ดอกกัลปพฤกษ์ บานสะพรั่งเรียงราย บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา

ดอกกัลปพฤกษ์ ที่กำลังบานสะพรั่ง เรียงรายคล้ายซุ้มสวยงาม บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ระยะทางกว่า 100 เมตร เป็นจุดที่สร้างความสนใจให้กับผู้คนและนักศึกษาที่เดินทางผ่านไปมาเป็นอย่างมาก โดยในช่วงนี้จะมีคนเดินทางมาแวะเวียนชมความงามและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอย่างไม่ขาดสาย

กัลปพฤกษ์ (Wishing Tree) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง และจัดเป็นไม้ดอกประดับชนิดหนึ่ง เนื่องจากดอกกัลปพฤกษ์ออกดอกเป็นช่อสั้นๆ แต่จำนวนช่อดอกมาก และมีสีสวยงามจากสีของดอกที่ผสมกันระหว่างสีชมพูอ่อน และสีขาว จนได้สมญานามว่า ดอกซากุระเมืองไทย

ต้นกัลปพฤกษ์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia bakeriana Craib.

ชื่อสามัญ : Wishing Tree, Pink Shower 

ดอกสวยๆ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลำต้น กัลปพฤกษ์ เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงกลาง พบได้มากทางภาคอีสาน และภาคเหนือ มีความสูงลำต้นได้มากกว่า 12 เมตร แตกกิ่งในระดับต่ำ ทอดกิ่งในแนวตั้งขึ้นด้านบน มีทรงพุ่มแบนกว้าง มีทรงพุ่มโปร่ง ไม่หนาทึบ เปลือกลำต้นมีลักษณะเรียบ ผิวเปลือกมีสีเทา ยอดอ่อนและกิ่งอ่อนมีขนปกคลุมหนาแน่น

ใบ ใบกัลปพฤกษ์มีลักษณะเป็นใบประกอบ คล้ายใบต้นขี้เหล็ก มีก้านใบหลักยาว ประมาณ 15-40 เซนติเมตร ประกอบด้วยก้านใบย่อย แต่ละก้านใบย่อยมีใบ 5-10 คู่ ใบมีลักษณะรูปไข่ ปลายใบกลม ฐานใบมน ขอบใบเรียบ แต่ละใบมีก้านใบยาว ประมาณ 2 มิลลิเมตร ใบกว้าง ประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4-10 เซนติเมตร และอาจพบติ่งสั้นบริเวณปลายสุดของใบ แผ่นใบมีขนละเอียดปกคลุมทั้งสองด้าน แต่ด้านหลังใบจะมีขนมากกว่าด้านท้องใบ

ดอก ดอกกัลปพฤกษ์จะเริ่มออกเมื่อกิ่งทิ้งใบหมด ดอกจะแทงออกเรื่อยๆ จนทั่วกิ่ง และจะเริ่มร่วงพร้อมกับการแทงยอดใบใหม่ ดอกตูมของกัลปพฤกษ์จะมีสีชมพูอ่อน เมื่อดอกบานจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อๆ และบานเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ซึ่งในแต่ละช่อดอกจะมีดอกตูมและดอกบานผสมกัน ทำให้มองเห็นเป็นช่อดอกที่มีสีขาว และสีชมพูอ่อนผสมกัน

ดอกกัลปพฤกษ์จะออกเป็นช่อ ยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร ออกเรียงกันจำนวนมากตามปลายกิ่ง ดอกประกอบด้วยกลีบเลี้ยงรูปหอกแกมรูปไข่ที่อยู่ด้านนอกสุด จำนวน 5 กลีบ มีสีแดงเข้ม กว้างประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ถัดมาเป็นกลีบดอก จำนวน 5 กลีบ แต่ละกลีบกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร มีสีชมพูอ่อนขณะตูม และบานเปลี่ยนเป็นสีขาว ถัดมาภายในดอกมีเกสรตัวผู้ มีขนาดใหญ่ไม่เท่ากัน

ผล/ฝัก ผล หรือเรียกว่า ฝัก มีลักษณะกลมยาวคล้ายฝักคูน (ราชพฤกษ์) แต่มีขนาดเล็กกว่า และบางช่วงของฝักมักกิ่ว ไม่กลมสม่ำเสมอทั่วฝัก ฝักมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1-2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร ฝักอ่อนมีสีเขียว มีขนนุ่มสีเทาปกคลุม เมื่อแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นเทาดำ และมีสีดำมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแก่จัดจนถึงฝักร่วง ฝักจะมีรอยปริแตกตามแนวขวางของฝัก ภายในฝักแบ่งเป็นช่องๆ ตามขวาง ที่เป็นที่อยู่ของเมล็ด แต่ละฝักจะมีเมล็ด ประมาณ 30-40 เมล็ด ฝักจะเริ่มแก่ประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม

เมล็ด เมล็ดจะอยู่ในช่องว่างตามแนวขวางของฝัก แต่ละช่องประกอบด้วย 1 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะค่อนข้างกลม และแบน ขนาดเมล็ด ประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร

คนผ่านไป-มา สนใจ

ความเชื่อเกี่ยวกับต้นกัลปพฤกษ์

ต้นกัลปพฤกษ์ เป็นต้นไม้สำคัญในความเชื่อโบราณ ที่กล่าวถึงว่าเป็นต้นไม้สารพัดนึก เป็นต้นไม้ที่ทำให้ผู้ที่ปรารถนาจะได้สิ่งใดก็จะได้รับสิ่งนั้น นอกจากนั้น ยังปรากฏในวรรณกรรมทางศาสนาเรื่องไตรภูมิ หรือเรียกในชื่ออื่น เช่น “ไตรภูมิพระร่วง” “เตภูมิกถา” “ไตรภูมิกถา” “ไตรภูมิโลกวินิจฉัย” และ “เตภูมิโลกวินิจฉัย” ที่แต่งในสมัยสุโขทัย ประมาณ พ.ศ. 1882 แต่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีระกา โดย พระยาลิไท ที่ทรงมีพระประสงค์ที่จะเทศนาโปรดพระมารดา และเพื่อจำเริญพระอภิธรรม ต้นกัลปพฤกษ์ในเรื่องไตรภูมิ ถูกใช้เป็นตัวแทนต้นไม้ประจำทวีปทางด้านทิศเหนือ หรืออุตตรกุรุทวีปของแผนที่โลก ซึ่งต้นไม้ที่ทำให้ผู้ที่ปรารถนาจะได้สิ่งใด ก็จะได้รับสิ่งนั้นตามความปรารถนา และเปรียบได้กับแก้วสารพัดนึก

ต้นไม้ประจำทั้ง 4 ทวีป

ทางทิศตะวันออก มีทวีปชื่อว่า วิเทหะ หรือเรียกว่า บุพพวิเทหะ ต้นไม้ประจำทวีป คือ ต้นซีก

ทางทิศใต้ มีทวีปชื่อว่า ชมพู หรือเรียกว่า ชมพูทวีป เป็นทวีปที่เราอาศัยอยู่ ต้นไม้ประจำทวีป คือ ต้นชมพู หรือต้นหว้า

ทางทิศตะวันตก มีทวีปชื่อ อมรโคยาน ต้นไม้ประจำทวีป คือ ต้นกระทุ่ม

ทางทิศเหนือ มีทวีปชื่อ อุตตรกุรุ ต้นไม้ประจำทวีป คือ ต้นกัลปพฤกษ์

ผู้คนและนักศึกษามหาวิทยาลัยพะเยาเป็นจำนวนมากต่างเดินทางมาแวะชมความสวยงามของดอกกัลปพฤกษ์ ที่กำลังเบ่งบานสะพรั่งสวยงาม เรียงราย และคล้ายซุ้มดอกไม้ บริเวณด้านหน้ามหาวิยาลัยพะเยา ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ที่มีระยะกว่า 100 เมตร ที่ขณะนี้กำลังเริ่มเบ่งบาน คาดว่าจะเบ่งบานให้ได้ชมกันในช่วงนี้ ประมาณ 2 สัปดาห์ อย่างเต็มที่  จึงเป็นจุดที่สนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก โดยในทุกวันในช่วงนี้จะมีผู้คน นักศึกษา เดินทางแวะเวียนมาชมความงาม และร่วมถ่ายรูปกับดอกกัลปพฤกษ์กันที่บริเวณแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย จึงเหมาะสมสำหรับปลูกเป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือนและถนนหนทาง มักจะบานช่วงมีนาคม-เมษายน

สามารถชมได้ภายในหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ระยะทางกว่า 100 เมตร ถนนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายรูปสุดฮิตในช่วงหน้าร้อน

ดูแลดี