ผู้เขียน | กัลยดา ชุ่มอินทรจักร |
---|---|
เผยแพร่ |
อะโวคาโด เป็นไม้ผลที่ทำเงินในประเทศไทยเราเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่ามาแรงแซงโค้ง ปัจจุบันมีหลากหลายพันธุ์มาก จะแตกต่างกันที่รสชาติ ความหนา และความละเอียดของเนื้อใน อะโวกาโดได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเป็นไม้ผลยืนต้นที่มีใบเขียวตลอดปี
ผู้ที่มีใจรักไม้ผลอะโวกาโดอีกคนหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำอยู่ในตอนนี้คือ คุณเฉลิมชัย โหบาง วัย 41 ปี แห่งซีเคร็ท ฟาร์ม (Secret Farm) จากเดิมเคยทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่หลายปี ปัจจุบันหันมาปลูกอะโวคาโดเต็มตัว อยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก หรือชื่อเล่นว่า คุณเอ๋ ผู้หนึ่งที่สนใจปลูกอะโวคาโดจนประสบความสำเร็จ

คุณเอ๋ กล่าวว่า อะโวคาโดยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคสายสุขภาพและจะคงนิยมบริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ ผมจึงอยากจะแนะนำให้เกษตรกรที่สนใจที่จะปลูกทำเงินสร้างรายได้ ปลูกพืชชนิดนี้น่าจะไปได้ดีในตลาด และอีกอย่างถ้าศึกษาและทำความเข้าใจธรรมชาติของเขาก็จะทำให้ได้ผลผลิตที่ดกและคุณภาพดีด้วยครับ
สร้างรายได้เรือนแสนอย่างไร
“ที่สวนผมชื่อว่า ซีเคร็ท ฟาร์ม อยู่ที่พิษณุโลก การเลือกสายพันธุ์ที่ดีและคุณภาพสูง ขายผลผลิตก็ได้ราคาสูง และด้วยความที่ผมเอาใจใส่ ตั้งใจปลูกและดูแลไม้ผลชนิดนี้ จากการทดลองแล้วว่า เป็นผลไม้สุขภาพที่ทุกคนรู้จัก ทำให้ยอดขายผมทางออนไลน์มีทั่วประเทศ การจัดการสวน ที่มีระยะปลูกเรียงสวยงามแล้ว การกำจัดวัชพืชและการจัดการในฟาร์ม ทำให้ได้ผลผลิตดกมียอดขายมากขึ้นแม้จะอยู่ต่างจังหวัด ผมคิดว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ถ้าเราให้ความรัก ความมุ่งมั่นผลผลิตของเราก็ออกมาดี การขายปัจจุบัน ที่มีโซเชียลมีเดียหรือออนไลน์ ทำให้ย่อตลาดให้คนเห็นชัดมากขึ้น เสมือนหนึ่งลูกค้าอยู่ใกล้เรา และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือความซื่อสัตย์ที่มีต่อลูกค้า ถึงแม้เราจะอยู่ใกล้ไกลแค่ไหน ก็สร้างเงินแสนได้และสร้างรายได้ที่มั่นคง ผมคิดว่าการทำการเกษตรไม้ผล อะโวคาโดยังไปได้อีกไกลเพราะคนปลูกยังมีไม่มาก ยังไม่มีการล้นตลาด เพราะยังมีการนำเข้าจากประเทศเวียดนาม แต่ถ้าปลูกได้ผลผลิตในบ้านเราทำให้ลูกค้าได้กินของที่สดกว่าคุณภาพย่อมดีกว่า”

ปลูกในเข่งได้ผลดี
ที่ฟาร์มนอกจากบริหารจัดการเรื่องสายพันธุ์ปลูกแล้วยังบริหารเรื่องการปลูก เดิมทีปลูกลงดินต่อมาพัฒนาเรื่องจำกัดเนื้อที่ปลูกโดยปลูกลงเข่ง ได้ผลค่อนข้างดี และปลูกได้มากขึ้น เพราะใช้ระยะห่างแค่ 2×2 เมตรเท่านั้น เพราะการปลูกในเข่งการดูแลเรื่องวัชพืชง่ายขึ้น อีกอย่างการง่ายต่อการขนย้ายถ้าบริเวณที่ปลูกมีน้ำท่วมขัง อีกทั้งการดูแลเรื่องการให้ปุ๋ยที่ฟาร์มจะเน้นปุ๋ยคอก การจำกัดเนื้อที่ให้อยู่ในเข่งก็ทำให้ปุ๋ยสร้างประโยชน์ให้ต้นไม้มากขึ้น การเลือกซื้อต้นกล้าก็สำคัญ ต้องซื้อจากแหล่งผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ ตรงตามสายพันธุ์ ต้นพันธุ์แข็งแรง ระบบรากเจริญดี

สร้างรายได้หมุนเวียนเกือบทั้งปี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรมักพบปัญหาเรื่องต้นอะโวคาโดที่มักจะตายในช่วงปีแรกหลังปลูก ซึ่งมีสาเหตุหลายอย่าง เช่น ความสมบูรณ์ของต้น โรคที่ติดมากับเมล็ดที่นำมาเพาะ ช่วงที่เวลาปลูก การดูแลต้นหลังปลูก ดังนั้น การจะปลูกต้นอะโวคาโดให้รอด ต้องเริ่มจากการเลือกต้นพันธุ์ที่ปลอดเชื้อโรค ปลูกในเข่งจะให้ผลผลิตดกมาก การปลูกได้มากขึ้นกว่าปลูกดินซึ่งต้องใช้ระยะห่างมากกว่า รายได้จะหมุนเวียนทุกเดือนโดยให้ผลผลิตไม่ตรงกันของแต่ละสายพันธุ์ ทำให้มีผลผลิตส่งขายสร้างรายได้หมุนเวียนในครัวเรือนได้ดี โดยจะเริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่เดือนเมษายน ไปจนถึงสิ้นปี
สายพันธุ์ที่ปลูกในฟาร์ม
สายพันธุ์จากเวียดนาม
- อะโวคาโดสายพันธุ์ 034 (ในไทยไม่พอขายส่วนใหญ่นำเข้ากิโลกรัมละ 80-100 บาท) ลักษณะผลยาว ปลายผลป่องออกเล็กน้อยและแทรกด้วยเมล็ด เนื้อผลสีเหลืองสดรสชาติมันเหนียวและเนื้อไม่ติดเปลือก ล่อนง่าย สีผิวเปลือกมีสีเขียวเข้มมันวาวเป็นลักษณะเด่นของสายพันธ์นี้
อะโวคาโดจากเวียดนามพันธุ์ 034 ลักษณะผลยาวโค้ง ปลายผลจะป่องแทรกเมล็ด - อะโวคาโดสายพันธุ์ไร้เมล็ด ผลสุก นิ่มเล็กน้อย กินอร่อย เนื้อในจะคล้ายๆ พันธุ์ 034 ไม่ได้หวานมาก จะเน้นทางมันมากกว่า เนื้อในจะหนาเพราะไม่มีเมล็ด แต่เปลือกจะหนา ลอกเปลือกออกง่าย

- อะโวคาโดสายพันธุ์เตี้ยเวียดนาม เนื้อผลสีเหลืองสด รสชาติมันเหนียวและเนื้อไม่ติดเปลือก แกะเปลือกออกง่าย สีผิวเปลือกมีสีเขียวเข้มมันวาว ขนาดของลูกใหญ่ปานกลาง
สายพันธุ์เตี้ยเวียดนาม ผลยาว เนื้อใน สีเหลืองน่ารับประทาน (3)
สายพันธุ์จากไทย
- อะโวคาโดสายพันธุ์ชมพูสยาม ต้นเกิดจากการเพาะเมล็ด กลายพันธุ์ดี ด้วยรสชาติที่มีความหวาน มัน แต่สีของเนื้อในจะไม่ค่อยจัดเท่าใดนัก ลูกใหญ่เฉลี่ย 2 ลูกต่อกิโลกรัม เนื้อเยอะ เมล็ดน้อย ลอกเปลือกออกง่าย
- อะโวคาโดสายพันธุ์จรัสแสง รสชาติจะออกหวานมากกว่าพันธุ์อื่น ลูกใหญ่ รสชาติหวานมัน เหนียว สีเนื้อในเหลืองสด
สายพันธุ์จากอินโดนีเซีย
อะโวคาโด เรด โกลเด้น สวีท (Red Golden Sweet) เป็นอะโวคาโดที่มีราคาค่อนข้างสูง ราคาขายผลปัจจุบันกิโลละ 270 บาท ต่างประเทศกิโลกรัมละ 1,000 บาท อะโวคาโด เรด โกลเด้น สวีท ตอนนี้กว่า 90% ของพื้นที่ปลูกที่ฟาร์ม เนื่องจากราคาตลาดค่อนข้างสูง กิโลกรัมละ 270 บาท มีจุดเด่นที่สี ให้ผลสีเหลืองทอง สุกแล้วสีแดง สวยงาม สังเกตเรื่องสีผลสุกได้ง่ายเพราะจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง เป็นพันธุ์ที่ต้นไม่ค่อยใหญ่มาก ลักษณะต้น ยอดจะเป็นสีส้มแดง ใบแก่สีเขียวอ่อนไม่เขียวเข้มเหมือนสายพันธุ์ทั่วๆ ไป ปลูกได้ดีทั้งในเข่งและลงดิน ที่เลือกปลูกพันธ์ เรด โกลเด้นสวีท เพราะว่าสีสันสวยงาม สังเกตตอนเก็บผลแก่ง่าย เพราะเขาเปลี่ยนสีชัดเจน รสชาติหวานมัน เนื้อละเอียดเหนียว ลอกเปลือกออกง่าย ส่วนสายพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้นก็ทยอยเปลี่ยนเป็นพันธุ์ เรด โกลเด้น สวีท แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งพันธุ์อื่น เพียงแต่ลดพื้นที่ปลูกตามตลาดนิยม

ที่กล่าวเรื่องสายพันธุ์มาทั้งหมด เรื่องของรูปทรงจะแตกต่างกันไป แต่รสชาติใกล้เคียงกันทั้งหมดแล้วแต่ความชอบของคนกิน แต่บางสายพันธุ์ก็จะมีจุดเด่นที่สี เช่น เรด โกลเด้น สวีท นอกจากสีของเปลือกแล้วสีของเนื้อในยังสวยอีกด้วย จึงกำลังเป็นต้องการของตลาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งยังไม่แพร่หลายมากนัก สายพันธุ์ส่วนใหญ่จะดกมากทุกสายพันธุ์ ใช้กิ่งพันธุ์เสียบยอด นำลงปลูกในเข่ง ข้อดีคือดก และควบคุมความสูง ยังควบคุมเรื่องของปุ๋ยและวัชพืชได้ดีอีกด้วย
เคล็ดลับของฟาร์ม
ต้นเสียบยอดใส่เข่ง ที่มีขนาดเล็กลงมาราคาก็จะอยู่ที่ประมาณเข่งละ 20 บาท ก็จะสร้างดอกเร็วใช้เวลาแค่ปีครึ่ง ปีแรกก็ให้ผล 1-2 ลูก ปีที่สองให้ดอกให้ผล ตามขนาดต้น แต่ไม่เกินลำต้นที่แบกได้ แต่สามารถย้ายลงเข่งที่มีขนาดใหญ่ได้เลย การที่จะทำให้ต้นเตี้ยแต่ให้ผลผลิตในเข่งได้นานๆ นั้น หลังจากเก็บผลแล้ว ต้องตัดแต่งให้ต้นสั้นลง หลักการแบบเดียวกับปลูกไม้ลงดินทั่วไป

ต้นพันธุ์ที่ใช้ขยายพันธุ์ในฟาร์ม เพื่อจำหน่ายต้นพันธุ์ จะเป็นกิ่งเสียบยอด โดยใช้ต้นตอจากการเพาะเมล็ดที่นำเข้ามาจากเวียดนาม โดยจะคัดเมล็ดที่ใหญ่ๆ เพาะออกมาจะได้ต้นตอที่ใหญ่ เพราะว่าเมล็ดจากเวียดนามพันธุ์พื้นเมืองเขาจะให้เมล็ดใหญ่มากกว่าของไทยเรา
ระยะห่างของการปลูกที่ฟาร์ม
ถ้าปลูกในเข่ง 2×2 เมตร ถ้าปลูกลงดิน 6×6 เมตร แต่มีข้อดีแตกต่างกันทั้งสองอย่าง กรณีที่พื้นที่น้อย แนะนำให้ปลูกในเข่ง เพราะทรงพุ่มจะไม่แตกมาก และขนย้ายเข่งได้ง่าย ยังประหยัดปุ๋ยและน้ำอีกด้วย ใช้ดินผสมกับแกลบดิบอัตรา 1 : 1 หรือแกลบ 2 : ดิน 1 ส่วนก็ได้ เนื่องจากว่าวัสดุปลูกจะย่อยสลายได้ง่ายแล้วทำให้ดินยุบก็เติมดินได้ เราจะปลูกให้รากลอยๆ นิดหน่อย เพื่อเราจะได้เติมดินภายหลังแล้วโคนต้นเขาจะไม่จมมากเกินไป อีกอย่างคือจะเอาฟางคลุมเพื่อกันหญ้าและคุมความชื้นด้วย การเตรียมเข่งเราจะบุด้วยกระสอบปุ๋ย ซาแรน หรือผ้าปูกันหญ้า แต่ต้องเจาะรูที่ผ้าปูด้วยเพื่อระบายน้ำ เอามาบุข้างเข่งทั้งด้านข้างและด้านล่างเพื่อกันไม่ให้ดินไหล ข้อดีของการปลูกไม้ในเข่งคือ หญ้าไม่มี เมื่อถอนหมดแล้วหมดเลยโอกาสขึ้นอีกมีน้อยมาก เมื่อใส่ปุ๋ยเขาได้ปุ๋ยเต็มที่ ไม่ไหลไปที่อื่นหมด รากชนเข่งทำให้มีผลเร็วกว่าการปลูกลงดินปกติ โรคแมลงน้อยเพราะเราสามารถเอาไปตั้งไว้ที่ที่ไม่มีหญ้า หรือไม่มีที่หลบซ่อนของแมลง ยกย้ายหนีน้ำได้เมื่อน้ำจะท่วม

การที่เปลี่ยนมาปลูกสายพันธุ์ เรด โกลเด้น สวีท
ที่เลือกปลูกพันธุ์นี้มาก เพราะราคาดี รสชาติดี สีสันสดใส มีความหวานเมื่อกินผลสด เนื้อละเอียด ด้วยความเด่นของสีที่แตกต่างกันเป็นระยะ เช่น ตอนผลอ่อนจะเป็นสีออกเหลือง ในช่วงกลางๆ สีจะออกเหลืองปนแดง ในช่วงเริ่มแก่สีจะออกแดง ถ้าแก่จัดสีจะออกแดงเข้มอมม่วง ความชัดเจนของสีเป็นช่วงๆ ทำให้ง่ายต่อการเก็บเกี่ยว และยังแตกต่างเรื่องของเนื้อในอีกด้วย จะออกสีเหลืองฟักทอง และมีความหวานกว่าสายพันธุ์อื่น นอกจากนี้ ยังทำให้ต้นมีสีของผลที่ต่างกันทำให้ความสวยงามที่ตัดกับใบที่มีสีเขียวอ่อน ยอดจะเป็นสีส้มแดง เป็นทั้งไม้ประดับกินได้ที่น่ามองและน่าปลูกประดับสวนและยังได้ราคาดีคุ้มค่าในการปลูก แต่การปลูกสายพันธุ์อื่นก็ได้ผลดี มีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนกัน ก็แล้วแต่คนชอบ บางคนก็บอกว่าสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของอะโวกาโด และมีรสชาติดั้งเดิมคือ รสจืดแต่มีความหวานนิดๆ และมัน

การรดน้ำและการดูแล
ที่สวนใช้มินิสปริงเกลอร์หัว 40 ลิตร ให้วันละ 1 ชั่วโมงทุกวัน ให้ปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16 ช่วงก่อนฤดูมีดอก 3 เดือนจะใส่ 8-24-24 หรือต้นไม้ชนิดไหนที่เราอยากให้ต้นเล็กและมีผลเร็วๆ ก็จะใส่ 8-24-24 อย่างเดียวเลย แต่หลักๆ แล้วใช้ปุ๋ยคอก
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สวนซีเคร็ทฟาร์ม (Secret Farm) โดย คุณเฉลิมชัย โหบาง หรือ คุณเอ๋ https://www.facebook.com/Secret789Farm Line ID ae.hobang ที่อยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์ 088-791-9699

เผยแพร่ออนไลน์ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ.2566