สาวไอที ปลูกผักเคล พื้นที่ข้างบ้าน 40 ตารางวา เริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่เดือนแรกที่ปลูก

หากใครกำลังมองอาชีพเสริมหลังว่างเว้นจากงานประจำ การปลูกพืชผักสวนครัว ผักสลัด หรือผักชนิดอื่นๆ ที่มีความต้องการบริโภคทุกวัน นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ผู้ที่มีพื้นที่น้อยสามารถทำได้ จัดการดูแลได้ง่าย ใช้ระยะเวลาการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวไม่นานเพียง 40-45 วัน เริ่มทำการตลาดได้ง่ายๆ จากคนในละแวกใกล้เคียง หากวางแผนการปลูกให้มีผักเก็บขายได้ทุกวัน วันละไม่ต้องมาก เพียงวันละ 2-3 กิโลกรัม คิดเป็นรายได้ต่อเดือนจำนวนไม่น้อย

คุณอัญชลี เกตุจรุง หรือ คุณอ้อ เจ้าของดินดีฟาร์ม ไส้เดือน ชลบุรี

คุณอัญชลี เกตุจรุง หรือ คุณอ้อ เจ้าของดินดีฟาร์ม ไส้เดือน ชลบุรี ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 6/1 หมู่ที่ 9 ตำบลหนองรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี สาวไอทีผู้ชื่นชอบในงานเกษตร ใช้เวลาว่างจากงานประจำ ปรับปรุงพื้นที่ข้างบ้านปลูกพืชผักอินทรีย์ มีผักเคลที่จัดอยู่ในกลุ่มอาหารซุปเปอร์ฟู้ด เป็นพืชสร้างรายได้หลัก ใช้ระยะเวลาการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวไม่นาน เริ่มสร้างรายได้เข้ากระเป๋าตั้งแต่เดือนแรก

ปลูกผักเคล ระบบโรงเรือนเปิด

คุณอ้อ เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันทำงานประจำเป็นซิสเต็มแอดมิน มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับระบบไอทีที่บริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนจุดเริ่มต้นของการทำเกษตรเกิดจากวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มีเวลาว่างจึงใช้โอกาสตรงนี้มองหาอาชีพเสริมทำแก้เบื่อ และสืบเนื่องจากที่บ้านพ่อกับแม่ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรมาอยู่แล้ว แต่ติดตรงที่วิธีการปลูกของพ่อกับแม่จะเน้นพึ่งสารเคมีเป็นหลัก จึงอยากปรับเปลี่ยน ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีอย่างถาวร โดยการหามูลไส้เดือนมาใช้ในสวน เพราะว่าในตัวของมูลไส้เดือนจะมีจุลินทรีย์ที่ช่วยในการเรื่องของการปรับปรุงสภาพดิน จึงได้เริ่มต้นจากการเลี้ยงไส้เดือนขายมูลเป็นอาชีพเสริมก่อน

พื้นที่ 1 ร่อง เก็บผลผลิตได้ 3-5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์

จากนั้นพอเลี้ยงไส้เดือนได้สักระยะ ก็เริ่มรู้สึกอยากที่จะกินผักที่ปลูกแบบปลอดสารและปลอดภัยต่อสุขภาพจริงๆ จึงเริ่มที่จะมองหาพืชผักที่ชอบกินมาปลูก และบังเอิญกับที่ลูกค้าประจำของมูลไส้เดือนแนะนำให้นำผักเคลมาทดลองปลูก ซึ่งในตอนนั้นก็พูดตรงๆ ว่ายังไม่รู้จักว่าผักเคลคืออะไร จึงได้ลองค้นหาข้อมูลของผักเคล ทำให้ได้รู้ว่าผักเคลมีประโยชน์มากมาย ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหารซุปเปอร์ฟู้ด เป็นผักใบที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ซึ่งด้วยประโยชน์ที่มากมายหลายประการเหล่านี้ ทำให้เป็นที่มาของการทดลองนำผักเคลมาปลูกเพื่อกินเองจนติดใจในรสชาติ และประโยชน์ที่ได้รับ นำไปสู่การขยายพื้นที่ปลูกเพื่อจำหน่ายจนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ผักเคลสร้างรายได้ดีอย่างต่อเนื่อง

ใบหยิก สีเขียวสวย ซุปเปอร์ฟู้ดชั้นดี

“ฟาร์มเราเริ่มต้นทำตลาดจากตลาดนัดชุมชน โดยทางตำบลได้ส่งเสริมให้คนในตำบลนำสินค้าที่มีแต่ละบ้านมาวางขายให้กับนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่านไปผ่านมา รวมถึงกลุ่มนักปั่นจักรยานที่จะเริ่มปั่นกันตั้งแต่ตี 5 หลังจากปั่นเสร็จจะมาแวะซื้อของที่ตลาด ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา คือกลุ่มคนรักสุขภาพ เราก็ได้ทำเคลกระถางออกไปวางขาย ซึ่งก็ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก หรือพูดง่ายๆ ว่าเอาไปขายเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย นับเป็นอีกหนึ่งที่มาของการขยายพื้นที่ปลูกผักเคล”

แบ่งพื้นที่ปลูกผักเคลในกระถางอีก 1 ร่อง

พื้นที่ข้างบ้าน 40 ตารางวา
สร้างเม็ดเงินต่อเดือนไม่น้อย

นอกจากคุณประโยชน์ที่มีมากมายของผักเคลแล้ว คุณอ้อ อธิบายเพิ่มเติมว่า ในส่วนของขั้นตอนการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก มีวิธีการปลูกการดูแลคล้ายกับการปลูกผักสลัดทั่วไป แต่อาจจะต้องมาพิถิพิถันในขั้นตอนการเพาะเมล็ดสักหน่อย

โดยเริ่มต้นจากการเลือกแหล่งเมล็ดพันธุ์ที่ดี นำมาเพาะด้วยวิธีควบแน่น ประมาณ 4-5 วัน จะได้ต้นกล้าสวยแข็ง อัตราการงอกสูง จากนั้นจะทำการย้ายต้นกล้าลงถาดเพาะอีกครั้ง ใช้เวลาในการเพาะอีกประมาณ 1 เดือน

กระถางใหญ่ พร้อมเก็บใบกินได้

หลังจากใช้เวลาเพาะกล้าในถาดเพาะครบ 1 เดือน ได้เวลาย้ายกล้าลงแปลงปลูก หรือย้ายปลูกลงกระถาง โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่มาก ผู้ที่อาศัยอยู่ตามคอนโดฯ บ้านจัดสรรก็สามารถปลูกผักเคลไว้กินเองได้ และเคลื่อนย้ายได้ง่าย

“ตามทฤษฎีที่เคยอ่านมา ผักเคลควรจะเจอแดดเต็มวัน อันนี้คือการปลูกในต่างประเทศ ถ้าปลูกในประเทศไทยจากประสบการณ์ที่เราทำมา จะแนะนำให้ปลูกใต้ซาแรนหรือใต้พลาสติกใส แต่ถ้าไม่มีจริงๆ แนะนำว่าให้หาบริเวณที่มีแดดส่องเพียงครึ่งวัน การปลูกในกระถางจะสะดวกต่อการโยกย้าย และผักเคลจะมีลักษณะเฉพาะตัวคือเป็นผักใบหยิก ยิ่งใบหยิกเท่าไหร่คนจะยิ่งชอบ แล้วถ้าต้นใหญ่ด้วยก็จะขายได้ราคาแพง ปลูกเป็นไม้ประดับ หรือปลูกไว้กินเองประโยชน์สูง เด็ดกินได้เรื่อยๆ ปลูกครั้งเดียวเก็บเกี่ยวได้นานเป็นปี”

เคลใบหยิก ต้นละ 10 บาท

ปัจจุบันที่ฟาร์มปลูกผักเคลบนพื้นที่ประมาณ 40 ตารางวา แบ่งปลูกในโรงเรือนทั้งระบบปิดและระบบเปิด อย่างละ 1 หลัง ขนาดความกว้างของโรงเรือน 4×12 เมตร เท่ากัน รวมถึงแบ่งพื้นที่ปลูกในกระถางอีกประมาณ 1 ร่อง

การปลูกการดูแล วิธีการปลูกและดูแลเคลจะเริ่มจากการเพาะเมล็ดจนสามารถเก็บเกี่ยวได้ นับจากวันเพาะเมล็ดและขั้นตอนการย้ายกล้าลงปลูกในแปลงหรือในกระถาง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน แล้วหลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือนจะเก็บเบบี้เคลมากินได้ โดยเริ่มเด็ดจากใบข้างล่างก่อน จากนั้นพอต้นครบ 2 เดือน จะเริ่มโตเต็มที่พร้อมเก็บขาย

เคลใบหยิก กระถางละ 20 บาท

การปรุงดิน ที่ฟาร์มจะให้ความสำคัญในขั้นตอนการปรุงดินก่อนปลูกเป็นอย่างมาก เนื่องจากผักเคลเป็นผักที่ค่อนข้างมีอายุการเก็บเกี่ยวได้นานเป็นปี เพราะฉะนั้นดินที่ใช้ปลูกจะต้องเป็นดินที่ดี มีลักษณะเป็นดินร่วน ระบายน้ำ ระบายอากาศได้ดี รวมถึงจะต้องมีอินทรียวัตถุในดินมากพอสมควร เพื่อจะให้พืชสามารถเลี้ยงตัวเองได้ในตอนที่ต้นเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

อัตราส่วนการผสมดินปลูก 1. ดินปลูก 1 ส่วน เป็นดินที่ทางฟาร์มหมักดินทิ้งไว้ก่อนนำมาใช้ประมาณ 1 เดือน ให้ความร้อนจากการหมักหายออกไปให้หมดก่อน แล้วจึงค่อยนำมาใช้ ดินที่ได้ก็จะเป็นดินที่ดี มีธาตุอาหารครบถ้วน 2. ปุ๋ยคอกมูลวัวนม 1 ส่วน 3. ใบก้ามปู 1 ส่วน ช่วยเสริมไนโตรเจนให้กับดิน 4. แกลบดิบ ช่วยให้ดินร่วน ระบายน้ำ ระบายอากาศได้ดี 5. จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง นำมาผสมกับน้ำเพื่อใช้รดในกองดินที่ทำการผสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน จนดินแน่นๆ ใช้มือกำขึ้นมาแล้วดินจับเป็นก้อน จากนั้นนำดินที่ผสมเสร็จไปใส่ถุงปุ๋ย แล้วมัดปากถุงให้อากาศสามารถเข้าถึงได้ พักทิ้งไว้โดยที่สลับถุงปุ๋ยไปมาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง แล้วจึงค่อยนำดินมาใช้

เคลใบสด แพ็กใส่ถุง พร้อมจัดส่ง

การบำรุงใส่ปุ๋ย ที่ฟาร์มจะเสริมธาตุอาหารโดยการใช้มูลไส้เดือนใส่บำรุงอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ซึ่งปุ๋ยมูลไส้เดือนจะมีประโยชน์ช่วยในเรื่องราก ทำให้รากพืชเจริญเติบโตได้ดี มีการแตกยอดอย่างเห็นได้ชัด และนอกจากการบำรุงด้วยปุ๋ยมูลไส้เดือนแล้ว ยังมีการบำรุงด้วยฮอร์โมนน้ำหมักต่างๆ ที่ใช้จะมีในส่วนของน้ำหมักปลา ฮอร์โมนไข่ และน้ำหมักมูลวัวที่ได้มาจากการแช่ขี้วัวนม เพื่อที่จะนำไปเลี้ยงไส้เดือน แล้วจะมีน้ำเหลือทิ้ง ทางฟาร์มจะเอาตัวน้ำหมักมูลวัวมารดผัก ช่วยทำให้ผักใบเขียวขึ้น จากไนโตรเจนที่อยู่ในน้ำหมักมูลวัว เพราะฉะนั้นทางฟาร์มจะไม่ต้องเสียเงินซื้อปุ๋ยเลยสักบาท

ระบบน้ำ การรดน้ำผักเคลแบ่งรดเป็น 2 เวลา ช่วงเช้า-เย็น ช่วงเช้าเริ่มรดน้ำก่อน 07.00 น. และช่วงเย็นรดอีกรอบหนึ่งเวลาประมาณ 17.00 น. เป็นต้นไป หรือถ้าหากในกรณีวันไหนที่อากาศร้อนจัดๆ ในช่วงกลางวันจะเปิดสเปรย์พ่นหมอกอีกครั้งในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.

น้ำเคลสกัดเย็น ดื่มแล้วสดชื่น ประโยชน์สูง

ผลผลิตต่อแปลง ในส่วนของผลผลิตถ้าผักเติบโตดี ผลผลิตออกเต็มร่อง แบ่งเก็บสัปดาห์ละ 1 ร่อง จะได้ผลผลิตประมาณ 5 กิโลกรัม ปลูกทั้งหมดประมาณ 4 ร่อง จะเก็บผลผลิตได้อาทิตย์ละประมาณ 5-10 กิโลกรัม โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากพื้นที่ใกล้เคียง เช่น อ่างศิลา บางแสน ศรีราชา เป็นหลัก และมีลูกค้าจากต่างจังหวัดอีกส่วนหนึ่ง โดยจะใช้วิธีแพ็กส่งห้องเย็นไปให้กับลูกค้า

เพาะเลี้ยงไส้เดือนขายมูล พร้อมผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เองในฟาร์ม

ตลาดกลุ่มรักสุขภาพยังมาแรง
“ผักเคล” เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

กระแสนิยมผักเคลยังมาแรงอย่างต่อเนื่อง คุณอ้อ เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกของการเริ่มทำตลาดผักขาย ขายในตลาดนัดชุมชนยังทำไม่เยอะเพื่อทดลองตลาด แต่ปรากฏว่าผักเคลในกระถางที่นำไปขายมีเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็ทำให้ได้รู้ว่ายังมีกลุ่มคนที่สนใจผักเคลต้องการนำไปปลูกไว้กินเองที่บ้านอีกมาก ประจวบเหมาะกับที่การเลี้ยงไส้เดือนเริ่มอยู่ตัวแล้ว จึงไม่รอช้าที่จะขยับขยายพื้นที่ปลูกเคลเพิ่ม พร้อมไปกับการเพิ่มช่องทางการตลาดที่นอกเหนือจากการขายหน้าสวนและขายในตลาดนัดชุมชน ก็ได้ใช้ความรู้ทางด้านไอทีที่มีอยู่ มาเปิดเพจขายผักเคลเพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง ได้รับการตอบรับดีมากๆ ลูกค้าส่งข้อความเข้ามาในเฟซบุ๊กแทบแตก เข้ามาถามขอซื้อผักเคลกันมากมาย จุดนั้นเลยทำให้รู้ว่าตลาดผักเคลยังมีอีกกว้าง และนำไปสู่การต่อยอดแตกไลน์สินค้าเพิ่มเติม

มูลไส้เดือน ปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดี

“พอเรารู้ว่ามีตลาดที่ต้องการผักเคลอีกเยอะ พี่ก็เริ่มคิดต่อยอดได้เลย จากเดิมที่เคยขายแต่ใบสด กับขายผักเคลในกระถาง ก็เปลี่ยนใหม่ คือหันมาเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่การเพาะเมล็ดเลย ขายทั้งแบบต้นอ่อนที่ใช้เวลาเพาะประมาณ 4-5 วัน อันนี้ขายในราคาต้นละ 1 บาท ถัดมาคือการเพาะต้นกล้าขายใช้เวลาในการเพาะประมาณ 1 เดือน อันนี้ขายได้ราคาต้นละ 3 บาท และการขายผักเคลแบบยกกระถาง จะมีตั้งแต่ไซซ์เล็ก ไปจนถึงไซซ์ใหญ่ที่พร้อมเด็ดกินได้เลย รวมไปถึงการนำมาแปรรูปทำน้ำผักสกัดเย็น เนื่องจากผักของเราปลูกแบบอินทรีย์ เพราะฉะนั้นก็จะมีในส่วนของใบที่ไม่ค่อยสวยงามบ้าง อาจจะมีหนอนเจาะ มีแมลงกวนบ้าง เราก็คัดเลือกออกแล้วนำใบส่วนที่ดีไปทำเป็นน้ำผักสกัดเย็น ขายสร้างรายได้ดีมากๆ” คุณอัญชลี กล่าวทิ้งท้าย

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 091-915-9164 หรือติดต่อได้ที่ช่องทางเฟซบุ๊ก : ดินดีฟาร์ม ไส้เดือน ชลบุรี