ทำใจแต่เนิ่นๆ ภาษีที่ดินเก็บปี 62 ผ่านกฤษฎีกาแล้ว-คลังลดหย่อนให้ผู้รับมรดก

ครม. เห็นชอบแล้วภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้างหลังผ่านกฤษฎีกา คาดประกาศใช้ปี 2562 โดยปรับเล็กน้อยที่ดินไม่ใช้ประโยชน์จากเดิมเก็บ 5% เปลี่ยนเป็นปีแรก 2% และปรับขึ้น 0.5% ทุกๆ 3 ปี ส่วนอื่นคงเดิม คลังเล็งลดหย่อนให้ผู้ที่ได้รับบ้าน-ที่ดินเป็นมรดก

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คาดว่าจะเริ่มต้นการจัดเก็บภาษีได้ตั้งแต่ ปี 2562 เป็นต้นไป หลังจากกฎหมายผ่านการเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ช่วงประมาณกลางปีนี้ ก่อนจะมีผลบังคับใช้จริงต่อจากนั้นอีก 1 ปี หรือนับตั้งแต่เริ่มต้น ปี 2562

ร่างกฎหมายฉบับนี้ ที่ผ่านมาได้ผ่านการเห็นชอบจากครม.ไปแล้ว และได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ซึ่งกฤษฎีกาแก้ไขรายละเอียดของกฎหมายบางส่วน ปรับปรุงเรื่องของอัตราภาษีที่จะแบ่งตามลักษณะการใช้ประโยชน์ 4 กลุ่ม โดย 3 กลุ่มแรกไม่ได้เปลี่ยนแปลงรายละเอียด คือ กลุ่มที่มีที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมเพดานสูงสุด 0.2% และกลุ่มที่ใช้เพื่อการพาณิชยกรรม เพดานสูงสุด 2%

ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ เดิมจัดเก็บอัตราเดียวที่ 5% เปลี่ยนเป็นเริ่มจัดเก็บในปีแรก 2% หากไม่นำมาใช้ประโยชน์อีก จะจัดเก็บเพิ่ม 0.5% ทุก 3 ปี จนสิ้นสุดที่ 5%

กรณีของผู้ได้รับการโอนมรดกเป็นบ้านและที่ดินมาก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ กระทรวงการคลังจะออก พ.ร.บ. ลดภาษีให้ ซึ่งสามารถลดภาษีลงได้ไม่เกิน 90% ของจำนวนภาษีที่ต้องเสีย

นายณัฐพร กล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ผ่านโครงการสินเชื่อ ‘SMEs Transformation Loan’ ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท ให้กู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ในช่วง 3 ปีแรก และปีที่ 4-7 คิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ตามที่ ธพว. กำหนด

ผู้กู้ต้องไม่เป็นลูกหนี้ที่โอนหนี้หรือรีไฟแนนซ์มาจากสถาบันการเงินอื่น และเมื่อรวมกับสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่นต้องรวมแล้วไม่เกิน 100 ล้านบาท ณ วันยื่นขอสินเชื่อ

คาดว่าจะช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ประมาณ 3,000 ราย หรือปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยรายละ 5 ล้านบาท รักษาการจ้างงานได้ไม่น้อยกว่า 24,000 คน และสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 68,700 ล้านบาท

 

ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด