สาวเมืองกาญจน์ ปลูกพุทรากางมุ้ง 60 ต้น สร้างเงินเก็บหลักแสนต่อปี

ถึงเดือนตุลาคม เข้าสู่ฤดูของ “พุทรานมสด” ผลไม้รสหวาน รูปทรงคล้ายแอปเปิ้ลสีเขียว ที่ย่อส่วนลงมา เป็นที่นิยมอย่างมากในหลายพื้นที่ เนื่องจากสามารถปลูกได้ทั้งพื้นที่ดอนและพื้นที่ราบลุ่ม สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยผลผลิตจะออกมากในช่วงฤดูหนาว และยิ่งถ้าหากสวนไหนมีการดูแลจัดการที่ดี ผลผลิตได้คุณภาพ สามารถขายได้ในราคาสูงถึงหลักร้อย นับเป็นอีกหนึ่งพืชทางเลือกสร้างรายได้ดีให้กับเกษตรกร โดยที่ไม่จำเป็นต้องปลูกเยอะ แค่มีการจัดการดูแลอย่างทั่วถึงสามารถสร้างเงินแสนได้ไม่ยาก

คุณวิกาญดา ชนะใจวัฒนา หรือ คุณมุก

คุณวิกาญดา ชนะใจวัฒนา หรือ คุณมุก ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์เมืองกาญจน์ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ที่ 7 ตำบลวังศาลา อำภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เกษตรกรรุ่นใหม่เน้นทำเกษตรอินทรีย์ อาศัยประสบการณ์ความชำนาญของรุ่นพ่อกับแม่เป็นจุดแข็งในการผลิต มาผสมผสานกับแนวคิดการทำตลาดของคนรุ่นใหม่ กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ขนาดผลใหญ่ ผิวสวย น้ำหนัก 20-25 ลูกต่อ 1 กิโลกรัม

คุณมุก เล่าถึงจุดเริ่มต้นการทำเกษตรว่า เรียกว่าเป็นการกลับมาสานต่อและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมที่พ่อกับแม่ทำไว้มาก่อนแล้ว โดยหลักๆ ที่บ้านจะปลูกคะน้าเป็นพืชสร้างรายได้หลักบนพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ส่วนสวนพุทรานมสดเป็นอาชีพเสริมสร้างเงินเก็บประจำปี เนื่องด้วยในพื้นที่เมืองกาญจน์ยังมีคนปลูกไม่มาก จึงคิดว่าตรงนี้น่าจะเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยที่สวนเด่นที่การปลูกแบบอินทรีย์ มีมาตรฐานออร์แกนิกไทยแลนด์รับรอง ถือเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้สามารถกำหนดราคาขายเองได้ คู่แข่งน้อย ผลผลิตยังคงไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด

ปลูกแบบอินทรีย์ ผลผลิตดกเต็มต้น

ปัจจุบันที่สวนปลูกพุทราสร้างรายได้เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว แต่กว่าจะจับทางถูกและพบทางที่ถนัดต้องใช้เวลาไม่น้อย จากที่เมื่อก่อนปลูกแบบเน้นปริมาณ ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องคุณภาพที่ไม่ได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นที่มีสาเหตุหลักๆ มาจากการดูแลที่ไม่ทั่วถึง เป็นที่มาของจุดเปลี่ยนจากที่เคยปลูกประมาณ 200 กว่าต้น ปัจจุบันลดลงมาเหลือ 60 ต้น มีการจัดการแปลงปลูกใหม่ เน้นคุณภาพและการดูแลอย่างทั่วถึง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจทั้งในด้านการลดต้นทุนการผลิต ด้านแรงงานเหนื่อยน้อยลง ในขณะที่รายได้ได้มากขึ้น จากผลผลิตที่มีคุณภาพทำให้สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้นจากเมื่อก่อน

โละแปลงปลูกใหม่

ปลูกพุทรากางมุ้ง 60 ต้น สร้างเงินเก็บหลักแสนต่อปี

คุณมุก อธิบายว่า สำหรับการปลูกพุทรานมสดของที่สวนจะเป็นการปลูกในโรงเรือน มีข้อดีคือช่วยในการดูแลจัดการได้ง่ายขึ้น ในเรื่องของการควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช เพราะปัญหาหลักๆ ของการปลูกพุทราคือหนอนและแมลงวันทอง การปลูกในโรงเรือนก็จะช่วยได้ทั้งป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันสารเคมีที่อาจจะพัดมาจากที่อื่นได้ด้วย ทำให้การปลูกแบบอินทรีย์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

ใส่ปุ๋ยหมักรองก้นหลุม

โดยจุดเด่นพุทรานมสดของที่สวนอยู่ที่รสชาติหวานฉ่ำ เนื้อกรอบ ผิวเนียนสวย จากเทคนิคการปลูกและการเก็บเกี่ยวที่ต้องรอให้ถึงระยะการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมเท่านั้น จะทำให้ได้พุทราที่มีรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อกรอบ รวมถึงการคำนึงถึงสุขภาพผู้บริโภค ด้วยการการันตีได้ว่าผลผลิตที่เก็บส่งขายให้กับลูกค้าปลอดภัยและสามารถรับประทานได้ทุกลูกไม่มีลูกเน่าเสียปะปน

ออกแบบโรงเรือนกางมุ้งเอง ประหยัดต้นทุน สะดวกต่อการใช้งาน

เทคนิคการปลูก

เป็นการปลูกในโรงเรือนที่ทางสวนออกแบบขึ้นมาเอง ใช้มุ้งไนลอนสีขาว 16 ตา เสาเหล็กขนาด 1.2 นิ้ว เทหลุมฝังลงดิน 40-50 เซนติเมตร เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและความถนัดของเจ้าของสวน โดยโรงเรือนจะมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สามารถครอบคลุมพื้นที่การปลูกพุทราได้ทั้งหมด

การเตรียมดิน ก่อนปลูกรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ ขี้วัว ขี้ไก่ แกลบดำ และแกลบดิบ ในอัตราส่วน 1 : 1 เท่ากันทั้งหมด จากนั้นนำกิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้มาลงหลุมปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 4×4 เมตร หรือ 6×6 เมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่

ระยะห่างระหว่างต้น 4×4 เมตร

การดูแลรดน้ำ วางระบบน้ำสปริงเกลอร์ ปักหัวฉีดต้นต่อต้น ในช่วงที่เริ่มปลูกใหม่ๆ จะเปิดรดวันละ 1 รอบ ประมาณ 10 นาทีเพียงพอแล้ว หลังจากนั้นเมื่อต้นมีความแข็งแรงมากขึ้น จะปรับปริมาณการให้น้ำเป็น 3-5 วันรดครั้ง หรือให้สังเกตจากความชุ่มชื้นของดินถ้าดินยังปั้นเป็นก้อนได้ก็ยังไม่ต้องให้น้ำ เพราะโดยธรรมชาติของพุทราเป็นพืชที่ไม่ค่อยชอบน้ำมาก

การบำรุงใส่ปุ๋ย หลังจากลงหลุมปลูกอายุต้นประมาณ 3-4 เดือน เริ่มใส่ปุ๋ยครั้งแรก โดยที่สวนจะใส่เป็นปุ๋ยหมัก ที่มีส่วนผสมของขี้วัว ขี้ไก่ แกลบดำ แกลบดิบ นำมาผสมกับกากน้ำตาลและหมักทิ้งไว้ นำมาโรยรอบๆ โคนต้นบางๆ เดือนละครั้ง หลังจากนั้นพอเข้าเดือนที่ 5-6 จะเริ่มบำรุงน้ำหมักปลาใส่ละลายผสมไปกับระบบน้ำ 2 อาทิตย์ครั้ง และในระหว่างนี้ให้สังเกตกิ่งของพุทราที่ไม่ต้องการออกเพื่อไม่ให้แย่งอาหารกัน

ใส่ปุ๋ยหมักรอบโคนต้น

หลังจากนั้นพุทราเริ่มติดผลขนาดประมาณเท่านิ้วโป้ง จะเริ่มใส่น้ำหมักนมสดเพื่อสร้างรสชาติให้กับพุทรา โดยมีส่วนผสมหลักคือนมวัว นมเปรี้ยว โยเกิร์ต น้ำตาลทรายแดง และใส่ข้าวหมากผสมลงไปด้วยเพื่อเร่งการหมักให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ใช้เวลาในการหมักประมาณ 2 อาทิตย์ สามารถนำมาใช้ได้ อัตราการใช้นมหมัก 5-10 ลิตรต่อการรดน้ำ 1 รอบ บำรุงอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เป็นการค่อยๆ สร้างรสชาติให้หวานจนถึงวันเก็บเกี่ยว

“เคล็ดลับสำคัญในการปลูกพุทรานมสดให้มีรสชาติหวานฉ่ำ เนื้อกรอบ อยู่ที่ความสมบูรณ์ของดิน น้ำหมักปลา และนมหมักที่ใส่บำรุง ตรงนี้ถือสำคัญเพราะถ้าดินไม่มีความอุดมสมบูรณ์ก็ไม่สามารถหล่อเลี้ยงลูกได้เต็มที่ ควรตัดแต่งให้มีจำนวนผลผลิตที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป เพื่อได้ผลผลิตออกมาสมบูรณ์”

เปิดสปริงเกลอร์ รดน้ำ 3-5 วันครั้ง

การป้องกันกำจัดโรคและแมลง แน่นอนว่าปลูกแบบอินทรีย์จะไม่สามารถใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดโรคและแมลงได้ ที่สวนจะเลือกใช้สารชีวภาพในการป้องกันและกำจัด เช่น เชื้อบิวเวอเรีย ช่วยในการป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้ง, บีเอส ช่วยป้องกันเชื้อรา หรือถ้ามีหนอน จะใช้เชื้อบาซิลัส ทูริงเยนซิส หรือ บีที ในการทำลายหนอน แต่จำเป็นต้องมีระยะในการฉีดพ่นที่ถี่ขึ้นมาหน่อย อาจจะอยู่ในระยะ 3-7 วันครั้ง และการปลูกในโรงเรือนมีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ โรคแอนแทรกโนส สาเหตุเกิดจากเชื้อรา ผู้ปลูกจำเป็นต้องหมั่นสำรวจตรวจแปลงเป็นประจำควบคู่กับการใช้สารชีวภาพ

มีระบบจัดการที่ดี สวนสะอาด ลดการสะสมของโรคและแมลงศัตรูพืช

การเก็บเกี่ยวผลผลิต 8 เดือนเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ แต่ยังเก็บได้ในปริมาณที่น้อย โดยผลผลิตจะเริ่มเก็บได้เต็มที่จริงๆ คือเมื่อต้นอายุครบ 3 ปี ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าปีนี้จะสามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 250-300 กิโลกรัม เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่มีการโละแปลงเก่าทิ้งแล้วปลูกใหม่ทั้งหมด อายุต้นเพิ่งได้ประมาณ 1 ปี จึงยังเก็บผลผลิตได้ไม่เต็มที่

ราคา ทางสวนกำหนดเอง จากเมื่อก่อนขายกิโลกรัมละ 80 บาท ปัจจุบันขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 100 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมจากการปลูกและดูแลอย่างพิถีพิถัน เพราะสิ่งแรกที่ลูกค้าจะได้รับคือความปลอดภัย ควบคู่กับการได้รับประทานพุทราที่สดใหม่ รสชาติหวาน กรอบ ผิวสวย การันตีคุณภาพทุกลูก

เก็บผลผลิตมาล้างทำความสะอาด ก่อนส่งถึงมือผู้บริโภค

“นับว่าตอนนี้ที่สวนประสบความสำเร็จทั้งทางด้านการขายและการผลิต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการตั้งเป้าหมาย และมองหากลุ่มลูกค้าไว้ก่อนที่จะลงมือปลูก โดยตลาดหลักๆ คือคนในพื้นที่ รวมถึงพนักงานทั้งของภาครัฐและเอกชน บอกกันปากต่อปาก บวกกับกลยุทธ์การขายของที่สวนที่จะอาศัยช่วงเวลาในการเข้าไปส่งของให้กับลูกค้าเจ้าประจำ ก็จะนำพุทราของที่สวนไปให้กับลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยชิมได้ชิมด้วย ตรงนี้ถือเป็นวิธีการหาลูกค้าเพิ่มที่ดี เพราะที่สวนก็ได้ลูกค้าจากวิธีนี้อยู่เรื่อยๆ และถ้าหากท่านใดสนใจอยากปลูกส่วนตัวก็ยังคิดว่าพุทรายังเป็นพืชที่สร้างรายได้ดี ทั้งการตลาดที่ยังมีความต้องการอยู่เรื่อยๆ รวมถึงด้านราคาหากปลูกบำรุงดีๆ 20-25 ลูก ก็ได้ 1 กิโล เก็บขายสร้างรายได้ไม่ยาก”

ผลผลิตจากไร่อรุณพุทรานมสด หวาน กรอบ ผิวสวย เป็นที่ต้องการของตลาด

โดยที่สวนคาดการณ์ผลผลิตและรายได้ในกรณีที่ต้นอายุครบ 3 ปี พร้อมให้ผลผลิตอย่างเต็มที่ รายได้จะต้องเข้ามาไม่ต่ำกว่าปีละ 200,000-300,000 บาท ในกรณีที่ขายกิโลกรัมละ 100 บาท เมื่อหักลบต้นทุนยังเห็นกำไรไม่น้อย เพราะการปลูกพุทราอินทรีย์จะเน้นเรื่องของเวลามากกว่าต้นทุน เนื่องจากปุ๋ยที่ใช้บำรุงเป็นปุ๋ยหมักจากวัสดุเหลือใช้ เช่น ผลไม้ เศษปลาที่ขอมาจากแม่ค้าในตลาด รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทางภาครัฐ ทั้งทางเกษตรอำเภอ เกษตรจังหวัด เข้ามาให้การช่วยเหลือทั้งองค์ความรู้และส่งเสริมการตลาดอีกด้วย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจพุทรานมสดของไร่อรุณพุทรานมสด สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 093-495-6426 หรือติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก : ไร่อรุณพุทรานมสด