กกพ. พร้อมปลดล็อกวินด์ฟาร์ม 11 รายได้เฮ-คาดสะพัดกว่า 7.2 หมื่นล.

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) สรุปผลการตรวจสอบการเช่าที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า 17 โครงการไม่ผิดกฎหมาย และมีการปฏิบัติตามสัญญาทำให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ประโยชน์ว่า กกพ. กำลังรอหนังสือยันยันจาก ส.ป.ก. อย่างเป็นทางการเรื่องการปลดล็อกการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ที่ก่อนหน้านี้ กกพ. ชะลอการออกใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการ 11 ราย จำนวน 700 เมกะวัตต์

นายสุเมธ สุทธภักดิ รองนายกสมาคมกังหันลมแห่งประเทศไทย และในฐานะรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หลังจากที่ ส.ป.ก. เห็นชอบเดินหน้าการใช้พื้นที่เพื่อดำเนินงานติดตั้งกังหันลม ถือเป็นเรื่องดีต่ออุตสาหกรรมกังหันลมในประเทศที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อไป
โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 11 บริษัท เงินลงทุน 72,000 ล้านบาท และยังมีเม็ดเงินที่จะไปช่วยเหลือให้กับเกษตรกรส่งผลต่อการสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม

นายสุเมธ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานลมให้เกิดความต่อเนื่อง เพราะตามแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (เออีดีพี) กำหนด ปี 2579 จะรับซื้อไฟจากพลังงานลม 3,002 เมกะวัตต์ แต่ขณะนี้มีการรับซื้อไฟฟ้า ประมาณ 1,800 เมกะวัตต์ โดยรัฐมองว่าปัจจุบันรับซื้อไฟไปค่อนข้างมากแล้ว จึงให้ความสำคัญกับพลังงานลมลำดับสุดท้าย ทำให้ปัจจุบันยังไม่มีแผนรับซื้อที่ชัดเจน แนวทางนี้จะทำให้อุตสาหกรรมพลังงานลมในประเทศไม่มีการพัฒนา เพราะการก่อสร้างจะใช้ระยะเวลาพัฒนา 4-5 ปี

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า ส.ป.ก. ใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ผลสรุปคือ ผู้ประกอบกิจการกังหันลมทั้ง 16 บริษัท 17 โครงการ ยังดำเนินการต่อได้ เพราะคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด กรณีของบริษัทเทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด นั้น ผูกพันเฉพาะคู่กรณี ในขณะที่ทั้ง 16 บริษัท ให้ประโยชน์กับเกษตรกรมากต่างจากเทพสถิตโดยสิ้นเชิง จากพื้นที่ใช้ประโยชน์ 580 ไร่ มีสัญญาเช่าดำเนินการ 22-27 ปี มีการจ่ายเงินให้เกษตรกร 19,819,000 บาท ต่อปี หรือ รวม 27 ปี ที่ 521 ล้านบาท

“สรุปแล้วเกษตรกรได้รับผลประโยชน์จากวินด์ฟาร์มมากหลายแสนบาทต่อปี เงินเหล่านี้ใช้ส่งบุตรหลานเรียนหนังสือ บางรายระบุว่าอนาคตการศึกษาจะขึ้นอยู่กับวินด์ฟาร์มนี้ ซึ่งมากกว่าเมื่อเทียบกับรายได้จากภาคการเกษตรที่เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกมันสำปะหลัง เงินที่ได้มายังสามารถนำไปต่อยอดการลงทุนภาคการเกษตรได้ด้วย” นายสมปอง กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน