ที่มา | ไม้ดอกไม้ประดับ |
---|---|
ผู้เขียน | การุณย์ มะโนใจ |
เผยแพร่ |
ผู้เขียนได้ติดตามดูสวนดาวเรือง ของ คุณเกษสุดา ปานันตา อายุ 32 ปี เลขที่ 203/1 หมู่ที่ 9 ตำบลดอนศรีชุม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา อดีตสาวแอร์โฮสเตส สายการบินแห่งหนึ่ง ที่ผันตัวเองกลับบ้านใช้พื้นที่ว่างภายในบ้านปลูกดาวเรืองขาย สร้างรายได้ดี
คุณเกษสุดา ปานันตา กล่าวว่า ตนเองทำงานเป็นสาวแอร์โฮสเตสภาคพื้นของสายการบินแห่งหนึ่ง แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจ และอยากกลับมาอยู่บ้าน จึงมีแนวคิดใหม่ในการสร้างอาชีพให้ตนเองและครอบครัว จึงหันมาสนใจการปลูกดอกดาวเรือง เพราะใช้ระยะเวลาสั้นๆ ในการเก็บเกี่ยวผลผลิต และเก็บขายได้หลายครั้งต่อการปลูกหนึ่งรอบ
โดยใช้พื้นที่ว่างเปล่าทำเป็นแปลงทดลอง ซึ่งทำการทดลองปลูกดาวเรืองพันธุ์ดริฟโกล ที่เลือกพันธุ์นี้เพราะให้ดอกแน่น ให้ผลผลิตสูง ดาวเรืองปลูกเพียง 45 วันเท่านั้น ก็จะเริ่มออกดอกตูมเป็นดอกเล็กๆ เต็มต้น หลังจากนั้นจะทยอยบานออกดอกสีเหลืองจนเต็มพื้นที่แปลงเพาะปลูก จนเริ่มตัดดอกดาวเรืองได้ โดยตนจะตัดขาย 1 วัน หยุดพัก 2 วัน เพื่อให้ดอกเติบโต
หลังจากเก็บเสร็จก็นำไปคัดขนาดของดอกเป็น 5 ขนาด บรรจุถุงขาย ในราคาดอกละ 40 สตางค์ ถึงดอกละ 1 บาท สำหรับผลผลิตที่ส่งจำหน่าย จะส่งที่ตลาดไท และแม่ค้าทั่วไป ซึ่งในช่วงที่ตลาดมีความต้องการมาก ราคาเกรดเอจะสูง หลังจากนั้นก็จะลดลงตามฤดูกาล
สำหรับข้อมูลทางวิชาการในการปลูกดาวเรืองที่แนะนำคือ วิธีการผลิต/การเขตกรรม
การเตรียมดิน
การเตรียมดินไถพรวนดิน ในสภาพดินเป็นกรด หว่านปูนขาว หรือโดโลไมท์ อัตรา 300–500 กิโลกรัม ต่อไร่ และใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 300–500 กิโลกรัม ต่อไร่ ยกแปลงสูง 50 เซนติเมตร กว้าง 1-1.2 เมตร หว่านปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 25-30 กิโลกรัม ต่อไร่ หรือ 0-46-0 อัตรา 35-50 กิโลกรัม ต่อไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วเกลี่ยปรับหน้าแปลงให้เรียบ รดน้ำ ควรเตรียมแปลงล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ก่อนปลูก
การเตรียมต้นพันธุ์
เลือกพันธุ์ตามวัตถุประสงค์การผลิต (ตัดดอก หรือเด็ดดอก) ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ เช่น พันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในฤดูร้อน หรือพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศหนาว เพาะเมล็ดดาวเรืองในตะกร้าเพาะ หรือถาดเพาะเมล็ด วัสดุเพาะชำ เช่น พีทมอส ขุยมะพร้าวผสมทราย อัตราส่วน 3 : 1 หรือขุยมะพร้าว : ทราย : ขี้เถ้าแกลบ : ปุ๋ยคอก อัตราส่วน 1 : 1 : 1 : 1 เมื่ออายุได้ 12-20 วัน แล้วนำต้นกล้าไปลงในแปลงปลูก
วิธีการปลูก
ระยะปลูก 30-40 เซนติเมตร คูณ 30-40 เซนติเมตร แปลงปลูกกว้าง 1-1.2 เมตร ปลูกได้ประมาณ 8,700 ต้น ต่อไร่ ก่อนย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูก ควรให้น้ำแปลงล่วงหน้า 1 วัน นำต้นกล้าที่เพาะไว้แล้ว อายุ 12-20 วัน หรือมีใบจริง 4-6 ใบ ย้ายปลูกลงแปลง ควรย้ายต้นกล้าในช่วงเย็น ให้วัสดุเพาะชำติดต้นกล้ามาด้วย รดน้ำทันทีหลังปลูก เพื่อเป็นการรักษาความชื้นในดิน ใช้ฟางคลุมแปลงจะช่วยลดการระเหยของน้ำได้ หลังปลูก 7-10 วัน หรือมีใบจริง จำนวน 3-4 คู่ ให้เด็ดยอดออกเพื่อให้แตกกิ่งข้าง เมื่อดาวเรืองมีอายุ 20-25 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15
การให้น้ำ
ช่วงย้ายปลูก ประมาณ 7 วัน ให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เมื่อต้นกล้าตั้งตัวได้ดี รดน้ำวันละครั้งในช่วงเช้า และในช่วงที่ดอกบาน ไม่ควรรดน้ำให้โดนดอก เพื่อป้องกันดอกเป็นโรค ดาวเรืองเป็นพืชที่ชอบการให้น้ำในลักษณะให้น้อยๆ แต่บ่อยครั้ง หรือชอบชื้นแต่ไม่ชอบแฉะ และน้ำท่วมขัง
คุณเกษสุดา กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ที่ตนเองปลูกจะได้ตามออเดอร์ที่สั่ง อยู่ที่หลักหมื่น-แสนดอก ทั้งรุ่นใช้เวลาตั้งแต่เริ่มปลูกจนได้เก็บครั้งแรก ประมาณ 2 เดือน และเก็บได้ประมาณ 20 กว่าครั้ง หรือที่ชาวสวนดาวเรืองเรียกว่า 20 มีด ซึ่งแต่ละมีดได้ดอก 50,000-100,000 ดอก ถ้ารวมรายได้ที่ปลูกก็จะประมาณ 1 แสนบาท ต่อรุ่นเก็บ ถือว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจ ต้นทุนไม่สูง เพราะไม่ใช้สารเคมี ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ทำเองต้นทุนต่ำ
ด้านตลาด
ดอกดาวเรือง เป็นพืชเศรษฐกิจ มีความต้องการของตลาดสูง ราคาไม่ตก ขายได้ตลอดทั้งปี เป็นพืชอายุสั้น ใช้เวลา 45 วัน ก็ตัดขายได้ และสามารถยืนต้นออกดอกให้ตัดได้นานประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นจึงตัดทิ้ง พักดิน ปรับปรุงดินแล้วปลูกรุ่นใหม่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2562