก

แพ็กของเตรียมส่งลูกค้า

ต้นไม้ที่ขายดีมี 5 อันดับ

ต้นไม้ที่ขายดีและได้ราคาดีในสวนบ้านต้นไม้แม่ทองหล่อ มี 5 อันดับ มีต้นมะริดเริ่มต้นในราคา 120 บาท มะตาด 100 บาท อินจัน 100 บาท สารภี 100 บาท มะพลับไทย 120 บาท ส่วนต้นไม้ที่ได้ความนิยมที่มียอดสั่งซื้อมากที่สุด ก็จะเป็นต้นมะริด เป็นไม้ที่รูปทรงของต้นและใบสวย ยิ่งโตยิ่งแพง พอเลี้ยงไปเรื่อยราคาก็สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก็แนะนำว่าต้นมะริดเลย ที่คนเขาชอบฟอร์มต้นสวย ใบไม่ค่อยร่วง ผลรับประทานได้ ลำต้นตัดขายได้ เขาเอาไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี เช่น กีตาร์ ระนาด เล่นแล้วเสียงจะกังวาน เป็นไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มสวย อยู่นาน 20-30 ปี จะให้ผลผลิตในปีที่ 4-5 เอาลูกมาเพาะพันธุ์ขายต่อได้ ผลผลิตรับประทานได้ เนื้อข้างในหวานนุ่มหอม เนื้อจะออกขาวฟู

นอกจากนี้ ที่สวนยังมีต้นไม้ให้เลือกซื้อมากกว่า 30 ชนิด หมุนเวียนเพาะออกมาเรื่อยๆ ลูกค้าสอบถามได้ ว่าต้องการพันธุ์ไม้ชนิดใด ทางสวนพร้อมที่จะจัดหามาให้ได้เสมอ

ถ้ามีคนสนใจที่จะทำธุรกิจเพาะต้นไม้ขายจะแนะนำอย่างไร

“ก็แนะนำให้มาถามที่นี่เลยดีกว่า เพราะไม่รู้จะแนะนำยังไง ก็แนะนำเรื่องดินผสม ก็พอรู้เรื่องดิน เรื่องปุ๋ยที่พอรู้ ให้คำแนะนำได้ ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ก็แนะนำไป ใครอยากได้อะไรก็แนะนำไป ส่วนใหญ่จะมีคนที่มาซื้อที่นี่แล้วไปขายก็ได้ จริงๆ ถ้าอยากทำขาย มีลูกค้าบางรายที่ไม่มีพื้นที่แต่อยากจะขายต้นไม้ เขาก็จะมาถ่ายรูปที่นี่แล้วไปขายแล้วค่อยมาเอาของ เพราะเราก็ขายราคานี้อยู่แล้ว…ลงทุนไม่ต้องเยอะหรอก ก็เริ่ม 5,000-6,000 บาทก็พอ ทำทีละน้อย แล้วก็ค่อยๆ ขยาย ลองผิดลองถูก เรียนรู้ด้วยตัวเอง ใช้ความขยัน อดทนบวกกับความหลงใหลในเสน่ห์ของต้นไม้สีเขียวๆ ทำให้ทำออกมาได้ดีในที่สุด” คุณแฟรงค์เล่า

เจ้าตัวบอกแหล่งข้อมูลว่า ค้นหาข้อมูลในยูทูปและเดินตลาดต้นไม้ การเรียนจากประสบการณ์ตรงต้องปฏิบัติหรือต้องทดลองปลูกด้วยตนเองก่อน ทั้งเรื่องปุ๋ย เรื่องธรรมชาติของดินที่พืชต้องการควรจะให้อย่างไร ส่วนใหญ่จะเรียนรู้ด้วยตนเอง ซื้อเมล็ดพันธุ์มาทดลองเพาะด้วยตนเอง

ต้นกล้าไม้ป่าหายากที่รอคนซื้อและพร้อมจัดส่ง

ปัญหาและการดูแล

ปัญหาเกี่ยวกับการเพาะต้นไม้ ก็เหมือนทั่วๆ ไป เรื่องอากาศบ้าง โรคและแมลงรบกวนบ้าง ถ้ามีการระบาดก็ต้องทำลายทิ้งไป ก็เริ่มเพาะใหม่ หมุนเวียนไปเพื่อป้องกันการระบาดของโรค

คุณแฟรงค์บอกว่า การเพาะต้นไม้จะต้องดูแลมากในช่วงหน้าแล้ง หน้าหนาว ช่วงนี้จะดูแลยากมาก เพราะอากาศเปลี่ยน ร้อนจัด และมาเย็นจัดต้นไม้ปรับตัวไม่ทันก็จะแคระแกร็นได้ ดูแลยากมากในช่วงนี้ เสียหายก็เยอะมากเหมือนกัน พยายามใส่ปุ๋ยบ้าง ฮอร์โมนบำรุงต้นบ้าง รดน้ำสม่ำเสมอ และอีกปัญหาหนึ่งคือคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ที่สั่งซื้อเข้ามา เมล็ดไม่ดี คุณภาพการงอกไม่มีก็เกิดความเสียหายจากการลงทุนเช่นกัน จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่กับการขายต้นไม้มานั้นก็พอจะประมาณการได้ว่าพืชชนิดไหนที่จะพอทำตลาดได้ก็จะนำมาเพาะขาย ทุกอย่างต้องคิดเอง คาดการณ์เอง

หากใครสนใจต้นไม้ที่สวนแห่งนี้ ก็สามารถเข้าไปที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ “บ้านต้นไม้แม่ทองหล่อ” หรือสามารถโทร.ไปที่เบอร์ 088-845-6659 แต่หากใครสนใจจะเข้าไปเลือกเองที่สวน ก็สามารถเข้าไปได้ที่ซอยกำนันแม้น 12 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ

 

 

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2564