ผู้เขียน | อัจฉรา สุขสมบูรณ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ว่าที่ร้อยตรี สมสวย ปัญญาสิทธิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นพลังงานชีวมวล ระหว่าง ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร/เครือข่าย กับบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) ณ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ (เมื่อ 30 เมษายน 2562) ว่าตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายสำคัญที่จะระดมพลังภาคีทุกภาคส่วนในการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาการเกษตรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เกิดคุณค่า และมูลค่าในการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรที่เติบโต แข่งขันได้บนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีแนวนโยบายในการนำเศษวัสดุทางการเกษตรมาสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มที่เกิดประโยชน์แก่เกษตรกร ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อลดปัญหามลพิษหมอกควันจากการเผาในพื้นที่ทางการเกษตรหลังการเก็บเกี่ยว โดยได้กำหนดแนวทางผ่านกลไกประชารัฐเพื่อการมีส่วนร่วมระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
ในการนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.)/ศูนย์เครือข่าย และภาคเอกชน ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และจำหน่ายการผลิตเป็นพลังงานชีวมวลแก่ผู้รับซื้อ จึงได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นพลังงานชีวมวลขึ้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรโดยเกษตรจังหวัด และเกษตรอำเภอ จะเป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำ สื่อสารประชาสัมพันธ์ และให้การช่วยเหลือในการประสานงานเชิงพื้นที่ระหว่างภาคเอกชนที่ร่วมโครงการ กับ ศพก. และเกษตรกร โดยพิจารณาศักยภาพความพร้อม ของ ศพก. ศดปช. และเครือข่ายว่ามีความพร้อมและความต้องการขายเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่ไม่สามารถย่อยสลายหรือนำมาทำเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ และปุ๋ยอินทรีย์ได้ และมีคุณสมบัติที่สามารถนำมาเป็นปัจจัยการผลิตพลังงานชีวมวล
ทั้งนี้ ในส่วนของภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการจะดำเนินกิจกรรมร่วมกับเกษตรกรในการสร้างคุณค่าและมูลค่าของเศษวัสดุทางการเกษตร ให้ความรู้ความเข้าใจกับชุมชนถึงประโยชน์จากเถ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวล ส่งเสริมอาชีพให้กับชุมชน และเกษตรกรในการนำไปต่อยอดสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งการนำเถ้าชีวมวลไปพัฒนาเป็นปุ๋ยอินทรีย์และการปรับปรุงดิน ตลอดจนกำหนดพื้นที่ในการรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตรมาสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มที่เกิดประโยชน์แก่เกษตรกร
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรนี้ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการรวมพลังสร้างมูลค่าจากไร่นาสู่สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ คือ 1. การอบรมถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร เพื่อสร้างเครือข่ายการทำเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม 2. การจัดทำฐานเรียนรู้ปุ๋ยอินทรีย์ 3. การจัดการเศษวัสดุการเกษตร และ 4. การเชื่อมโยงตลาดในการจัดซื้อเศษวัสดุการเกษตร โดยดำเนินการ ณ ศพก. 882 แห่ง และ ศดปช. หรือศูนย์เครือข่าย 882 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรคาดหวังว่าการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นพลังงานชีวมวล ระหว่าง ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) กับบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) ครั้งนี้ จะเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือในการดำเนินการร่วมกันเพื่อสร้างมูลค่าจากวัสดุการเกษตรของเกษตรกร ลดการเผาวัสดุการเกษตร เสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกร สร้างสมดุลระบบนิเวศแก่ชุมชนต่อไป