ลำไส้ดี ชีวีมีสุข

ธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ ระบบทางเดินอาหารมีหน้าที่เปลี่ยนแปลงอาหารให้เป็นพลังงาน ทำให้เรามีกำลังในการดำรงชีวิต ซึ่งต้องผ่านทั้งกระบวนการตั้งแต่การเคี้ยว กลืน ดูดซึม และขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ไม่ว่าขั้นตอนใดก็ตาม จะทำให้คนเราเจ็บป่วยได้

การขับถ่ายเป็นขั้นตอนต่อเนื่องจากระบบการย่อย พวกกากอาหารจะเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ ลำไส้ใหญ่ส่วนต้นจะดูดน้ำและเกลือแร่ที่เหลืออยู่ออก เมื่อกากอาหารมารวมกันมากพอจะมีผลกระตุ้นให้เราขับถ่ายต่อไป

การขับถ่ายอุจจาระที่น้อยกว่า 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะมีลักษณะของก้อนอุจจาระที่แข็งและขับถ่ายออกมาได้ยาก ต้องออกแรงเบ่ง ใช้เวลานานในการถ่ายอุจจาระ อาการดังกล่าวเรียกว่า อาการท้องผูก หากเป็นเรื้อรัง ก็อาจนำไปสู่โรคริดสีดวงทวารได้ เนื่องจากการเบ่งอุจจาระและก้อนอุจจาระที่แข็งหรืออาจจะก่อให้เกิดโรคลำไส้อุดตันได้

สมุนไพรที่นิยมใช้เป็นยาระบาย มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งก็มีกลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกันไป สมุนไพรที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ก็จะเป็นกลุ่มที่มีกลไกกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ (Stimulant laxative herbs) ทำให้เกิดการขับถ่ายออกมา

จากคำบอกเล่าของเจ้าขุนแหลง หมอยาชาวไทยใหญ่ประจำเมืองขอนว่า เพียงแค่แกะฝักคูนเอาเนื้อในสีดำที่เป็นแผ่นๆ มากิน 4-5 ชิ้น แล้วกินน้ำตาม แค่นี้ก็ช่วยให้ถ่ายสบายท้องแล้ว โดยภายหลังมีงานวิจัยเกี่ยวกับฝักคูนว่าสารสกัดจากฝักมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ซึ่งคนไทยนิยมใช้เนื้อในฝักคูนเป็นยาระบาย ซึ่งการใช้งานตามสาธารณสุขมูลฐานนั้นได้แนะนำให้ใช้เนื้อในฝักหรือเนื้อหุ้มเมล็ดขนาดเท่าหัวแม่มือ (4 กรัม) มาต้มกับน้ำที่เติมเกลือเล็กน้อย และให้ดื่มก่อนนอน

 

สำหรับยาระบายน้ำฝักคูนของอภัยภูเบศร จะมีการเพิ่มมะขามป้อม สมอพิเภก สมอไทย เข้าไปในตำรับ เพื่อช่วยปรับการบีบตัวของลำไส้ โดยแนะนำให้กินเวลามีอาการท้องผูกครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนเข้านอน ก็จะช่วยทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้นในเช้าวันถัดมา

อย่างไรก็ตาม หากเริ่มมีอาการท้องผูก เพียงแต่กินอาหารที่มีกากใยเพิ่มขึ้น ประเภทผัก ผลไม้ ผักดอง ซึ่งจะช่วยเสริมไปรไบโอติกช่วยในการขับถ่ายได้ หากต้องการกินยาระบายก็ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ เนื่องจากลำไส้ใหญ่จะชินต่อยา เมื่อหยุดยา ลำไส้จะไม่บีบตัวหรือบีบตัวได้น้อยลง

ยาระบายน้ำฝักคูนของอภัยภูเบศร

ขอบคุณข้อมูลจาก ภก.ณัฐดนัย มุสิกวงศ์ คอลัมน์พืชใกล้ตัว อภัยภูเบศรสาร ปีที่ 15 ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561

ตรีผลา ตำรับยาในพุทธกาล
อยู่มายาวนานมากกว่า 2,000 ปี

ตรีผลา เป็นพิกัดยาหนึ่งของไทย ตรี แปลว่า สาม ผลา แปลว่า ผลไม้ ตรีผลา จึงหมายถึง ผลไม้ 3 อย่าง ประกอบด้วย สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ตรีผลามีข้อบ่งใช้บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ชนิดชง กินครั้งละ 1-2 กรัม ชงน้ำร้อนประมาณ 120-200 มิลลิลิตร ทิ้งไว้ 3-5 นาที ดื่มในขณะที่ยังอุ่น เมื่อมีอาการไอทุก 4 ชั่วโมง ชนิดแคปซูล ชนิดเม็ด และชนิดลูกกลอน กินครั้งละ 300-600 มิลลิกรัม เมื่อมีอาการไอวันละ 3-4 ครั้ง

นอกจากจะปรากฏการใช้ในตำรายาไทยแล้ว ตรีผลายังถูกใช้เป็นยามานานกว่า 1,000 ปี ในการแพทย์แผนโบราณของอินเดีย หรือที่เรียกว่า อายุรเวท โดยถือว่าเป็นตำรับยาอายุวัฒนะ กินแล้วอายุจะยืนยาวและสดใสจนถึงกับมีการกล่าวถึงในตำราเล่มหนึ่งของอินเดียว่า หากกินตรีผลาทุกวันพร้อมกับน้ำผึ้งและเนยใส (ghee) จะมีอายุยืนยาวถึง 100 ปี โดยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและความเสื่อมชรา นอกจากนี้ ยังช่วยเยียวยาบาดแผลให้หายเร็วขึ้นอีกด้วย

สุขภาพดีเริ่มต้นที่ลำไส้ ตรีผลาถือได้ว่าเป็นตำรับยาที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ได้อย่างครอบคลุม ทั้งด้านส่งเสริมประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร การดูดซึม การขับถ่าย และการฟื้นฟูสมดุลลำไส้ ตรีผลามีรสทางยาครบทั้งหวาน เปรี้ยว ฉุน ขม ฝาด จึงเป็นยาที่ใช้ได้ในทุกเพศ ทุกวัย และทุกบุคลิกลักษณะ ไม่ว่าบุคคลนั้น จะมีปิตตะ วาตะ หรือเสมหะเด่นเป็นเจ้าเรือน

การศึกษาวิจัยพบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายด้าน ตั้งแต่ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ดักจับอนุมูลอิสระ ปรับภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ ลดการหลั่งกรดที่มากเกิน ฤทธิ์ปกป้องตับ ลดน้ำตาลในเลือด ป้องกันฟันผุ (ยาใช้ภายนอกเป็นน้ำยาบ้วนปาก) แก้ปวด แก้ไข้ ต้านเชื้อแบคทีเรีย สมานแผล ต้านความเครียด ต้านมะเร็ง ต้านการกลายพันธุ์ เป็นสารปรับสมดุลในร่างกาย สารป้องกันมะเร็ง ป้องกันรังสี ลดไขมันในเลือด เพิ่มการไหลเวียนเลือด ป้องกันไม่ให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมถอยลง ทำให้ต่อมไร้ท่อ ระบบฮอร์โมนทำงานสมดุล เพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบิน

ขอบคุณข้อมูลจาก ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ คอลัมน์คนงามเพราะแต่ง อภัยภูเบศรสาร ปีที่ 16 ประจำเดือนกันยายน 2561


งาน Healthcare 2020 จัดระหว่าง วันที่ 3-6 กันยายน 63 ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 10.00 – 20.00 น. นอกจากมี ตรวจสุขภาพฟรี จากกว่า 10 โรงพยาบาลชั้นนำแล้ว ยังมีเวิร์กช็อปชุบชูสุขภาพใจฟรี ถึง 7 คอร์ส  โดย 7 วิทยากร ผู้อยู่ในแวดวงงานศิลปะ คราฟท์ และจิตวิญญาณ ช่วยเยียวยาจิตใจ ผ่อนคลาย และสร้างแรงบันดาลใจ เดินทางสะดวก โดยทางด่วน และ MRT ลงสถานีสามย่าน ทางออกที่ 2 Workshop ดี มีให้เรียนฟรีทุกวัน

พิเศษ! Workshop ดี ร่วมเรียนฟรีทุกวัน คลิกลงทะเบียนเรียนที่นี่ (รับจำนวนจำกัด)

รับต้นไม้ฟรี! (ของมีจำนวนจำกัด) เมื่อลงทะเบียนเข้างาน คลิกลงทะเบียนเข้างานที่นี่