พริก พืชที่อยู่ทุกจานของอาหาร ปลูกดีมีรายได้

เกษตรทางรอดวันนี้ ขอแนะนำการปลูกสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว นั่นคือเมล็ดแดงๆ ที่เรียกว่า พริก มีคำถามว่าพริก เรียกเป็นผักหรือผลไม้ ทำไมพริกอยู่กับวิถีคนไทยมาตลอด เกิดมาก็พบพริกอยู่ทุกภูมิภาคของไทย คนไทยบริโภคพริกมายาวนาน คนไทยกินเผ็ดมาก อาหารไทยก็เผ็ด แต่จริงๆ แล้วคนไทยรู้จักและกินพริกหลังชาติอื่นนานมาก เมื่อเรานึกถึงอาหารไทย ใครๆ ก็คงจะนิยามว่าเผ็ดจัดจ้าน ส่งผลให้ “คนไทยกินเผ็ด” เป็นภาพจำของคนส่วนใหญ่ และเราคนไทยเองก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย ว่ากันจากประสบการณ์ส่วนตัว ฉันเจอคนไทยกินเผ็ดมากกว่าคนไม่กินเผ็ดแบบสู้กันไม่ได้ และแม้แต่คนที่บอกว่าไม่กินเผ็ดก็ยังกินผัดกะเพรา (เผ็ดน้อย แต่ก็ใส่พริกนั่นละ) ยังเติมพริกป่นในก๋วยเตี๋ยว (นิดหนึ่ง แต่ก็เติม) นึกๆ ดูฉันยังไม่เคยเจอคนที่ไม่กินเผ็ดแบบไม่แตะพริกไม่แตะพริกไทยเลยสักคน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะอาหารไทยนั้นผูกโยงอยู่กับวัตถุดิบที่มีความเผ็ด ตั้งแต่เผ็ดจริงจังอย่างพริก เผ็ดเบาลงหน่อยอย่างพริกไทย ไปจนถึงเผ็ดร้อนน้อยๆ จากสารพันเครื่องเทศและสมุนไพร ฉะนั้น จะบอกว่าเราชาวไทยคุ้นชินกับความเผ็ดกันตั้งแต่เล็กแต่น้อยก็ว่าได้

กล่าวถึงพริกยังไม่บอกเลยนะครับว่าเป็นผลไม้หรือผัก ในทางพฤกษศาสตร์ พริกเป็นผลไม้ เนื่องจากมีเมล็ดอยู่ภายในและเกิดจากการออกดอกของพืช พริกจึงเป็นพืชที่มีอวัยวะสืบพันธุ์เพศเมีย (รังไข่) ทำหน้าที่สร้างเมล็ด นอกจากนี้ พริกยังมีรสชาติหวานและเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งเป็นลักษณะของผลไม้ทั่วไป อย่างไรก็ตาม สีสันในทางอาหารที่รสจัดจ้าน พริกมักถูกจัดเป็นผัก เนื่องจากนิยมนำมาประกอบอาหารร่วมกับผักอื่นๆ และมักมีรสเผ็ดร้อน ซึ่งแตกต่างจากผลไม้ทั่วไปที่มีรสหวานหรือเปรี้ยว ดังนั้น สรุปได้ว่า พริกเป็นผลไม้ตามหลักพฤกษศาสตร์ แต่มักถูกจัดเป็นผักตามหลักอาหารนั่นเอง เข้าใจตามนี้นะครับ

ความเป็นชาติที่กินเผ็ดนี่เองทำให้หลายคนอาจจะคิดว่าไทยคือต้นกำเนิดของการปลูกหรือการกินพริก ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่เผ็ดที่สุด แต่ไม่ใช่ค่ะ นอกจากพริกจะไม่ได้เป็นพืชท้องถิ่นของเราแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือคนไทยเพิ่งจะรู้จักและลิ้มรสพริกกันเมื่อ 400 ปีที่แล้ว ในขณะที่มนุษย์โลกอื่นๆ เขากินพริกก่อนเรามานับพันพันปีเลยทีเดียว เรื่องนี้มีที่มา

หลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่า ชาวอินเดียนในเม็กซิโกกินพริกเป็นอาหารมานานกว่า 9,000 ปีแล้ว เพราะอุจจาระที่เป็นก้อนแข็งที่พบที่เมือง Huaca Prieta มีซากเมล็ดพริกอายุประมาณ 9,000 ปี การศึกษาวิถีชีวิตของชนเผ่า Olmec, Toltec และ Aztec ก็แสดงให้รู้ว่าคนเหล่านี้รู้จักปลูกและบริโภคพริก นักประวัติศาสตร์ยังขุดพบซากของต้นพริกอายุกว่า 2,000 ปี ในเทวสถานของเปรูด้วย แม้แต่ลายปักเสื้อผ้าของคนอินเดียนที่อาศัยอยู่ในเปรูเมื่อ 1,900 ปีก่อน ก็มีลวดลายปักเป็นต้นพริก และเมื่อกองทัพสเปนบุกอาณาจักร Aztec นายพล Cortez ได้เขียนจดหมายเล่าว่า กษัตริย์ Aztec ทรงโปรดเสวยพระสุคนธรสที่มีพริกปน เรียกได้ว่าการกินพริกเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของชาว Aztec และภาษาอังกฤษของพริกว่า Chili นั้น ก็เป็นภาษาของชาวแอซเท็ก

ส่วนว่าพริกออกเดินทางไปทั่วโลกและเข้ามาถึงบ้านเราได้อย่างไร มันเดินทางมาถึงบ้านเราเพราะมีชายชื่อว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักสำรวจและนักเดินเรือชาวอิตาลี ซึ่งได้เดินทางบนเรือครบ 4 ครั้งทั่วทั้งมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ยุโรปได้สำรวจอย่างกว้างขวางและการก่อตั้งดินแดนอาณานิคมในทวีปอเมริกา การเดินทางของเขา เมื่อเขาเดินทางไปเสาะหาเครื่องเทศในทวีปอเมริกา ปีเตอร์ มาร์ทิล ลูกเรือคนหนึ่งก็แอบเก็บพริกจากอเมริกาติดมือกลับมา มาจากทวีปอเมริกา แล้วนำมาปลูกที่สเปนเมื่อ พ.ศ. 2096 ปรากฏว่าได้ผลผลิตดี ผู้คนในยุโรปจึงมีโอกาสได้ลิ้มรสความเผ็ดของพริก และขยายการบริโภคพริกไปสู่พื้นที่อื่นๆ ของโลกตั้งแต่อาหรับ อินเดีย ฯลฯ การเดินทางของนักล่าอาณานิคมก็พาพริกเดินทางไปรอบโลกด้วย

พ.ศ. 2143 การเดินทางของพริกจากอินเดียก็แพร่หลายไปยังประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย คาดว่าพริกถูกนำเข้ามาโดยพ่อค้าชาวโปรตุเกสช่วงต้นสมัยกรุงศรีอยุธยา หรือไม่ก็เป็นในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าทรงธรรม จนถึงรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ได้มีการติดต่อซื้อขายกับชาวต่างชาติในยุคนั้น ซึ่งมีทั้งจีน อินเดีย และยุโรป หลังจากนั้นพริกก็ฝังตัวอยู่ในวัฒนธรรมการกินของชาวไทยแบบแยกกันไม่ออก พริกจึงมีอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่บัดนั้น

ก่อนการเข้ามาของพริก ชาวไทยเองก็คุ้นชินกับรสเผ็ดดี วัตถุดิบเผ็ดที่มีใช้ในครัวไทยอยู่แล้วก็คือพริกไทย เพราะมีหลักฐานขุดพบที่แหล่งโบราณคดีถ้ำผี จังหวัดแม่ฮ่องสอน กำหนดอายุได้ราว 4,000-5,000 ปีมาแล้ว ในขณะที่วัตถุดิบรสเผ็ดอื่นๆ อย่าง ดีปลี พืชตระกูลมะแขว่น ก็มีการนำมาใช้ในอาหารกันอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่จีนไปถึงหมู่เกาะทางตอนใต้ของผืนแผ่นดินใหญ่ เครื่องจิ้มหลักในวงข้าวของคนไทดำในเวียดนาม ยังเป็นมะแขว่นตำละเอียดผสมเกลือ แสดงถึงร่องรอยวิธีกินที่สืบเนื่องมายาวนาน

นี่แหละครับคุยกันมานานก่อนที่จะปลูกพริกไว้ที่ในบ้านสร้างอาชีพสร้างรายได้ บางครั้งก็รู้ประวัติบ้าง จะได้รู้อรรถรส จึงขอแนะนำว่าปลูกพริกไว้เถอะไม่เสียหลาย ไม่ต้องไปจ่ายตลาด พริกวันนี้ราคาแพงมาก ขอแนะนำวิธีปลูกพริกขี้หนู ด้วยตัวเองที่บ้าน สามารถปลูกในกระถางหรือแปลงเพาะก็ได้ โดยหากปลูกจนต้นโตแข็งแรง ให้ผลผลิตได้แล้ว จะสามารถปลูกเก็บกินได้นานอีก 6 เดือนเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคนที่อยากปลูกเพื่อเก็บกินที่บ้าน ตลอดจนต่อยอด ปลูกขายเพื่อสร้างรายได้อีกด้วย อุปกรณ์และวัสดุ เตรียมเมล็ดพริกขี้หนู ดินร่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน ขี้แกลบ 1 ส่วน กระถางต้นไม้

หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือนำเมล็ดพริกขี้หนูห่อด้วยถุงผ้า แล้วนำไปแช่น้ำเปล่าผสมยาป้องกันรา เป็นเวลา 1 คืน จากนั้น นำเมล็ดพริกมาล้างผ่านน้ำไหลให้สะอาด แล้วเก็บในถุงผ้า วางไว้ในที่ร่มและชื้นอีก 1-2 วัน พอให้รากเริ่มงอก ผสมดินร่วน ปุ๋ยคอก และขี้แกลบ ใส่ลงในกระถางต้นไม้ เสร็จแล้วนำเมล็ดพริกขี้หนูใส่ลงไป กระถางละ 1 เมล็ด หมั่นรดน้ำเช้า-เย็น สม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง จนกว่าจะโตขึ้นเป็นต้นกล้า ขึ้น 3-4 ใบ หลังปลูก 10-15 วัน ให้ทำการเด็ดยอดออก แล้วใส่ปุ๋ยคอกลงในกระถางหรือจะเคมีสูตร 15-15-15 ปริมาณ 1 ช้อนแกงต่อกระถาง จะช่วยให้ต้นพริกขี้หนูแตกยอดออก ขยายกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่มได้มากยิ่งขึ้น รดน้ำทุกวัน แล้วใส่ปุ๋ยทุกๆ 15 วันต่อครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน

ต้นพริกขี้หนูก็จะออกผล พร้อมให้เก็บเกี่ยวได้แล้ว หรือจะปลูกตามวิถีบ้านๆ ไม่ต้องใส่ปุ๋ยอะไร พริกก็จะออกลูก หากชอบกินเผ็ด แล้วไม่อยากเสียเงิน ซื้อพริกขี้หนูมาทำอาหารบ่อยๆ แล้วละก็ ลองทำตาม วิธีปลูกพริกขี้หนู ดังที่ว่า ให้มีกระถาง จะปลูกบนคอนโดมิเนียมหรือในบ้านไม่มีพื้นที่กว้างก็รอดแล้วครับ รับรองว่า ปลูกง่าย โตไว ให้ผลผลิตดี พร้อมเก็บเกี่ยวมาทำอาหาร หรือปลูกขาย เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต คิดมุมใหม่ก็เป็นทางรอดของเกษตรยุคใหม่ได้ครับ