ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
---|---|
เผยแพร่ |
ปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่เบื่อกับสถานการณ์รถติดในเมืองหลวงไม่น้อย จนทำให้สภาพจิตใจตึงเครียดด้วยระยะเวลาที่ต้องเร่งรีบ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วความสุขที่มีอาจจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่หมดใจที่จะประกอบอาชีพอยู่ในเมืองหลวง หันหลังและเดินหน้ากลับสู่บ้านเกิดเพื่อประกอบอาชีพในถิ่นฐานเดิม และสืบทอดกิจการของครอบครัวที่ทำมาอยู่เดิม จนขยับขยายเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตมากขึ้นก็มี
คุณสมหวัง สุทนต์ อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 2 ตำบลอบทม อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่หันหลังให้กับเมืองกรุง กลับมาทำอาชีพเลี้ยงหมูที่เดิมทีเป็นอาชีพเสริมของครอบครัว โดยที่เขามาเริ่มทำอย่างจริงจังจนเป็นงานที่สร้างเงินได้เป็นอย่างดี
จากลูกจ้างในเมืองกรุง
สู่ชีวิตเกษตรกรที่บ้านเกิด
คุณสมหวัง เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอยู่ในกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อทำไปได้สักระยะรู้สึกไม่ค่อยชอบงานทางด้านนี้ ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง จึงทำให้ตัดสินใจที่จะออกมาประกอบอาชีพอยู่ที่บ้านเกิดคือ จังหวัดอ่างทอง
“ช่วงนั้นที่ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ บอกตามตรงว่าก็เหนื่อยพอสมควร และมิหนำซ้ำยังโดนโกงค่าแรงด้วย คราวนี้ก็เลยตัดสินใจว่าอยากจะกลับมาหาอะไรทำอยู่ที่บ้าน พอปี 2550 ก็เลยตัดสินใจกลับมาอยู่บ้าน โดยมาเลี้ยงหมู เพราะสมัยก่อนพ่อแม่ก็เลี้ยงอยู่แล้ว แต่เลี้ยงไม่มาก ประมาณ 4-5 ตัว เป็นเหมือนรายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ พอเรากลับมาแล้วก็เลยตัดสินใจเลี้ยงอย่างเต็มที่ตั้งแต่นั้นมา” คุณสมหวัง เล่าถึงที่มา
เมื่อได้ตกลงปลงใจที่จะเลี้ยงหมูอย่างเต็มตัว คุณสมหวัง บอกว่า จึงได้ตัดสินใจมาสร้างเล้าหมูเพิ่มเพื่อให้หมูที่เลี้ยงสามารถมีขายได้ทุกเดือน เป็นการกระจายรายได้ให้มีใช้จ่ายได้ทุกเดือน
เน้นเลี้ยงเล้าละไม่เกิน 15 ตัว
ก็สามารถทำเงินได้
โรงเลี้ยงหมูทั้งหมดของคุณสมหวัง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณรอบบ้านโดยจัดสรรเนื้อที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งทำให้เวลานี้เขาสามารถเลี้ยงหมูได้ทั้งหมด 100-120 ตัว โดยใน 1 คอก จะเลี้ยงหมูสลับเป็นรุ่นๆ ไป เพื่อที่ให้หมูโตสลับกันจึงทำให้เขามีหมูขายทุกเดือน
ซึ่งวัสดุที่นำมาสร้างโรงเรือนสำหรับเลี้ยงจะเป็นไม้ที่เหลือใช้ เพื่อให้ประหยัดต้นทุนมากที่สุด จากนั้นกั้นให้เป็นเล้าสำหรับใส่เลี้ยงหมูที่มีขนาด 4×5 เมตร
“โรงเรือนเราก็จะทำเป็นเล้าๆ ไป รุ่นใครรุ่นมันจะไม่มาผสมกัน จากนั้นก็จะหาซื้อลูกหมูอายุประมาณ 1 เดือน ที่หย่านมใหม่ๆ จากแหล่งที่เราติดต่อไว้มาปล่อยเลี้ยง โดยให้อยู่ที่เล้าละ 10-15 ตัว ซึ่งอาหารที่ให้กินในช่วงแรกจะเป็นอาหารเม็ดเบอร์ 1 ของลูกหมูที่เพิ่งหย่านม เทใส่รางอาหาร ซึ่งลูกหมูก็จะกินเรื่อยๆ ได้ตลอดทั้งวัน” คุณสมหวัง กล่าวถึงอัตราการใส่อาหารให้หมูภายในเล้า
เมื่อลูกหมูได้อายุประมาณ 20-30 วัน ลูกหมูจะเริ่มเจริญเติบโตมากขึ้น จะทำการเปลี่ยนสูตรอาหารเป็นอาหารหมูสูตรเบอร์ 2 โดยสลับให้กับปลายข้าวและรำข้าว เพื่อให้ลูกหมูคุ้นชินกับการกินอาหารอย่างอื่นมากขึ้น จากนั้นจึงหยุดให้อาหารเม็ดจะทำให้ประหยัดต้นทุนมากยิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องการป้องกันโรค คุณสมหวัง บอกว่า เมื่อได้ลูกหมูมาเลี้ยงในเล้าในวันแรกจะทำวัคซีนป้องกันโรคทั่วไปให้กับลูกหมู ซึ่งหลักการคือจะเน้นฉีดวัคซีนป้องกันให้กับลูกหมูก่อนเป็นสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดโรคจนไม่สามารถรักษาได้ ดังนั้น การทำวัคซีนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในช่วงแรก
“หมูมันจะเจ็บป่วยแค่ช่วงแรกๆ ตอนที่มันยังเล็กอยู่ พอได้อายุ 2 เดือนขึ้นไป เรื่องโรคก็จะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะโตจนสามารถต้านทานโรคได้ ซึ่งการเลี้ยงหมูก็ไม่มีอะไรยากเพียงแต่เราต้องดูแลใส่ใจ ช่วงอายุน้อยอย่างเดียวเท่านั้น และก็หมูที่เลี้ยงทั้งหมดใน 1 รุ่น จะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 4-5 เดือน ก็จับขายได้เลย” คุณสมหวัง กล่าว
หมูที่เลี้ยง 1 ตัว
ให้น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม
เนื่องจากที่บ้านของคุณสมหวังเลี้ยงหมูมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อคุณแม่ แม้สมัยก่อนจะเป็นการเลี้ยงแบบขนาดเล็กก็ตาม ก็จะมีพ่อค้ามาติดต่อขอซื้อถึงที่บ้าน จนพอเวลาผ่านมาคุณสมหวังทำการเลี้ยงให้มีจำนวนเล้าที่มากขึ้น ก็มีพ่อค้าเข้ามาติดต่อขอซื้อมากขึ้นไปด้วย
ซึ่งหมูที่เลี้ยงประมาณ 4-5 เดือน จะให้น้ำหนักต่อตัวอยู่ที่ 100 กิโลกรัมขึ้นไป โดยจะขายให้กับพ่อค้ายกตัว อยู่ที่กิโลกรัมละ 100-108 บาท ซึ่งราคาสามารถขึ้นลงได้ตามกลไกของตลาด ส่วนลูกหมูขายอยู่ที่ตัวละ 1,900 บาท
“หมูที่จะขายควรให้น้ำหนักตัวอยู่ที่ 100 กิโลกรัมได้ยิ่งดี พยายามทำยังไงก็ได้ อย่าให้ต่ำกว่านี้ เพราะยิ่งน้ำหนักน้อยกว่านี้เวลาที่เราขาย เราก็จะยิ่งไม่ได้อะไร ควรที่จะคงน้ำหนักให้อยู่ประมาณนี้จะดีที่สุด ซึ่งการเลี้ยงหมูถ้าคนมองว่าการเลี้ยงสัตว์เป็นเรื่องที่ยาก จะบอกว่าการเลี้ยงสัตว์เป็นเรื่องที่ไม่ยาก ขอให้จัดการให้ดี และที่สำคัญควรสลับรุ่นเพื่อให้มีขายได้ทุกเดือน เท่านี้เราก็มีรายได้พอเป็นเงินใช้จ่ายได้ดี” คุณสมหวัง กล่าว
นอกจากจะเลี้ยงหมูเพื่อเป็นอาชีพหลักแล้ว คุณสมหวัง บอกว่า ยังมีแปลงปลูกผักและบ่อน้ำเล็กๆ ไว้เลี้ยงปลาอยู่ด้วย เพราะจะได้นำเวลาว่างที่มีจากการดูแลหมูมาเสริมสร้างรายได้ทางอื่น จึงทำให้เขาสามารถมีรายได้หลายทิศทาง
ซึ่ง ณ เวลานี้ คุณสมหวัง บอกว่า มีความสุขมากที่ได้กลับมาอยู่บ้านเกิด ได้มาประกอบอาชีพอยู่กับบ้าน โดยที่ไม่ต้องห่างไกลจากคนที่รัก มีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น เพราะจากที่เห็นคนในย่านนี้ก็เริ่มกลับมาทำเกษตรที่บ้านกันมากขึ้น โดยจะไม่รอให้ชีวิตต้องแก่ชราในเมืองใหญ่ แต่หันมามีความสุขอยู่ที่บ้านด้วยใจที่อบอุ่น
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสมหวัง สุทนต์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 062-445-9428
เผยแพร่ในระบบออนไลน์คราั้งแรกวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560
สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354