เบทาโกร รุกตลาดอาหารแปรรูปพร้อมทาน ดันสินค้าไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมน และสารเร่งเนื้อแดง ตีตลาดส่งออก

เบทาโกร หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหาร ลั่นเดินหน้ายกระดับคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารเต็มรูปแบบ ชูผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปพร้อมรับประทาน ที่หลากหลายมากกว่า 1,000 รายการ ด้วยกำลังการผลิต 8,000 ตัน ต่อปี จาก Betagro Central Kitchen นวนคร ตอบโจทย์ผู้บริโภคในสังคมเมืองที่ต้องการความสะดวก อร่อย หลากหลาย และมีคุณภาพ พร้อมรุกตลาดส่งออกด้วยสินค้าคุณภาพ ปลอดภัยระดับพรีเมียม ที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมน และสารเร่งเนื้อแดงในกระบวนการผลิต และขยายกำลังการผลิตไก่ปรุงสุก ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น

นายสมศักดิ์ บุญลาภ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร เครือเบทาโกร

นายสมศักดิ์ บุญลาภ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ปี 2561 เป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของเบทาโกร ด้วย 3 กิจกรรมหลัก คือ การเปิดตัวแคมเปญการตลาดใหญ่ “ไส้กรอกรมควันเบทาโกร – อร่อยใช่ สัมผัสไหนก็โดน” โดยมี โป๊ป-ธนวรรธน์ เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของผลิตภัณฑ์ไส้กรอกแบรนด์เบทาโกร  สามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์ไส้กรอกรมควันเบทาโกรในตลาดได้ถึง 93% และมีการบริโภคเป็นประจำเพิ่มสูงถึง 45% (ผลการวิจัยผู้บริโภค 300 คน โดยวัดจากการรับประทานสินค้าทุก 1 สัปดาห์ เป็นประจำ) ช่วยดันยอดขายเพิ่มเฉพาะกลุ่มไส้กรอกสูงถึง 10% โดยที่ไส้กรอกกลุ่มพรีเมี่ยมและเกรด A เติบโตถึง 15%  นอกจากนี้ เบทาโกร ยังมุ่งมั่นสร้างการรับรู้และความเข้าใจเพื่อหวังให้ผู้บริโภคตระหนักและหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ผ่านแคมเปญ ‘เลือกกิน ให้อนาคต’ ตอกย้ำผลิตภัณฑ์เอสเพียว ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในขั้นตอนการเลี้ยงตั้งแต่วันแรก หรือ RWA (Raised Without Antibiotics) รับรองโดย NSF เป็นรายแรกของโลก ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอาหารสดหมู ไก่ ไข่ ภายใต้แบรนด์เอสเพียว ในปี 2561 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 17%  ในขณะที่ตลาดสินค้าพรีเมี่ยมเติบโต 10%

สินค้ากลุ่ม RWA (Raised Without Antibiotics) นี้ ยังถือเป็นสินค้าสำคัญที่ช่วยเปิดตลาดส่งออกอาหารไปยังกลุ่มตะวันออกกลางและตลาดยุโรป ในรูปแบบ OEM และภายใต้ตราสินค้าเอสเพียว ไปยังประเทศฮ่องกงอีกด้วย ส่งผลให้ยอดส่งออกเบทาโกรเพิ่มขึ้น 14% ในขณะที่การส่งออกโดยรวมของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเพียง 11%

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทิศทางธุรกิจของเบทาโกรในปี 2562 เรามีกิจกรรมหลัก 4 กิจกรรม โดยกิจกรรมแรก เป็นการเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จจากแคมเปญ ไส้กรอกรมควันในปีที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อแคมเปญใหม่ ‘ไส้กรอกเบทาโกร ชีส ซีรีส์ ความอร่อยที่ใครก็หยุดไม่ได้’ โดยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ไส้กรอกชีส 6 รสชาติ 6 สไตล์ เพื่อให้สอดรับกับกระแสความต้องการของตลาด ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบชีส และไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของอาหาร

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าพรีเมี่ยมแบรนด์เอสเพียว จึงออกผลิตภัณฑ์ไส้กรอกพรีเมี่ยมสไตล์โฮมเมดที่ผลิตจากเนื้อหมูเอสเพียว เอาใจกลุ่มผู้บริโภคที่ใสใจในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้ตนเองหรือครอบครัว โดยเริ่มวางจำหน่าย 6 สาขา ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, สยามพารากอน, เดอะมอลล์บางแค, เซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า รวมทั้งตั้งเป้าขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าเอสเพียวผ่าน Antibiotic Free Zone ในร้าน BETAGRO Shop กว่า 49 สาขา และผลักดันสู่ทุกสาขาของร้าน BETAGRO Shop ทั่วประเทศ ในปี 2020 ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปของเบทาโกรถือครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 15% มูลค่าราว 4,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโต 15%

Advertisement

สำหรับแนวโน้มตลาดส่งออกของปี 2562 เป็นไปในทิศทางที่ดี เบทาโกรตั้งเป้าปริมาณการส่งออกทั้งหมดในปีนี้ กว่า  97,580 ตัน ตั้งเป้าเติบโต 12% ในปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์หลักยังคงเป็นไก่ปรุงสุกแช่แข็ง และไก่สดแช่แข็ง ซึ่งในปีนี้ยังคงเน้นการทำตลาดสินค้าไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ (RWA) ทั้งภายใต้แบรนด์เอสเพียว และ OEM ไปยังตลาดเอเชีย ได้แก่ ประเทศ ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และยุโรป ในกลุ่มสแกนดิเนเวียร์ อย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้ ยังมีโครงการขยายกำลังการผลิตสินค้าไก่ปรุงสุกเพิ่มขึ้นอีกปีละ 3,000 ตัน เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นซึ่งมีความต้องการสินค้าจากประเทศไทยมากขึ้น

Advertisement

ในส่วนของ Betagro Central Kitchen นวนคร ที่ได้ลงทุนก่อสร้างศูนย์นวัตกรรมอาหารเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เมื่อปีที่แล้ว ด้วยงบกว่า 750 ล้านบาท วันนี้ Betagro Central Kitchen พร้อมแล้วที่จะส่งต่ออาหารพร้อมรับประทานที่หลากหลายมากกว่า 1,000 รายการ ใน 6 หมวดสินค้า ได้แก่ 1) อาหารทานเล่นและสินค้าทอดประเภทหมู ไก่ 2) ผลิตภัณฑ์ไข่ปรุงสุก 3) ข้าวกล่องพร้อมรับประทาน 4) กับข้าวสำเร็จรูป 5) เบเกอรี่ และ 6) ผลิตภัณฑ์ปรุงรส ผลิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยกำลังการผลิตรวม 8,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายในส่วนของอาหารแปรรูป และพร้อมรับประทานได้อีกราว 17%

สำหรับงาน THAIFEX : World of Food Asia 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน นี้ เครือเบทาโกรร่วมออกบู๊ธเพื่อแสดงสินค้าอาหารคุณภาพสูง เปิดโอกาสทางธุรกิจอาหารแก่ผู้ประกอบการต่างๆ ภายใต้แนวคิด ‘Experience Real Quality with Betagro’ บนพื้นที่กว่า 252 ตารางเมตร เนรมิตให้เป็น Butcher & Barn เพื่อให้คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์รูปแบบใหม่ของแบรนด์เบทาโกร ผ่านโซนนิ่งต่างๆ และไฮไลท์พิเศษ คือการสาธิตวิธีการบรรจุไส้กรอก S-Pure Homemade Sausage และจัดแสดง The Pork Cuts Range โชว์เนื้อหมูสดครึ่งซีกที่ตัดแต่งอย่างสวยงามเพื่อแสดงความสดใหม่อย่างมีคุณภาพ คาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้เข้าเยี่ยมชมบู๊ธเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกชม และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ครบทุกไลน์ ทั้งอาหารสด อาหารแปรรูป อาหารพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หลากหลายรายการ ห้ามพลาด! กับ บู๊ธ Betagro ที่ให้ผู้ที่มาเยี่ยมบู๊ธได้ลิ้มลองความอร่อยจากผลิตภัณฑ์จากเครือเบทาโกรตลอดวัน โดยทีม Pro Chef  จาก Thailand Culinary Academy อาทิ เชฟวัฒนศักดิ์ ช่างเก็บ เชฟเทียนชัย พีรพงศธร ทั้งกับข้าว อาหารรับประทานเล่น อาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพ เบเกอรี่ ฯลฯ รวมกว่า 30 เมนู ระหว่าง วันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00–18.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี