ปลูกพลับแซมสวนชา นำผลผลิตขายเอง รายได้ดี ที่เชียงราย

พลับ ผลไม้เมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดจากทางภาคเหนือของจีน ต่อมาได้กระจายพันธุ์ไปยังญี่ปุ่น ถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า มีสรรพคุณเป็นยา โดยธรรมชาติพลับจะเจริญเติบโตในเฉพาะพื้นที่ที่มีอากาศเย็น ในปัจจุบันทางภาคเหนือของประเทศไทย เชียงใหม่ เชียงราย มีการนำพลับมาปลูก สร้างรายได้เป็นจำนวนไม่น้อย

ลักษณะของพลับ เป็นไม้ผลยืนต้น ขนาดใหญ่ ใบรูปหัวใจสีเขียว ดอกสีเหลือง ทรงดอกคล้ายระฆัง ผลมีรูปทรงได้หลายแบบ ทั้งทรงกรวย ทรงกลม ทรงกลมแบน ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง เนื้อสีส้ม เนื้อแข็ง ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาล สามารถจำแนกประเภทได้ตามรสชาติของผล แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ พลับหวาน และพลับฝาด

พลับหวาน…ผลสุกสีส้มอมเหลือง รสหวาน รับประทานสดได้

สำหรับ พลับฝาด…ผลสุกเนื้อสีส้มอมแดง เนื้อนิ่ม รสฝาด ต้องนำมาผ่านกระบวนการบ่มลดความฝาด จึงจะรับประทานได้

คุณดวงแก้ว เบียเชะ (แก้ว) อาศัยอยู่หมู่บ้านห้วยน้ำขุ่น ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เกษตรกรมือใหม่ วัย 23 ปี เล่าว่า ตนเองเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และได้มีโอกาสเดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน โดยผ่านกรมแรงงาน เป็นระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นได้ลาออกเพื่อกลับบ้านมาสานต่อสวนผสมผสานของครอบครัว

ทางครอบครัวของคุณแก้วทำสวนแบบผสมผสาน ปลูกผลไม้หลายชนิด เช่น บ๊วย เชอร์รี่ดอย ลูกไหน ลูกพลับ ท้อ อะโวกาโด และชาอัสสัม ตลอดทั้งปีก็จะเก็บผลไม้ขายตามฤดูกาล แต่จะมีชาอัสสัมที่เป็นรายได้หลัก สามารถเก็บขายได้ตลอดทั้งปี

ปลูกพลับ แซมในไร่ชา 1,000 ต้น ดูแลง่าย ให้ผลตอบแทนดี

คุณแก้ว เล่าว่า ต้นพลับที่มีอยู่ คุณแก้วไม่ได้เป็นคนปลูกเอง ทางพ่อแม่เป็นคนปลูกไว้ เพราะพลับถือเป็นผลไม้ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเจริญเติบโตนาน 7-9 ปี กว่าจะเก็บผลผลิตได้ แต่ก็พอมีความรู้เรื่องการปลูกบ้าง คุณแก้วจะเข้ามาช่วยในด้านของการตลาดมากกว่า เพราะที่ผ่านมาจะโดนพ่อค้าคนกลางกดราคาเหลือเพียง กิโลกรัมละ 7-8 บาท คุณแก้วจึงตัดสินใจเข้ามาช่วยในการหาตลาด นำผลผลิตออกมาขายเองตามริมถนน ขายให้กับนักท่องเที่ยว อีกส่วนขายทางเฟซบุ๊กทั้งผลสุกและกิ่งพันธุ์ ถือว่าสร้างรายได้ดีกว่าเดิมมากพอสมควร

วิธีการปลูก

พลับที่ไร่คุณแก้วปลูกเป็นพลับฝาด เหตุที่ปลูกพันธุ์ฝาด เพราะเป็นอะไรที่ปลูกง่าย โตเร็ว ให้ผลผลิตดีกว่าพลับหวาน พลับหวาน จะดูแลยาก เมื่อต้นโตผลผลิตไม่ติดก็มี

วิธีการปลูก…เริ่มจากนำเมล็ดพลับป่ามาปลูกแล้วเสียบพลับฝาด พันธุ์ พี 2 (P2) เข้าไป

หลุม…ขุดลึกแค่พอให้ท่วมถุงดำ ระยะห่างระหว่างต้นกว้างพอสมควร เพราะต้นค่อนข้างใหญ่ ควรปลูกในฤดูฝน เพราะจะได้อาศัยน้ำฝนช่วยรด ไม่ต้องรดเอง หลังปลูกนาน 7-9 ปี จึงเก็บผลผลิตได้ ซึ่งเก็บปีละครั้ง

การดูแล ไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก แทบไม่ต้องดูแลอะไร ให้ธรรมชาติดูแลมากกว่า ทั้งปีจะตัดแค่หญ้าอย่างเดียว

ปุ๋ย น้ำ…ไม่ต้อง ให้ฝนดูแล

โรคแมลง…มีบ้าง ผลผลิตออกมาแล้วมีแมลงเจาะ ไม่ได้มีวิธีป้องกัน แต่เสียหายน้อย ฤดูเก็บเกี่ยว ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน พลับ 1 ต้น ให้ผลผลิตดก 150-200 กิโลกรัม เก็บได้เรื่อยๆ ลูกไหนสุกก็เก็บก่อน

ขั้นตอนการเก็บเกี่ยว

เลือกเก็บลูกส้มๆ เก็บมาแล้วให้ตัดขั้วทิ้ง เพื่อที่จะไม่ให้ไปทิ่มแทงลูกอื่น หลังจากนั้น นำไปบ่ม 5-7 วัน ก็รับประทานได้

วิธีการบ่ม…มี 3 วิธี

  1. 1. การบรรจุสุญญากาศ
  2. 2. การแช่ในน้ำปูนใส
  3. 3. การบ่มด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หากเป็นการบรรจุสุญญากาศ และการบ่มด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ใส่ในถุงพลาสติกแล้วบ่ม

ถูกกดราคา พลิกวิกฤต หาตลาดเอง ขายเอง เห็นทางสดใส

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า ก่อนที่คุณแก้วจะกลับมาช่วยที่บ้านทำงาน พ่อแม่คุณแก้วถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา เหลือเพียงกิโลกรัมละ 7-8 บาท เป็นแบบนี้มานาน เมื่อคุณแก้วกลับมาช่วยได้มองเห็นปัญหา ประกอบกับที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ อาศัยความขยัน และมีความรู้ทางสื่อออนไลน์ จึงเริ่มหันมาทำตลาดออนไลน์ และนำผลผลิตออกมาขายริมถนนเชียงราย ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด จำหน่ายผลสดได้เฉลี่ย วันละ 50-100 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 25 บาท และยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปที่คุณแก้วทำเอง คือ พลับทอดกรอบ อันนี้ก็ขายดี นอกจากนำมาขายเองแล้ว ยังมีขายผลสด และกิ่งพันธุ์ ผ่านเฟซบุ๊ก กระแสตอบรับดีมาก ผลผลิต รวมทั้งกิ่งพันธุ์ไม่พอส่ง คิดเป็นรายได้แล้วคุณแก้วบอกว่าตกสัปดาห์ละ 7,000-8,000 บาท แต่ขายได้เพียงระยะเวลาสั้น เพียง 2-3 เดือน ถือว่าเป็นผลพลอยได้ เพราะเรามีรายได้หลักจากการปลูกชาอยู่แล้ว ทุกวันนี้ถือว่ามาเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว งานมีให้ทำทุกวัน เสร็จจากอย่างหนึ่ง ก็มีอีกอย่างให้ทำ ถือว่าพ่อแม่สร้างรากฐานมาไว้ให้ดีด้วย

มุมมองการทำเกษตรของเด็กรุ่นใหม่

คุณแก้ว เกษตรกรสาว วัยเพียง 23 ปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นเกษตรกรที่อายุน้อยมากๆ แต่มีความตั้งใจสูง ได้เห็นถึงปัญหาของครอบครัวจึงคิดที่จะช่วย ด้วยวิธีการของคนรุ่นใหม่ ซึ่งคุณแก้วบอกว่า การเกษตรในยุคนี้คือ เกษตรกรทุกคนต้องมีความทันสมัย รู้จักการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะถ้ารอแต่พ่อค้าคนกลางอย่างเดียวอยู่ยากแน่ๆ

“อย่างแก้วเข้ามาทำ แก้วยังอ่อนประสบการณ์ในเรื่องของการปลูกพืช แก้วก็ต้องศึกษาต่อไป ค่อยๆ เรียนรู้ไป สำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่อยากทำ ก็ขอให้ตั้งใจ การทำเกษตรสามารถสอนอะไรให้เราได้หลายอย่าง ทั้งความอดทน ประสบการณ์ และรู้จักคนมากขึ้น และถ้ารู้จักการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ก็จะสามารถสร้างรายได้ได้มากกว่าเดิมแน่นอน” คุณแก้ว กล่าวทิ้งท้าย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ซื้อกิ่งพันธุ์ และผลผลิตพลับ โทรศัพท์ (063) 140-4491