เอ็นจีโอหนุนพัฒนาบึงสีไฟ อยากให้เป็นแหล่งเรียนรู้ จี้ผู้ว่าฯจับนายทุนขุดหน้าดินขาย

วันที่ 18 มีนาคม 2560 นายตระการ คุณาวุฒิ เอ็นจีโอพิจิตร เปิดเผยว่ากับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาบึงสีไฟ ว่า เรื่องการพัฒนาบึงสีไฟ ตนเองในฐานะคนพิจิตร ขอสนับสนุนแนวความคิดต่างๆ ใครก็ได้ที่เข้ามาพัฒนาบึงสีไฟ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้เป็นแหล่งระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติที่ดี ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ในอดีตที่ผ่านมานั้น บึงสีไฟมีปัญหาต่างๆมากมาย โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องการพัฒนา ที่อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ และไม่ครบวงจร ทำเป็นท่อนๆ แล้วขาดการดูแลรักษา

นายตระการ กล่าวว่า ในครั้งนี้ ผมชื่นชมท่านผู้ว่าฯที่มาใหม่ ซึ่งได้ประกาศตัวว่าจะทำบึงสีไฟให้ยั่งยืน เพราะท่านรู้ว่า บึงสีไฟนั้นคือหัวใจของคนพิจิตร ที่สามารถต้อนรับคนต่างจังหวัด ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดพิจิตรได้ โดยเฉพาะเรื่องการขุดลอกบึงสีไฟ ให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ชาวพิจิตรอยากจะเห็นว่าการพัฒนาบึงสีไฟให้เจริญหู เจริญตามากกว่า โดยเฉพาะอควอเรี่ยม เป็นศูนย์เรียนรู้ เกี่ยวกับสัตว์น้ำ ผมเคยไปเที่ยวที่บึงฉวาก ก็ขอชื่นชมคนที่คิดริเริ่มทำอควอเรี่ยมที่บึงฉวาก ทำให้คนรู้จักบึงฉวากกันทั่วประเทศ จากบึงเล็กๆ ที่ดูไม่สวยงาม แต่สามารถพัฒนาให้เป็นบึงที่สวยงามได้

“ผมอยากเห็นบึงสีไฟของเรา ไม่ใช่มีเฉพาะน้ำ มีบัว แต่เพียงอย่างเดียว นอกเหนือจากน้ำ และบัวแล้ว ทำอย่างไรที่เราจะให้บึงสีไฟเป็นแหล่งเรียนรู้ทางระบบนิเวศน์ เกี่ยวกับสัตว์น้ำ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กๆในจังหวัดพิจิตร ซึ่งตอนนี้เรามีบ่อจระเข้ ซึ่งก็อยากให้มีสัตว์ต่างๆมากมาย เราต้องมีแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำด้วย ซึ่งเราต้องแบบระบบบูรณาการ แล้วมาทำร่วมกัน ซึ่งโรงเรียนต่างๆในจังหวัดพิจิตรของเรา ตั้งแต่ระดับประถมยันมัธยม เรามีหลายร้อยโรงเรียน เอาเด็กๆมาเรียนรู้ระบบนิเวศน์ มาเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตสัตว์น้ำ โดยไม่ต้องไปไกล ตรงนี้นอกจากเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนแล้ว ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดได้อีกทางหนึ่งด้วย” นายตระการ กล่าว

นายตระการ กล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรนั้น ต้องยอมรับว่า การท่องเที่ยวของเรานั้นยังอ่อนด้อย หากเราสามารถพัฒนาบึงสีไฟ ก็ถือว่าเป็นการต่อยอด กับคนที่จะมาเที่ยวที่วัดท่าหลวง เพื่อไหว้หลวงพ่อเพชร ผมว่าจะเกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของเมืองพิจิตร ซึ่งตรงนี้อยากวิงวอนที่คนพิจิตรมีความคิดเห็นต่างว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้บึงสีไฟของเราพัฒนาเดินไปข้างหน้า อยากให้มาตั้งโจทย์กันใหม่ มาช่วยกันคิด มาพัฒนาเพื่อหาทางออก

ส่วนปัญหาเรื่องบึงสีไฟคนพิจิตรยังไม่ลืมนั้น นายตระการระบุว่า มีนายทุนแอบลักลอบขุดหน้าดินบึงสีไฟขาย จนสภาพบึงสีไฟได้รับความเสียหายนับพันไร่ จนกระทั้งมีการจับกุม แต่เรื่องก็เงียบหายไป แต่ปัจจุบันนี้ยังพบว่า ยังมีกลุ่มและบุคล ยังแอบลักลอบขุดหน้าดินบึงสีไฟไปขายอีก โดยอ้างว่าเป็นวัชพืช หรือสนุ่นในบึงสีไฟ ซึ่งตรงนี้ทางจังหวัดพิจิตรเอง ควรจัดระเบียบให้ดี ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันผิดกฎหมาย ผิดข้อระเบียบ ทางจังหวัดจะต้องเอาจริงเอาจัง อย่าปล่อยให้เข้าไปขุดหรือนำดินในบึงสีไฟออกมาขาย

“ที่ผ่านมามีประชาชน มาสอบถามผม เป็นจำนวนมากว่าจังหวัดพิจิตร ปล่อยให้ชาวบ้านขุดบึงสีไฟไปขายได้หรือไม่ หากได้ จะเข้าไปขุดบ้าง เพราะมีคนเขาเห็นว่ามีกลุ่มบุคล เข้าไปขุดดินในบึงมาขาย โดยใส่กระสอบถุงปุ๋ยขายในราคา ถุงละ 20 บาท ซึ่งตนตอบไปว่าไม่ได้ มันเป็นทรัพย์สินในบึงสีไฟ เท่ากับเป็นของหลวง ใครจะเข้าไป ขุดไม่ได้ จะมาอ้างว่าทำเพื่อปาก เพื่อท้องไม่ได้ เพราะเป็นของหลวง ดังนั้นภาครัฐเอง ควรมีมาตรการ เอาจริง เอาจัง อย่าปล่อยให้มีกลุ่ม หรือ บุคคล เข้าไปลักเอาดินมาขาย จังหวัดพิจิตรควรที่จะเข้าไปดูแลตรวจสอบอย่างจริงจัง อย่าให้คนเข้าไปบุกรุก ขุดดินบึงมาขาย อย่าปล่อยปะละเลย เดียวจะเกิดการขัดแย้งมึงขุดได้ กูขุดไม่ได้ ที่ผ่านมานั้น เราก็มีบทเรียนจากปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องการลักลอบขุดดินที่บึงสีไฟ” นายตระการ กล่าว

ด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เกี่ยวกับกรณีลักลอบการขุดดินในบึงสีไฟไปขายนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมได้รับการร้องเรียนเข้ามา ซึ่งก็ได้สั่งการให้นายอำเภอเมืองพิจิตร และป้องกันจังหวัดพิจิตร ออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน หากตรวจสอบพบว่า มีกลุ่ม หรือ บุคคลแอบลักลอบเอาดินในบึงสีไฟ ไปทำประโยชน์ โดยการขาย หรือ จำหน่าย ก็จะกล่าวตักเตือนให้หยุดการกระทำนั้นเสีย แต่เมื่อตักเตือนแล้วยังแอบเข้าไปขุดดินอีก ตรงนี้เราก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที นายวีระศักดิ์ กล่าวเพราะว่าดินบึงสีไฟถือว่า เป็นทรัพย์สินทางราชการใครจะเข้าไป บุกรุกหรือ ขุดดินไปขายไม่ได้ทั้งนั้น

สำหรับเรื่องการแอบลักลอบขุดดินในบึงสีไฟไปขายนั้น ขณะนี้มีกลุ่มบุคคล ได้นำสนุ่น หรือหน้าดิน ไปเทกองไว้ที่หน้าบ้านหลายราย โดยใช้ถุงปุ๋ยบรรจุดินมาวางขายข้างถนนในราคาถุงละ 20 บาท ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น มีกลุ่มที่นำดินมาใส่กระสอบปุ๋ยวางขายริมถนนสายบึงสีไฟ-เมืองเก่าเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะนี้ทางจังหวัดพิจิตร ได้สั่งการให้นายอำเภอ และป้องกันจังหวัดพิจิตร ออกตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เพราะถือว่าเป็นการลักทรัพย์สินแผ่นดิน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ให้กับกลุ่มและบุคคลที่แอบเข้าไปลักขุดดินในบึงสีไฟมาบรรจุถุงขาย