สหกรณ์นิคมสอยดาว เร่งขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพเพื่อการส่งออกกลุ่มลำไยแปลงใหญ่

สหกรณ์นิคมสอยดาว เร่งขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพเพื่อการส่งออกกลุ่มลำไยแปลงใหญ่   เสริมเขี้ยวเล็บเกษตรกรผลิตลำไยคุณภาพ GAP สอดคล้องมาตรการนำเข้า“จีน” วางเป้าปี 62 ส่งออกมูลค่า 11 ล้านบาท

นางสาวดาริน ปราบไพริน ผู้จัดการสหกรณ์นิคมสอยดาว จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันจันทบุรีเป็นจังหวัดที่มีลำไยนอกฤดูมากที่สุดในประเทศไทย  โดยอำเภอสอยดาวนับเป็นอีกพื้นที่สำคัญที่เป็นแหล่งใหญ่ของการปลูกลำไยของจังหวัดจันทบุรี   โดยมีตลาดส่งออกหลักคือประเทศจีน  ดังนั้นเพื่อรองรับตลาดส่งออกลำไยไปจีนซึ่งปัจจุบันมีมาตรการเข้มข้นด้านขบวนการผลิตที่ได้คุณภาพและมาตรฐานGAP  ทางสหกรณ์ฯจึงได้ผลักดัน”โครงการส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพเพื่อการส่งออก” รวมทั้งได้ส่งเสริมให้สมาชิกสร้างความเข้มแข็งรวมกันเป็นเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองและใช้ความรู้ การบริหารจัดการร่วมกัน โดยปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิกทั้งหมด 4,900 รายในจำนวนดังกล่าวเป็นเกษตรกรผู้ปลูกลำไยประมาณ 80% และมีเกษตรกรเข้าสู่ระบบแปลงใหญ่ลำไยจำนวน 100รายคิดเป็นพื้นที่ 1,616 ไร่

สำหรับผลผลิตลำไยแปลงใหญ่ของสมาชิกสหกรณ์จะบริษัท เฮงหลีประเทศไทย จำกัดเป็นผู้รับซื้อทั้งหมด    โดยคาดว่าปีนี้มีปริมาณผลผลิต 390 ตันคิดเป็นมูลค่า 11 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีผลผลิตเพียง 377 ตันคิดเป็นมูลค่า 9.5 ล้านบาทและกำหนดราคาเบอร์1-2 หรือเบอร์ใหญ่สุดรับซื้ออยู่ที่ประมาณ 30 บาทเท่ากับปีที่แล้ว

“สหกรณ์นิคมสอยดอยฯจะให้ความสำคัญในการส่งเสริมสมาชิกปลูกลำไยคุณภาพตามที่ตลาดต้องการภายใต้โครงการส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพเพื่อการส่งออก  โดยเฉพาะการส่งเสริมและผลักดันให้สมาชิกเข้าสู่ระบบการตรวจรับรองแปลงGAPพืช   ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญของการส่งออกลำไยไปยังตลาดจีนในปัจจุบัน” นางสาวดาริน  กล่าว

ด้านนางสาววันนา สังข์นาค ผู้จัดการโครงการแปลงใหญ่ลำไยตำบลทับช้างอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี  กล่าวว่า   ปัจจุบันสมาชิกแปลงใหญ่ทับช้างได้ดำเนินธุรกิจซื้อ-ขายผลผลิตลำไยให้กับสหกรณ์นิคมสอยดาว   โดยมีพื้นที่รวม  400ไร่  โดยคาดว่าปี 2562นี้จะมีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดประมาณ 1,000 ตัน   ในจำนวนดังกล่าวจะแบ่งจำหน่ายร่วมกับสหกรณ์นิคมสอยดาว ประมาณ 300 ตันที่เหลือจะจำหน่ายให้กับล้งรายเดิมโดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ30-35 บาท/กก.  สำหรับพันธุ์ที่นิยมปลูกของเกษตรกรคือ พันธุ์ อีดอ   เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่ตลาดจีนต้องการมากที่สุด   มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับนำไปทำเป็นลำไยอบแห้ง

“สำหรับขบวนการผลิตลำไยนอกฤดูของแปลงใหญ่ลำไยทับช้าง  เพื่อให้ได้ผลผลิตลำไยคุณภาพดีตามมาตรฐานของตลาดจีนต้องการ จะมีเจ้าหน้าที่สหกรณ์จังหวัดและเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องหมุนเวียนเข้ามาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับขบวนการผลิตลำไยคุณภาพส่งออกอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง  ตั้งแต่ขบวนการให้ปุ๋ย การราดสารเพื่อกระตุ้นให้ลำไยออกดอกพร้อมกัน   การเก็บเกี่ยวและการตลาดที่ครบวงจร ดังนั้นผลผลิตที่ออกมาจึงได้คุณภาพ ลูกโต หวาน อร่อย เป็นที่นิยมของคนจีนอย่างมาก