พนักงาน สธ. ปลูกผักกางมุ้งส่งห้าง สร้างรายได้เสริม 2 หมื่นบาทต่อเดือน

ปัจจุบันกระแสรักสุขภาพยังมาแรงต่อเนื่อง ส่งผลดีกับหลายกิจการ รวมถึงในภาคการเกษตร โดยเฉพาะการทำเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย (GAP) จะช่วยการันตีคุณภาพ ทำให้เกษตรกรมีช่องทางการขาย และการสร้างมูลค่ามากขึ้น จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

คุณประภัทรษร นิลศิริ หรือ คุณแป๊ก อยู่ที่บ้านวังม่วง หมู่ที่ 2 ตำบลวังม่วง อำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น ผ่านประสบการณ์การทำงานมาหลายอาชีพ เริ่มตั้งแต่ไปทำงานที่ต่างประเทศเพื่อเก็บเงิน หลังจากนั้นกลับมาหางานทำที่บ้านและตั้งใจทำงานจนได้บรรจุเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แต่อย่างไรก็ตาม เธอคนนี้ก็ยังไม่หยุดที่จะแสวงหาทำในสิ่งที่รักนั่นก็คือการทำเกษตรกรรม ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำเป็นงานหลัก แต่ขอให้ได้ทำเป็นอาชีพเสริมก็สุขใจ แถมมีรายได้เข้ามาต่อเดือนไม่น้อย

คุณประภัทรษร นิลศิริ หรือ คุณแป๊ก

คุณแป๊ก เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้เดินทางไปทำงานโรงงานทอผ้าที่ต่างประเทศเพื่อเก็บเงิน เมื่อเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาเริ่มต้นทำในสิ่งที่รักที่บ้านเกิด โดยสิ่งแรกที่ทำคือการกลับมาพัฒนาพื้นที่การทำเกษตรของพ่อกับแม่จากเดิมที่ปลูกพืชไร่อย่างเดียว มาทำการจัดสรรลดพื้นที่การปลูกพืชไร่ลง แล้วเพิ่มพื้นที่การปลูกพืชผักให้มากขึ้น ซึ่งจุดประกายที่ทำให้อยากปลูกผักสร้างรายได้แทนการปลูกพืชไร่ เกิดขึ้นจากการที่ได้เห็นพืชผลทางการเกษตรในต่างแดนขายได้ราคาดี อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่คนต้องบริโภคทุกวัน และหากมองในแง่ของกระบวนการผลิต พืชผักถือเป็นพืชที่ใช้ระยะเวลาในการปลูกน้อย เพียง 35-45 วัน สามารถเก็บขายได้ ต่างจากพืชไร่ที่ต้องใช้เวลานานเกือบปีในการดูแลจนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

แปลงปลูกผักสลัดในมุ้ง 

ปลูกพืชผสมผสาน ตามหลัก GAP
ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตลาดต้องการสูง

เจ้าของบอกว่า ที่สวนมีพื้นที่ทำการเกษตรอยู่ทั้งหมด 10 ไร่ เดิมปลูกพืชไร่ทั้งหมด ปัจจุบันได้มีการแบ่งพื้นที่มาปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อสร้างรายได้เสริม เช่น พริก มะเขือ แตงกวา ฟัก หัวไชเท้า มะเขือเทศ และผักสลัด มีทั้งผักสลัดแก้ว กรีนคอส เบบี้คอสฟินเลย์ บัตเตอร์เฮด รวมทั้งหมด 4 ไร่ มีการจัดแบ่งพื้นที่การปลูกออกเป็น 2 ส่วน

ส่วนที่ 1 แบ่งเป็นส่วนของผักกางมุ้งบนพื้นที่ 1 ไร่ แบ่งปลูกเป็น 2 หลัง ความกว้างหลังละ 2 งาน โดยพืชผักที่ปลูกในมุ้งจะเลือกปลูกพืชที่มักจะมีแมลงศัตรูพืชมารบกวน ได้แก่ ผักสลัด โหระพา ถั่ว หัวไชเท้า ผังบุ้ง ต้นหอม ผักชี เนื่องจากที่สวนปลูกผัก GAP ส่งให้กับห้างสรรพสินค้า ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก ประกอบกับความสวยงามของผักและรสชาติความหวานกรอบ ก็ต้องมีควบคู่กันมาด้วย

ส่วนที่ 2 การปลูกพืชนอกมุ้งจำนวน 3 ไร่ เป็นการปลูกพืชผักหน้าร้อนแซมในสวนมะม่วง ได้แก่ ฟักเขียว พริก มะเขือเทศ และพืชผักชนิดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่เหมาะสม

ระบบมินิสปริงเกลอร์รดน้ำทุกวัน 

ปลูกผักสลัดกางมุ้ง ดูแลจัดการง่ายขึ้น

สำหรับการปลูกพืชผักกางมุ้ง คุณแป๊ก บอกว่า ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีเวลาน้อยอย่างตนเอง เพราะด้วยงานประจำที่ทำงานแทบจะไม่มีวันหยุด การเลือกปลูกผักที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นและการปลูกผักในมุ้งถือว่าช่วยทำให้อะไรหลายๆ อย่างง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการโรคแมลงได้ง่ายขึ้น และยังช่วยเป็นเกราะป้องกันสารเคมีจากพื้นที่ใกล้เคียงได้ดีมาก ส่วนในด้านการปลูกไม่ยาก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากปลูกในช่วงฤดูฝนและฤดูร้อนจะดูแลควบคุมได้ยากกว่าการปลูกในหน้าหนาวสักหน่อย เพราะการปลูกในฤดูร้อนจะมีปัญหาเรื่องของหนอน แต่ถ้าเป็นฤดูฝนจะมีปัญหาเรื่องของเชื้อรา เพราะฉะนั้นเจ้าของสวนอาจจะต้องดูแลใส่ใจในช่วงนี้เป็นพิเศษ แต่ถ้ามีประสบการณ์แล้วถือว่าไม่ยากเกินการควบคุม

ผักสลัดกรีนคอส

การเตรียมดิน เหมือนกับการปลูกผักทั่วไป เริ่มต้นจากการไถพรวนดิน ใส่ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ด แล้วไถกลบทิ้งไว้ แล้วยกร่องปลูก ในส่วนของปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดจะช่วยให้พืชเขียวทน เขียวนาน ไม่ต้องบำรุงปุ๋ยทางดินเยอะ เน้นฉีดบำรุงแค่ทางใบ โดยในช่วงของการเตรียมแปลงก็จะมีการเตรียมเพาะกล้าไว้ เพื่อให้ต้นกล้าโตทันพร้อมย้ายลงแปลงปลูกได้พอดี คือใช้ระยะเวลาการเตรียมแปลง และการเพาะกล้าประมาณ 15 วัน ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 20 เซนติเมตร

ผักสลัดบัตเตอร์เฮดปลูกในมุ้ง เขียวสวย น่ากิน

การบำรุงใส่ปุ๋ย-รดน้ำ ผักสลัดเป็นพืชที่โตเร็ว หลังจากย้ายกล้าลงแปลงประมาณ 10-15 วัน ให้พรวนดินเพื่อกำจัดหญ้าที่ขึ้นมาในแปลง 1 ครั้ง จากนั้นเริ่มการบำรุงปุ๋ยได้เลย โดยจะเน้นการบำรุงฉีดพ่นทางใบ หลังย้ายกล้า 7 วัน เริ่มบำรุงฉีดพ่นปุ๋ยทางใบทุก 5-7 วัน หลักๆ ที่สวนจะใช้ฉีดบำรุงด้วยฮอร์โมนไข่ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง โดยเลือกการบำรุงให้เหมาะสมกับช่วงที่พืชต้องการ ซึ่งการฉีดบำรุงด้วยฮอร์โมนจะเป็นเคล็ดลับที่ช่วยทำให้ผักหวานกรอบ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง จะช่วยกระตุ้นพืชให้ดูดกินอาหารได้ดี

ผักสลัดฟินเลย์

การรดน้ำ หลังย้ายกล้าลงแปลงปลูกให้น้ำทุกวัน วันละครั้ง ในช่วงเวลา 7 โมงเช้า ด้วยระบบมินิสปริงเกลอร์ ข้อดีคือจะทำให้ดินไม่แน่นเกินไป ทำให้พืชโตเร็วขึ้น และไม่ต้องพรวนดินบ่อยๆ แล้วหลังจากย้ายกล้าลงปลูกประมาณ 20 วัน จะเปลี่ยนการรดน้ำจากที่เคยรดวันละครั้ง เปลี่ยนมารดน้ำวันละ 2 ครั้ง แต่ให้ปริมาณน้ำที่รดในแต่ละครั้งน้อยลง ซึ่งการให้น้ำรูปแบบนี้จะส่งผลดีกับแปลงผักที่ไม่ปลูกแบบยกแคร่ เพราะถ้าให้น้ำเยอะเกินไป อาจทำให้ดินชื้นผักแห้งเร็ว แต่ถ้าให้น้ำน้อยเกินไปผักจะเหี่ยว จึงต้องปรับการให้น้ำเพื่อให้ผักเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์

ผักสลัดเรดโอ๊ค

การป้องกันกำจัดโรคและแมลง เน้นใช้สารชีวภัณฑ์ “น้ำส้มควันไม้” ในการป้องกันดูแลกำจัดแมลง หากเป็นช่วงหน้าร้อนหนอนก็จะมีมากหน่อย จะใช้วิธีการตรวจแปลงเห็นแล้วหยิบออก และในช่วงฤดูฝนจะมีปัญหาเรื่องของเชื้อรา ที่สวนก็จะมีการฉีดป้องกันด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า

“พริก” พืชพื้นบ้าน ปลูกส่งห้างสรรพสินค้าด้วยเหมือนกัน 

“ฮอร์โมนไข่” เคล็ดลับเพิ่มความหวานกรอบให้ผักสลัด

ส่วนผสม

  1. ไข่ไก่ 10 ฟอง
  2. ผงชูรส 6 ช้อนโต๊ะ
  3. กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วหมักทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วัน แล้วนำมาฉีดพ่นบำรุงพืชผักภายในสวน ในอัตรา ฮอร์โมนไข่ 20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ถือเป็นวิธีที่ช่วยลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้ดี และเป็นวิธีที่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีด้วย

การเก็บเกี่ยว ใช้เวลา 40-45 วัน เก็บเกี่ยวได้นับจากวันเพาะกล้า เน้นเก็บตามออร์เดอร์เป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้าได้กินผักที่หวานกรอบ และไม่มีรสชาติขม โดยที่สวนจะเน้นเก็บผักตอนช่วงเช้ามืด เพราะว่ารสชาติจะต่างกับผักที่เก็บตอนสาย หากเก็บช่วงสายๆ ผักสลัดจะมียางทำให้รสชาติของผักสลัดขม ดังนั้น จึงเน้นเก็บตามออร์เดอร์ให้ลูกค้าสั่งก่อนล่วงหน้า 1 วัน เพื่อให้ลูกค้าได้กินผักที่รสชาติดีที่สุด ไม่อยากให้ลูกค้าผิดหวัง

มะเขือเทศ ลูกใหญ่ ผิวสวย 

ปลูกผักส่งห้าง สร้างรายได้เสริม หลักหมื่นต่อเดือน

เมื่อถามถึงการตลาด คุณแป๊ก เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันตนเองทำงานประจำ ควบคู่กับการปลูกผักเป็นอาชีพเสริมที่มีรายได้แซงงานประจำไปแล้ว แต่กว่าจะสำเร็จอย่างที่ใครหลายคนเห็น ก็ต้องใช้ความพยายามและการวางแผนที่ดี เพื่อให้งานทั้งสองอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

พริกหวาน ที่สวนก็ปลูกนะ

โดยตลาดผักสลัดของที่สวนตอนนี้แบ่งเป็นลูกค้าที่โรงพยาบาลที่ทำงานอยู่ เฉลี่ยตัดส่งวันละ 3-5 กิโลกรัม และอีกส่วนปลูกส่งห้างสรรพสินค้า อาทิตย์ละ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 10-15 กิโลกรัม ในรูปแบบการส่งรวมกับกลุ่มสมาชิกให้ได้จำนวนมากๆ แล้วส่งให้กับบริษัทนำส่งให้กับห้างสรรพสินค้า ตรงนี้ถือเป็นช่องทางการตลาดที่ดีมาก เมื่อเทียบแต่ก่อนที่ต้องนำไปขายที่ตลาดนัดเอง ก็ขายได้ดี แต่ต้องใช้เวลาในการเฝ้าร้าน หากขายไม่หมดผักก็เน่าเสียหาย จึงได้พยายามหาทางออกให้ดีกว่าการขายเอง และได้มาเจอกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกผักเพื่อการค้าตำบลสระแก้ว จึงได้มีเวลาทำงานอย่างอื่นมากขึ้น และพืชผักไม่เกิดการเสียหาย โดยสวนที่จะปลูกผักส่งห้างสรรพสินค้าได้จะต้องเป็นสวนที่ได้รับรองมาตรฐาน GAP ประกอบกับทางบริษัทจะมีการสุ่มตรวจสารเคมีตกค้างอยู่เป็นประจำ ซึ่งรายได้โดยรวมจากผักสลัดเฉลี่ยประมาณ 2 หมื่นต่อเดือน และนอกจากผักสลัดที่ส่งห้างสรรพสินค้าแล้วยังมีหัวไชเท้า ฟักเขียว และพืชผักพื้นบ้านอื่นๆ ที่ปลูกส่งห้างสรรพสินค้าอีกเหมือนกัน

พืชผลหลากหลายจากสวน ปลอดภัยจากสารเคมี

ดังนั้น หากใครสนใจอยากปลูกผักสลัดเป็นอาชีพเสริมยังถือเป็นอาชีพที่น่าสนใจ เนื่องจากตอนนี้ตลาดของผักสลัดกว้างมากขึ้น หากเทียบกับเมื่อก่อนที่คนส่วนใหญ่ยังไม่นิยม และยังรู้จักกันในวงแคบ แต่ในสมัยปัจจุบันค่านิยมทางสังคมเปลี่ยนไป ส่วนหนึ่งอาจได้รับวัฒนธรรมการกินจากต่างชาติ ยกตัวอย่าง เช่น การกินเนื้อย่างเกาหลี ต้องกินควบคู่กับผักสลัด หรือแม้กระทั่งร้านอาหารที่มีการนำผักสลัดมาใช้กับหลายเมนูมากขึ้น ทำให้คนเปิดใจมากขึ้น ตลาดจึงยังน่าสนใจอยู่

แปลงปลูกหัวไช้เท้า

ทำเกษตรให้ยั่งยืน “ต้นทุน” เป็นสิ่งสำคัญ

“จากประสบการณ์ที่คลุกคลีในวงการเกษตรมาเป็น 10 ปี ก็อยากจะแนะนำเกษตรกรมือใหม่ทุกคนว่า การทำเกษตรให้คุ้มค่า ให้อยู่รอด สิ่งสำคัญคือการวางแผน และการคำนวณทั้งต้นทุนค่าใช้จ่าย และต้นทุนเวลา คือก่อนที่เราจะทำอะไรเราต้องมองก่อนว่าเวลาเรามีแค่ไหน ต้นทุนเรามีเท่าไหร่ แล้วเราต้องมาปรับใช้ยังไง มันต้องมองหลายๆ อย่าง ถ้าไม่วางแผนก่อนก็แย่ เพราะถ้าหากลงทุนไปแล้ว เราไม่ทำตลาด ไม่มีตลาดมารองรับ พอปลูกแล้วขายไม่ได้ มันก็ไม่มีกำลังใจจะสู้ต่อ เพราะเหนื่อยแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลย

เตรียมส่งให้ลูกค้า

แต่ในทางกลับกันถ้าเราวางแผนได้ การเกษตรจะไม่ใช่อาชีพที่ทำแล้วลำบากและยากจนอีกต่อไป อย่างของที่สวนตอนนี้เราทำเองเป็นหลัก และวางระบบการจัดการให้ดี เวลาในการทำงานก็น้อยลง แรงงานก็ลดลง ทุกอย่างทำได้ง่ายขึ้น เราก็มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ เพราะฉะนั้นการทำเกษตรก็ไม่ได้ลำบากอย่างที่ใครหลายคนคิด อย่างของเราเราวางระบบน้ำเรียบร้อย มันก็จะง่าย เพราะสารเคมีเราไม่ได้ใช้ ต้นทุนส่วนนี้จะลดไปเยอะ” คุณแป๊ก กล่าวทิ้งท้าย

มะม่วงในแปลงผสมผสาน

สนใจสอบถามรายละอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 064-592-2813