ไททา แนะรัฐลงทุนเทคโนโลยีพลิกฟื้นเกษตร เพิ่มรายได้-ลดต้นทุน

17 กันยายน 2562 –นางวรณิกา นาควัชระ บีดิงเฮาส์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตร ( TAITA : ไททา) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้ง และอุทกภัย โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน กระทบต่อผลผลิตด้านการเกษตร โดยเฉพาะข้าว และอ้อย ให้ปรับตัวลดลง ซึ่งจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจภาคเกษตร ปี 2562 จากครึ่งแรกของปีนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ออกมาระบุว่า การเติบโตในภาคการเกษตรกรรมชะลอตัวลง 0.4 % ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เมื่อเทียบกับการขยายตัว 1.7 % ในช่วงครึ่งหลังของปี 2561

ทั้งนี้ เพื่อรับมือกับสภาวะแล้งและอุทกภัยที่รุนแรง อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นรวดเร็ว รัฐบาลต้องเร่งนำนวัตกรรมทางการเกษตรเข้ามาใช้ในภาคการเกษตร เพื่อติดอาวุธให้เกษตรกรไทย รวมถึงสร้างศักยภาพเพาะปลูก ดูแลผลผลิต และลดการสูญเสีย เนื่องจากภัยแล้งและน้ำท่วม ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ปัจจัยที่ท้าทายเหล่านี้ เป็นเรื่องด่วนที่ต้องนำมาใช้เพื่อการปฏิรูปภาคการเกษตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่ง ลดต้นทุน ให้เกษตรกรรายย่อย และขนาดกลาง มีรายได้เพิ่มขึ้น ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งหนึ่งในสามของประชากรไทยอยู่ในภาคเกษตรกรรม

ภาพจากกองทุนสนับสนุนการวิจัย

 

จากแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติและนโยบายประเทศไทย 4.0 หากรัฐบาลใช้นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มาใช้ในภาคการเกษตร ตามมาตรฐานที่เป็นระดับสากล อาทิ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice หรือ GAP) เป็นวิธีการหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการผลิตอาหารที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน เพื่อการบริโภคในประเทศและเพื่อการส่งออก การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและโดรนในวงการเกษตร รวมถึงความก้าวหน้าทางการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชคุณภาพ การอารักขาพืชผลทางการเกษตร และการทำฟาร์มแบบยั่งยืน เป็นต้น ถือเป็นการติดเครื่องมือให้กับเกษตรกรเพื่อเอาชนะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

“ไททา ในฐานะตัวแทนบริษัทอุตสาหกรรมพืชศาสตร์ มุ่งเน้นการวิจัย และพัฒนา ปรับปรุงด้านการเกษตรทุกมิติ ภายใต้งบประมาณ มากกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 10,000 ล้านบาท ต่อปี ยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการเป็นพี่เลี้ยงในการส่งเสริม สนับสนุนให้เกษตรกรไทยมีความรู้ และใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตด้านการเกษตร ซึ่งมั่นใจว่าเกษตรกรในท้องถิ่น ธุรกิจการเกษตรและผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่นี้”

นางวรณิกา กล่าวว่า การพัฒนาความก้าวหน้าทางการเกษตร ในการเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการทำการเกษตรอย่างเห็นได้ชัด โดยเทคโนโลยีโดรนถือเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มความปลอดภัยและความแม่นยำของการอารักขาพืช และยังช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้หันมาทำงานในการเกษตรแบบก้าวหน้าได้เป็นอย่างดี เกษตรกรจำเป็นต้องเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ เช่นเดียวกับนวัตกรรมก่อนหน้าเช่น ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชที่สร้างสรรค์มาเพื่อให้พวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีและเพื่อช่วยพิทักษ์ผลิตผลทางการเกษตรจากศัตรูพืชที่เข้าทำลายเช่น หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด

อย่างไรก็ตาม ไททาหวังว่ารัฐบาลจะทำการหารือกับเกษตรกรและผู้มีส่วนได้เสียในภาคเกษตรในการตัดสินใจสำคัญๆ เพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับภาคการเกษตร นำไปสู่การลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตร เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของประเทศ