แวะนครไทย เมืองสองแคว จิบกาแฟ ชมสวนประภาพรรณ

ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หากใครมีเวลาว่าง อยากชวนมาเดินเล่นชมธรรมชาติ แวะถ่ายรูป สูดอากาศบริสุทธิ์กลางหุบเขา ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก พร้อมอุดหนุนเกษตรกรชาวสวนให้มีรายได้ พื้นที่แห่งนี้ มีวิวเขาที่สวยงาม และมีสภาพอากาศเหมือนกับอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และเขาค้อ เพราะอยู่ในระดับความสูงเดียวกัน

 

บ้านแยง อำเภอนครไทย

ปัจจุบันจังหวัดพิษณุโลกเป็นอีกแหล่งหนึ่งปลูกทุเรียนผลไม้คุณภาพในโซนภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเริ่มต้นการปลูกตั้งแต่เมื่อ 24 ปีก่อน และขยายพื้นที่ปลูกอย่างกว้างขวางในช่วง 10 ปีหลัง ครอบคลุม 9 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก โดยแหล่งปลูกสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอเนินมะปราง อำเภอนครไทย อำเภอวังทอง คิดเป็นร้อยละ 90 ของพื้นที่ปลูกทั้งจังหวัด ปริมาณผลผลิตทุเรียนเฉลี่ย 585 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอดังกล่าวอยู่ในโซนพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล ส่งผลให้ทุเรียนที่ปลูกในแหล่งนี้ มีรสชาติหวานอร่อยและกลิ่นหอมละมุน

ตำบลบ้านแยง เป็น 1 ใน 11 ตำบลของอำเภอนครไทย อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอ ซึ่งห่างจากอำเภอนครไทย 29 กิโลเมตร และห่างจากตัวจังหวัดพิษณุโลก 69 กิโลเมตร ตำบลบ้านแยงมีสภาพแวดล้อมและองค์ประกอบที่ดี เอื้อต่อการเพาะปลูกพืช เพราะอยู่ในโซนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 400-500 เมตร มีแหล่งดินอุดมสมบูรณ์ สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการทำการเกษตร เดิมทีตำบลบ้านแยงเป็นพื้นที่ปลูกยางพาราอันดับต้นๆ ของจังหวัดพิษณุโลก ต่อมาเกิดปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เกษตรกรจึงตัดโค่นต้นยางและหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจและไม้ผลนานาชนิด เช่น ทุเรียน สับปะรด เงาะ อะโวกาโด มังคุด แมคคาเดเมีย สะตอ ลิ้นจี่ น้อยหน่า มะยงชิด ฯลฯ

“ทุเรียนบ้านแยง” ถือเป็นผลไม้ที่มาแรงอย่างมากในระยะหลัง บ้านแยงมีพื้นที่ปลูกทุเรียนมากที่สุดในอำเภอนครไทย มีการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ไร่ ส่วนใหญ่นิยมปลูกทุเรียนหมอนทอง มีสวนทุเรียนที่ได้รับมาตรฐาน GAP มากกว่า 1,557 ไร่ มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ของทุกปี ทุเรียนบ้านแยงขายดี เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะทุเรียนบ้านแยงมีรสชาติหวานมัน เนื้อแห้ง เหนียว เนียนละเอียด นุ่มละมุน

ทุเรียนหลงบ้านแยง

นอกจากนี้ “สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียเป็นหนึ่งในผลไม้ทำเงินของบ้านแยง มีพื้นที่ปลูกสับปะรด 30,000 ไร่ สับปะรดบ้านแยงมีรสชาติอร่อยเพราะปลูกในพื้นที่เหมาะสม สูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร แถมมีโพแทสเซียมในดิน ทำให้สับปะรดบ้านแยงมีรสชาติหอมหวาน ไม่กัดลิ้นเมื่อกิน

เดิมผลผลิตส่วนใหญ่ในพื้นที่แห่งนี้ ส่งขายโรงงานสับปะรดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาหน่วยงานภาครัฐเข้ามาส่งเสริมการแปรรูปสับปะรดในรูปแบบน้ำสกัดเย็น สับปะรดเคี้ยวหนึบ น้ำสับปะรดพร้อมดื่ม ผงหมักเนื้อนุ่ม ชาสับปะรด ชีสพายสับปะรด และมีการเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวชุมชน ช่วยเพิ่มรายได้และเพิ่มสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนท้องถิ่น

ปัจจุบันกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ส่งเสริมให้เกษตรกรบ้านแยงรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็งและขยายช่องทางการตลาดในโครงการ “หมู่บ้านทำมาค้าขาย” ช่วยให้ชุมชนรู้จักทำมาค้าขาย ดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็ง ยั่งยืน และแข่งขันทางการค้าได้ รวมทั้งยกระดับไปสู่การเป็นผู้ประกอบการต่อไป

ที่ผ่านมา ชุมชนแปรรูปผลการเกษตร ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย ยังได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อพัฒนาห่วงโซ่มูลค่า (Value Chain) ของสับปะรด รวมทั้งออกแบบเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในชุมชน

นอกจากนี้ อำเภอนครไทยและเทศบาลตำบลบ้านแยง ร่วมกันจัดงาน “วีรชนคนนครบางยาง เทศกาลทุเรียนและผลไม้นานาพรรณ” ในช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นประจำทุกปี บริเวณประตูเมืองนครบางยาง สามแยกบ้านแยง (10 วัน 10 คืน) เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักความงามของท้องถิ่น ผลักดันให้ตำบลบ้านแยงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พร้อมนำเสนอผลผลิตทางเกษตร และส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวตามฤดูกาล

ชะนีไข่

ตลอดจนเผยแพร่ชื่อเสียงของทุเรียนของตำบลบ้านแยงที่เรียกกันติดปากว่า “ทุเรียนบ้านแยง” ให้เป็นรู้จักกันอย่างแพร่หลาย คนที่มีโอกาสชิมทุเรียนบ้านแยง ต่างประทับใจเพราะทุเรียนบ้านแยงมีเนื้อครีมเยอะ เส้นใยน้อย รสหวานนุ่มละมุนลิ้น เม็ดเล็กลีบ กลิ่นไม่แรง หอมอ่อนๆ คล้ายๆ กลิ่นนมสด ทำให้หลายคนกินแล้วหยุดไม่ได้ กินทุเรียนแบบฟินๆ เต็มอิ่มแบบจุกๆ กันถ้วนหน้า

สวนประภาพรรณ

“ครบเครื่อง เรื่องทุเรียน”

เอาใจสายเที่ยวเชิงเกษตรกันหน่อย จะพาไปลุยสวนทุเรียน กินทุเรียนแบบฟินๆ กันที่สวนประภาพรรณ หมู่บ้านเกษตรสุข หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านแยง เป็นหนึ่งในต้นแบบสวนทุเรียนคุณภาพ GAP และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีชื่อเสียงของอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ปลูกพืชที่หลากหลายอย่างยั่งยืน (ทุเรียน เงาะ สะตอ) ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมถ่ายทอดความรู้เรื่องการทำสวนผลไม้ให้กับเกษตรกรและนักท่องเที่ยวที่สนใจ

สวนประภาพรรณ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีชื่อเสียงด้านจัดสวนสวยเป็นระเบียบ ดินดี น้ำดี ปลูกทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งหมอนทอง เนื้อเนียนครีมหวานมัน ชะนีไข่เนื้อจำปา ทุเรียนหลงบ้านแยง หลินลับแล รสชาติไม่แพ้ต้นตำรับ ใครสั่งซื้อทุเรียนสวนประภาพรรณ ไม่เคยผิดหวังเลย เพราะทุเรียนสวนนี้ เปลือกไม่หนา เนื้อดีงามมาก ไม่ป้ายน้ำยาเร่งสุก ตัดทุเรียนพร้อมกินสุกธรรมชาติ 95% รสชาติหวานมัน เม็ดลีบเนื้อเยอะอร่อยมาก นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยี่ยมชมสวนแห่งนี้จะได้สัมผัสกับบรรยากาศสวนทุเรียนที่สวยที่สุด บรรยากาศร้านกาแฟท่ามกลางสวน อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี สามารถปูเสื่อกินใต้ต้นทุเรียน ได้บรรยากาศสุดๆ นอกจากนี้ ทางสวนยังมีรายได้เสริมจากการเปิดบริการเช่าสถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์หรือจัดงานสัมมนา บรรยากาศเป็นกันเอง ราคาไม่แพง และให้บริการพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ พร้อมให้เช่าอุปกรณ์สำหรับผู้สนใจ

สวนสวย ไม่มีหญ้ารก เดินสะดวก

หลังหมดฤดูทุเรียน ผู้สนใจสามารถมาถ่ายรูป เดินชมสวน พักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติดีๆ ที่สวนประภาพรรณกันได้ โดยไม่เสียค่าเข้าสวน ถึงแม้ทุเรียนบนต้นจะหมด แต่ทางสวนยังมีเนื้อทุเรียนแช่แข็งจำหน่ายทั้งปี และมีเครื่องดื่มจำหน่ายตลอด ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ประตูรั้วเปิด เข้ามาได้ตลอด สนใจสามารถโทร. สอบถามเส้นทาง ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 099-239-2299 หรือเข้าไปที่ เฟซบุ๊ก : สวนประภาพรรณ จ.พิษณุโลก

เคล็ดลับปลูกดูแลทุเรียน

คุณเนาว์-คุณเนาวรัตน์ มะลิวรรณ วัย 60 ปี เจ้าของสวนประภาพรรณ กล่าวว่า เดิมพื้นที่แห่งนี้ เคยปลูกน้อยหน่า สับปะรด และพริกมาก่อน ต่อมาได้ชิมทุเรียนที่ปลูกในท้องถิ่นแล้วประทับใจในรสชาติความอร่อย เมื่อปี 2554 จึงตัดสินใจโค่นสวนทิ้งและหันมาปลูกทุเรียนหมอนทองและทุเรียนพันธุ์ชะนีไข่ ทุเรียนหลงบ้านแยง หลินลับแล บนเนื้อที่ 40 ไร่ พร้อมปลูกยางพารา และปลูกเงาะบ้านแย ที่มีรสชาติหวาน กรอบ เนื้อล่อน ที่สุดของความอร่อย

ต้นเงาะที่ปลูกในสวนประภาพรรณ
คุณเนาวรัตน์ มะลิวรรณ เจ้าของสวนประภาพรรณ

สำหรับมือใหม่ที่สนใจอยากปลูกทุเรียน คุณเนาวรัตน์ให้คำแนะนำว่า พื้นที่ 1 ไร่ควรปลูกทุเรียนไม่เกิน 20 ต้น โดยปลูกในระยะห่าง 9×9 เมตร หรือระยะ 10×7.50 เมตร หากจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ควรวางแผนผังการปลูกทุเรียนให้เป็นแถวเป็นแนว ต้องได้ฉากทุกแปลง จะทำให้สวนสวย เป็นระเบียบ น่าเดินชมสวน

การดูแลจัดการผลผลิตให้ได้ทุเรียนคุณภาพดีตามที่ตลาดต้องการ หลังหมดฤดูการเก็บเกี่ยวในเดือนกรกฎาคม ควรใส่ใจบำรุงให้ต้นทุเรียนฟื้นตัวสมบูรณ์ ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม เริ่มจากตัดแต่งยอด ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 8-3-3, 6-3-3, 12-3-3 และปุ๋ยอินทรีย์ ต้นละ 3 กิโลกรัม ทุกๆ 15 วัน บำรุงต้นบำรุงใบให้สมบูรณ์ในการสะสมอาหาร เพื่อให้ต้นทุเรียนแตกยอดใหม่ แตกใบชุดใหม่ และขยายกิ่งก้านออกมา โดยทั่วไป ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ดอกทุเรียนจะผลิบานออกมา ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมก็เริ่มจำหน่ายทุเรียนผลสุกแก่ผู้สนใจ โดยหมอนทองจำหน่ายในราคา 250 บาทต่อกิโลกรัม ชะนีไข่ 170 บาทต่อกิโลกรัม หลงหลินลับแล 250 บาทต่อกิโลกรัม

สวนประภาพรรณ เหมาะสำหรับนั่งปิกนิกในสวน
มาพักผ่อน จิบกาแฟ กินสเต๊ก พร้อมชมสวนทุเรียน

สวนประภาพรรณ มีเคล็ดลับการขายคือ ตัดทุเรียนพร้อมกิน ทุเรียนสุกแก่จัด สุกในปลิง บ่มสุกธรรมชาติ ไม่ป้ายยาเร่งสุก ทำให้ผู้บริโภคได้กินทุเรียนรสอร่อย ถูกใจผู้บริโภค จึงสามารถขายผลผลิตในราคาที่ทางสวนกำหนดเองได้ ไม่ว่าราคาทุเรียนในตลาดจะขึ้นลงอย่างไร และมีกลุ่มลูกค้าเจ้าประจำที่จะมาสั่งซื้อทุเรียนอย่างต่อเนื่องทุกปี