ตามไปดู การผลิตมะม่วงนอกฤดูเพื่อการส่งออก ของกลุ่มวิสาหกิจบ้านคลองมิตรสัมพันธ์ สระแก้ว

ในอดีต เกษตรกรในพื้นที่บ้านคลองมิตรสัมพันธ์ หมู่ที่ 15 ตำบลหนองหว้า อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ประกอบอาชีพเพาะปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง ฝ้าย และมันสำปะหลัง เป็นรายได้หลักเลี้ยงดูครอบครัว แต่เนื่องจากเจอปัญหาต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง จากปุ๋ยเคมี สารเคมี และเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง น้ำท่วม และเจอปัญหาโรคแมลงศัตรูพืชระบาด ทำให้มีผลผลิตต่อไร่ต่ำและปัญหาราคาผลผลิตไม่แน่นอน ขายผลผลิตไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

รวมกลุ่มกันปลูกมะม่วง

ในปี พ.ศ. 2539 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีโครงการปรับโครงสร้างระบบการผลิตทางการเกษตร (คปร.) ชาวบ้านจึงปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด จากการประกอบอาชีพพืชไร่เป็นพืชสวน (มะม่วง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน) โดยการแลกเปลี่ยนแนวคิดในทุกเวทีของชุมชน สำหรับเกษตรกรที่หันมาปลูกมะม่วง เดิมทีพวกเขาต่างคนต่างปลูก ต่างคนต่างขาย จึงเกิดแนวคิดรวมตัวกัน ในชื่อ “กลุ่มผู้ผลิตมะม่วงนอกฤดูบ้านคลองมิตรสัมพันธ์” เพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการขายผลผลิตกับพ่อค้า แต่การรวมกลุ่มกันยังไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร

ต่อมาแกนนำกลุ่ม ภายใต้การนำของ นายสมพงศ์ เกื้อกูล นายเข็มชาติ ศรีสุวอ นายธนกฤต รานอก และ ผู้ใหญ่เทพ มุ่งแก้วกลาง ได้ยื่นขอจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ชื่อว่า “วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงนอกฤดูบ้านคลองมิตรสัมพันธ์” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและจัดการพื้นที่ปลูกมะม่วง 657 ไร่ ให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน GAP เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยการปรับปรุงคุณภาพ รวมทั้งพัฒนากลุ่มผู้ผลิตมะม่วงให้มีความเข้มแข็ง

ผู้ใหญ่เทพ มุ่งแก้วกลาง

ปัจจุบัน วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงนอกฤดูบ้านคลองมิตรสัมพันธ์ สามารถผลิตมะม่วงดีมีคุณภาพ และจำหน่ายผลผลิตได้หมด มีทุนสำรองหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ รวมทั้งมีระบบการตลาดที่แน่นอน มีผู้สั่งซื้อที่ชัดเจน กลุ่มวิสาหกิจฯ แห่งนี้กลายเป็นแหล่งรวบรวมผลผลิตมะม่วงคุณภาพประจำตำบลหนองหว้า ที่ได้รับมาตรฐาน GAP ส่งออกตลาดญี่ปุ่น เวียดนาม และมาเลเซีย พร้อมกับส่งขายในประเทศ รวมทั้งเป็นจุดเรียนรู้และดูงานร่วมกันของเกษตรกรที่สนใจอาชีพปลูกมะม่วง

 

สถานการณ์ผลิตในปัจจุบัน

ผู้ใหญ่เทพ มุ่งแก้วกลาง ประธานกลุ่มวิสาหกิจบ้านคลองมิตรสัมพันธ์ อาศัยอยู่ บ้านเลขที่ 143 หมู่ที่ 15 บ้านคลองมิตรสัมพันธ์ ตำบลหนองหว้า อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว โทรศัพท์ (087) 811-5885, (090) 245-2968

ผู้ใหญ่เทพ กล่าวว่า ปัจจุบันสมาชิกกลุ่มฯ ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ เบอร์ 4 มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงฟ้าลั่น เป็นหลัก แต่ปีนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศแปรปรวนทำให้ผลผลิตลดลง และมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น แถมเผชิญปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาวะขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ปลูก “แก้วขมิ้น” แซมในสวนมะม่วง

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผู้ใหญ่เทพ เริ่มหันมาปลูกมะม่วงแก้วขมิ้น หลังจากทราบข่าวว่า มะม่วงพันธุ์นี้ให้ผลดกมาก เขาจึงตัดสินใจปลูกมะม่วงแก้วขมิ้นเป็นไม้ผลทางเลือกตัวใหม่ของครอบครัว แต่ระยะนั้น มะม่วงแก้วขมิ้น ยังไม่มีกิ่งพันธุ์ออกมาจำหน่ายเหมือนกับมะม่วงพันธุ์อื่นๆ เพราะเป็นสายพันธุ์มะม่วงที่ประเทศกัมพูชาไม่อนุญาตให้นำต้นพันธุ์ออกมาจำหน่ายนอกประเทศ

ช่วงดังกล่าวมีเอกชนรายหนึ่งในตำบลกลางดง ไปซื้อเมล็ดมะม่วงแก้วขมิ้นจากโรงงานคว้านมะม่วง และนำเมล็ดมะม่วงมาเพาะขยายพันธุ์ให้แก่เกษตรกรที่สนใจ ผู้ใหญ่เทพตัดสินใจซื้อพันธุ์มะม่วงแก้วขมิ้นมาปลูกแซมในสวนมะม่วงเดิม

โชว์ความดกของมะม่วงแก้วขมิ้น

การปลูกดูแล

สวนแห่งนี้ใช้หลักการปลูกและดูแลมะม่วงแก้วขมิ้นเหมือนกับมะม่วงพันธุ์ไทยโดยทั่วไป โดยนำต้นพันธุ์มาปลูกสลับระหว่างต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ กับมะม่วงฟ้าลั่น ปลูกในระยะห่างประมาณ 2 วา ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจ เพราะต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเจริญเติบโตดีไม่แพ้มะม่วงพันธุ์ไทย

ผู้ใหญ่เทพ บอกว่า โดยธรรมชาติแล้ว มะม่วงเป็นพืชที่หากินอยู่บนหน้าดิน ไม่จำเป็นต้องขุดหลุมปลูกให้ลึกมากนัก แค่ใช้จอบขุดหลุมปลูกเท่ากับความสูงของถุงดำก็เพียงพอแล้ว เพราะต้นมะม่วงหากินอยู่บนหน้าดินเป็นหลัก สมัยก่อน ผู้ใหญ่เทพเคยทดลองขุดปลูกมะม่วง เหมือนกับปลูกข้าวโพด ปรากฏว่าต้นมะม่วงโตไวเช่นกัน

ระยะ 1-3 ปีแรกของการปลูก ต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเติบโตดีไม่แพ้มะม่วงพันธุ์ไทย ผู้ใหญ่เทพบอกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ดูแลแปลงปลูกมะม่วงด้วย สำหรับต้นมะม่วงแก้วขมิ้นที่ปลูกในปีแรก จำเป็นต้องดูแลให้ปุ๋ยให้น้ำอย่างเหมาะสม หลังหมดฤดูฝนประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ต้องให้น้ำเพื่อป้องกันต้นมะม่วงขาดน้ำ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้ต้นมะม่วงตายได้

เมื่อถามถึงการใส่ปุ๋ยบำรุง ก็ได้รับคำตอบว่า ใช้สูตรปุ๋ยบำรุงต้นเช่นเดียวกับมะม่วงพันธุ์ไทย ผู้ใหญ่เทพให้ข้อสังเกตว่า มะม่วงแก้วขมิ้นชอบปุ๋ยคอกมากกว่าปุ๋ยเคมี โดยเล่าให้ฟังว่า เขาทดลองขุดดินเลนจากสระมาใส่ในแปลงปลูกมะม่วงแก้วขมิ้น พบว่า มะม่วงแก้วขมิ้นเติบโตได้ดี แสดงว่ามะม่วงพันธุ์นี้ชอบดินที่มีปุ๋ยอินทรีย์เยอะ

แปลงปลูกมะม่วงแก้วขมิ้น

มะม่วงแก้วขมิ้นนอกฤดูให้ผลดกมาก

ทุกวันนี้ต้นมะม่วงแก้วขมิ้นของผู้ใหญ่เทพมีอายุครบ 4 ปีแล้ว มีลำต้นขนาดท่อนขา พร้อมให้ผลผลิตอย่างเต็มที่ ผู้ใหญ่เทพวางแผนผลิตมะม่วงแก้วขมิ้นนอกฤดู ปีละ 2 รุ่น เช่นเดียวกับมะม่วงพันธุ์ไทย โดยตั้งใจให้มีผลผลิตทยอยเข้าตลาดในช่วงเดือนกันยายนและปลายเดือนตุลาคม

หลังจาก ต้นมะม่วงแก้วขมิ้น ผลิดอกออกผลแล้ว ในระยะแรก ผลมะม่วงจะเติบโตช้ามากเมื่อเทียบกับมะม่วงพันธุ์ไทจนใกล้อายุเก็บเกี่ยวหรือแก่ จึงค่อยขยายผลใหญ่ขึ้นตามลำดับ เมื่อถามถึงความดกของมะม่วงแก้วขมิ้นเปรียบเทียบกับมะม่วงน้ำดอกไม้ ผู้ใหญ่เทพ บอกว่า “ผลผลิตแตกต่างมาก เหมือน ‘ฟ้ากับดิน’ กันเลยทีเดียว”

“ผมวางแผนปลูกมะม่วงแก้วขมิ้นนอกฤดูเช่นเดียวกับมะม่วงพันธุ์ไทย พบว่า แก้วขมิ้นให้ผลดกมากกว่ามะม่วงน้ำดอกไม้เกือบครึ่งต่อครึ่งทีเดียว แก้วขมิ้นให้ผลดกมากๆ จนกิ่งหัก เพราะแบกรับน้ำหนักไม่ไหว โดยทั่วไปมะม่วงสายพันธุ์อื่นๆ เมื่อติดผลดก มักจะสลัดผลทิ้ง เก็บผลเอาไว้แค่เลี้ยงไหว แต่ต้นมะม่วงแก้วขมิ้น หลังจากติดดอกออกผลเป็นจำนวนมากแล้ว จะไม่สลัดผลทิ้งเหมือนกับมะม่วงพันธุ์ไทย เหตุผลเพราะว่ามะม่วงแก้วขมิ้นมีขั้วที่เหนียวมาก และทนแล้งได้ดี ช่วงที่มีผลผลิต แม้ไม่ให้น้ำ ต้นมะม่วงยังไม่สลัดลูกทิ้งเลย นับเป็นจุดเด่นสำคัญของมะม่วงแก้วขมิ้น” ผู้ใหญ่เทพ กล่าว

มะม่วงแก้วขมิ้นผิวเหลืองสวยสะดุดตา

หลังจากหมดฤดูมะม่วงในเดือนเมษายน ผู้ใหญ่เทพจะตัดแต่งกิ่งให้โปร่งก่อนจึงให้ปุ๋ยทางใบเพื่อดึงใบอ่อน โดยให้ต้นมะม่วงเร่งผลิตใบอ่อนให้พร้อมกันทั้งแปลง เมื่อใบชุดใหม่เข้าสู่ระยะใบเพสลาดก็เตรียมพร้อมราดสารแพคโคลบิวทราโซล 10% WP เพื่อชักนำการออกดอกในมะม่วง สำหรับมะม่วง ลำต้นสูงไม่เกิน 2.5 เมตร อายุ 5-7 ปี ราดสารในอัตรา 10 กรัม ต่อเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 1 เมตร

อย่างไรก็ตาม การกำหนดอัตราการราดสารจะพิจารณาจากอายุต้น ความหนาแน่นของใบและความสูงของต้นเป็นหลัก ยิ่งลำต้นสูงมาก ยิ่งต้องเพิ่มปริมาณการใช้สารเพิ่มขึ้นไปอีก เพื่อส่งเสริมการสร้างตาดอก ควรบำรุงตาดอกก่อนเปิดตาดอก โดยให้ปุ๋ยทางดิน หลังราดสารประมาณ 7 วัน ต้นมะม่วงจะสะสมอาหาร ชักนำสร้างตาดอกขึ้นภายใน 45-60 วัน

ช่วงที่ต้นมะม่วงแก้วขมิ้นติดดอกออกผล พบว่า บางช่อติดผล 10 กว่าลูก ก่อนห่อผล ควรตัดแต่งผล โดยปลิดผลที่ไม่สมบูรณ์ออกสัก 5 ผล เพื่อให้ลูกที่เหลือมีขนาดผลโตตามที่ตลาดต้องการ ผู้ใหญ่เทพใช้วิธีนับวันเก็บเกี่ยว ประมาณ 120 วัน หลังดึงดอก เมื่อถึงกำหนด จะสุ่มเปิดถุงห่อผลมะม่วงเป็นระยะ มะม่วงที่ห่อ ผลดิบจะมีผิวอมเหลืองหน่อยๆ  ก็เก็บออกขายได้เลย

ผู้ใหญ่เทพ ทดลองเก็บแก้วขมิ้นผลสุกแก่จัด 90% ขึ้นไป มาชิม ก็รู้สึกประทับใจ เพราะแก้วขมิ้นผลสุกมีรสชาติหวานหอมอร่อยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบรสชาติกับมะม่วงแก้วตระกูลเดียวกัน ผู้ใหญ่เทพ บอกว่า แก้วขมิ้นผลสุก มีรสหวานกว่ามะม่วงแก้วของไทย และสีของเนื้อแก้วขมิ้นผลสุก สวยกว่ามะม่วงน้ำดอกไม้เสียอีก เชื่อว่าหากใครได้มีโอกาสชิมจะต้องติดใจในรสชาติความอร่อยของมะม่วงแก้วขมิ้นผลสุกอย่างแน่นอน

ผู้ใหญ่เทพ มั่นใจว่า ในวันนี้ เขาตัดสินใจไม่ผิดที่ปลูกมะม่วงแก้วขมิ้นเป็นไม้ผลทางเลือกตัวใหม่ในสวนแห่งนี้ เพราะมะม่วงแก้วขมิ้น เป็นไม้ผลที่มีโอกาสทางการตลาดสูง สามารถจำหน่ายได้ทั้งผลดิบและผลสุก แถมได้ผลดกจำนวนมาก หากสามารถตั้งราคาขายได้เท่ากับมะม่วงพันธุ์ไทย เขาก็พอใจแล้ว หากใครมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้ใหญ่เทพได้ตามที่อยู่และเบอร์โทร.ข้างต้น ผู้ใหญ่เทพ มุ่งแก้วกลาง ยินดีแบ่งปันข้อมูลให้กับเกษตรกรผู้สนใจทุกราย