ฮอต หนังจระเข้-งู-ปลากระเบน ยอดส่งออก ปี’60 แตะ 6 หมื่นล้าน

ส่งออกเครื่องหนัง “จระเข้ ปลากระเบน งู” ไทยสุดฮอต คาดตัวเลข ปี 2560 แตะ 6 หมื่นล้าน เผยคู่แข่งสำคัญ “อินเดีย-เวียดนาม-จีน” แข่งเดือด ได้เปรียบต้นทุนหนัง-ค่าแรงต่ำ

ดร. พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปี 2559 อุตสาหกรรมเครื่องหนังสามารถสร้างมูลค่าได้กว่า 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 54,000 ล้านบาท มีตลาดที่สำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง โดยผู้บริโภคในประเทศดังกล่าวยังคงให้ความนิยมหนังสัตว์เลื้อยคลานของไทยโดยเฉพาะหนังจระเข้ หนังงู รวมถึงหนังปลากระเบน ซึ่งทั้ง 3 ชนิดนี้ สามารถผลิตเป็นสินค้าได้หลากหลาย ทั้ง เบาะรถ กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด โดยเฉพาะหนังจระเข้ในปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ เซนติเมตรละ 800 บาท รองลงมา ได้แก่ หนังปลากระเบน มีราคาอยู่ที่ เซนติเมตรละ 110 บาท และหนังงูทั่วไป มีราคาอยู่ที่ เซนติเมตรละ 20 บาท ดังนั้น ในปี 2560 ตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างมูลค่าได้ถึงระดับ 60,000 ล้านบาท

“ปีที่ผ่านมามี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด มูลค่าประมาณ 710 ล้านเหรียญสหรัฐ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับเดินทาง มูลค่าประมาณ 280 ล้านเหรียญสหรัฐ และกลุ่มผลิตภัณฑ์รองเท้าและชิ้นส่วน มูลค่าประมาณ 620 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีประเทศที่เป็นคู่แข่งสำคัญ ได้แก่ อินเดีย ที่มีความสามารถในการผลิตหนังได้ในปริมาณมาก เวียดนาม ได้เปรียบในด้านค่าแรงที่มีราคาต่ำกว่า และประเทศจีนที่เป็นคู่แข่งในเรื่องของราคาและการออกแบบ”

ในปี 2560 ถือเป็นอีกปีที่เชื่อว่าผลิตภัณฑ์เครื่องหนังจะมีการแข่งขันสูงมาก ทั้งจากในและต่างประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการที่ผลิตเครื่องหนังต้องปรับเปลี่ยนจากสินค้าในระดับล่างมาผลิตสินค้าในระดับกลางและสูงให้มากขึ้น โดยจะต้องพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย โดยอิงตามกระแสแฟชั่นและควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาด เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยเฉพาะการลดต้นทุนในส่วนที่ไม่ใช่ค่าจ้างแรงงาน การนำวัตถุดิบมาต่อยอดผลิตเป็นสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เดิม รวมถึงเร่งสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จัก แม้จะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน แต่หากยังรับจ้างผลิตจะประสบปัญหาในอนาคต

อย่างไรก็ดี กสอ. ได้จัดงาน “แฟนพันธุ์แท้เครื่องหนังไทย 2560” ขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2560 ณ ชั้น 1 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กระทรวงอุตสาหกรรม

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจ