‘ขิง’ ประโยชน์และโทษที่คาดไม่ถึง

ประโยชน์ของขิงมีมากมาย แต่ก็มีข้อที่ควรระวังเช่นกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะนำไปใช้อย่างไร

แม้ว่า ขิง จะเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำอาหารและมีสรรพคุณในการรักษาโรค แม้ว่าขิงจะมีกลิ่นฉุนและมีรสชาติเผ็ดร้อน เลยทำให้ไม่ถูกปากหลายคนนั้น แต่ขิงก็เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำอาหารและมีสรรพคุณรักษาโรค เรามาดูกันดีกว่าสมุนไพรดีๆ อย่างขิงนั้นมีประโยชน์และโทษอะไร ที่เราคาดไม่ถึงบ้าง

ประโยชน์ของขิง
ลดอาการท้องอืด

หากคุณรู้สึกท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อย ให้จิบชาน้ำขิง หรือรับประทานขิงสดจะทำให้คุณรู้ดีขึ้น หรือถ้าหากคุณเกิดอาการท้องอืดจากการรับประทานถั่วละก็ คราวหน้าลองฝานขิงบางๆ ลงไปในอาหารที่มีถั่ว นั่นก็จะช่วยลดอาการท้องอืดได้เช่นกันค่ะ เพราะขิงนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม และกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้อาการท้องอืดบรรเทาลงได้

ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน

จากการศึกษาพบว่า การรับประทานขิงตอนที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดจากอาการไมเกรนลดลงได้ เพราะขิงจะไปช่วยสกัดฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาอื่น แสดงให้เห็นอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าผู้ที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีอาการลดลงเมื่อบริโภคขิงผงเป็นประจำทุกวัน

ประโยชน์ และโทษที่คาดไม่ถึง
ช่วยป้องกันมะเร็ง

ขิง มีคุณสมบัติในการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีการศึกษาพบว่า ขิง ช่วยทำให้เซลล์มะเร็งภายในรังไข่ตาย เพราะในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันมะเร็งได้ นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีขิงเป็นส่วนประกอบยังช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย

ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้

ขิง สามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ โดยชาวเอเชียนั้นมักจะใช้ขิงในการช่วยบรรเทาอาการเมารถ หรือเมาเรือ นอกจากนี้ ยังมีหลายการศึกษาพบว่า ขิงสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอาเจียนหลังจากการผ่าตัดและยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัดได้อีกด้วย

ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

มีการศึกษาใหม่พบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานขิงร่วมกับยา เพราะขิงอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ และควรติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด เพราะหากรับประทานขิงมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ระดับอินซูลินลดลงมากเกินไปจนอยู่ในขีดอันตรายได้

ขิงดอง สรรพคุณดีก็มี เราอาจจะเคยได้ยินกันมาว่าการรับประทานของหมักดองไม่ดีกับสุขภาพ แต่ต้องขอยกเว้นไว้สำหรับขิงดองค่ะ เพราะจริงๆ แล้วแม้ขิงดองจะเป็นอาหารที่ผ่านการหมักด้วยน้ำส้มสายชู แต่เรื่องสรรพคุณและประโยชน์เพื่อสุขภาพ ขิงดองก็มีดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขิงสดๆ ซึ่งประโยชน์ของขิงดองมีดังนี้

ช่วยแก้อาการเมาเรือ เมารถ
และอาการแพ้ท้อง

เนื่องจากขิงดองเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรงอีกทั้งยังมีรสชาติเผ็ดอมเปรี้ยว เลยทำให้กลายเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการเมาเรือ เมารถ และสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งมักจะมีอาการแพ้ท้อง เอาไว้รับประทานเวลาที่รู้สึกคลื่นไส้ เพราะจะช่วยบรรเทาอาการได้ ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมา หรือยาแก้แพ้ท้อง ลองใช้ขิงดองดู

ล้างปากเวลารับประทานอาหาร

สำหรับหลายคนที่สงสัยว่า ทำไมเวลาไปรับประทานอาหารญี่ปุ่นแล้ว บนจานอาหารญี่ปุ่นจะมีขิงดอง คำตอบก็คือ ขิงดองเหล่านั้นมีไว้รับประทานล้างปาก โดยส่วนใหญ่ในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น จะรับประทานขิงดองตามเข้าไปหลังจากรับประทานอาหารจานนั้นหมดแล้ว เพื่อไม่ให้รสชาติอาหารจานเดิมติดอยู่ในปากจนทำให้รู้สึกเลี่ยนและรับประทานจานต่อไปไม่ไหว อีกทั้งยังทำให้ลิ้มรสอาหารจานต่อไปได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

โซเดียมต่ำ

แม้ขิงดองจะมีรสจัด แต่น่าแปลกที่ขิงดองเป็นอาหารที่มีโซเดียมต่ำมากเมื่อเทียบกับอาหารหมักดองชนิดอื่นๆ เมื่อนำมารับประทานแล้วก็ทำให้ไม่ต้องกังวลกับปริมาณโซเดียม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความดันโลหิตสูงลงไปได้อีกเยอะเลย

ข้อควรระวัง ในการรับประทานขิง

อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ได้ มีบางการศึกษาพบว่า ขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์และการแท้ง แต่ในการตั้งครรภ์รายอื่นๆ นั้นไม่พบว่าการรับประทานขิงจะทำให้เกิดอาการเหล่านั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการคลื่นไส้จากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ดังนั้น คุณควรไปปรึกษาแพทย์ก่อนจะที่ใช้ขิงในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตนเอง

ทำให้เกิดแผลร้อนในภายในปากได้ ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะสามารถทำให้เยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบ จนเป็นอาการร้อนในได้ ดังนั้น ไม่ควรรับประทานขิงมากจนเกินไป

ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด การศึกษาหนึ่งในออสเตรเลีย พบว่า ขิงนั้นมีสรรพคุณในการต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถาบันสุขภาพของออสเตรเลียได้ออกคำเตือนให้งดการรับประทานขิงในขณะที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ดังนั้น ถ้าหากคุณมีอาการเลือดออกผิดปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขิง

เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว หวังว่าหลายๆ คน ที่กำลังคิดจะใช้ขิงช่วยบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ก็คงจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นนะคะ เพราะบางทีถ้าหากเราใช้ขิงในการรักษาโรคหนึ่ง แต่ก็อาจจะไปช่วยกระตุ้นให้อีกโรคนั้นอาการกำเริบได้ ดังนั้น ควรจะรับประทานขิงอย่างระมัดระวัง แต่ถ้าหากไม่มั่นใจควรปรึกษาแพทย์ดีกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.rd.com และ www.livestrong.com  

เผยแพร่ครั้งแรกวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562