ที่มา | เทคโนโลยีการประมง |
---|---|
ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
เผยแพร่ |
ในธรรมชาติ ปัจจุบันสัตว์น้ำหลายชนิดกำลังเหลือน้อย หรือใกล้จะหมดไปในธรรมชาติ เช่น ปูนา หอยขม หอยโข่ง เพราะเกิดจากสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้การขยายพันธุ์ของสัตว์เหล่านี้มีจำนวนไม่มากพอ นอกจากนี้ หอยปัง เป็นอีกหนึ่งสัตว์น้ำที่กำลังมีจำนวนน้อยในธรรมชาติ ที่หามาบริโภคได้ไม่มากต่อความต้องการ เพราะหอยปัง สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง จึงมีผู้ที่สนใจเริ่มนำจากธรรมชาติมาเลี้ยงโดยใช้วิธีการเลี้ยงแบบง่ายๆ เพื่อให้ได้ผลผลิต สร้างเป็นอาชีพเสริม
คุณแข็งแรง ทองออน อยู่หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นผู้ที่เห็นความสำคัญของการลดน้อยลงของหอยปังในธรรมชาติ จึงได้นำหอยปังมาเลี้ยงในตาข่ายในคลองของตัวเอง เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและจับขายได้อย่างสะดวก ซึ่งปัจจุบันหอยปังค่อนข้างที่จะมีราคา และมีความต้องการของผู้บริโภคอยู่ไม่น้อยทีเดียว
คุณแข็งแรง เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบัน เป็นผู้ใหญ่บ้าน และได้มีโอกาสเดินทาง และเห็นว่าการเลี้ยงหอยปัง หอยขม สามารถทำรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้ไม่น้อยทีเดียว เพราะสามารถขายได้ราคาตั้งแต่ 80-100 บาท ต่อกิโลกรัม จึงทำให้เขาเกิดความคิดที่อยากจะเลี้ยงในพื้นที่บ่อที่ว่างของตัวเอง ซึ่งการเลี้ยงการเก็บจำหน่ายต้องไม่ผ่านการลงไปในน้ำให้เกิดความยุ่งยาก แต่ต้องสะดวกและง่ายต่อการจัดการ
“พอเราได้เห็นการเลี้ยงของที่อื่นๆ จากสื่อโซเชียลมีเดียบ้าง จากการได้เดินทางไปเจอบ้าง ก็เกิดความสนใจว่าน่าจะเลี้ยงได้ เพราะในเรื่องของการทำตลาดสามารถทำได้ดี ในช่วงแรกๆ ไม่รู้ว่าจะต้องซื้อสายพันธุ์ที่ไหนมาเลี้ยง เลยเอาจากธรรมชาติก่อนช่วงแรก จากนั้นก็มาคิดว่าจะทำแบบไหนที่จะทำให้เราสะดวก ง่ายต่อการจัดการ เพราะถ้าหอยโตแล้วต้องลงไปเก็บขึ้นมาจากน้ำน่าจะเสียเวลา เลยเกิดความความคิดว่าเราน่าจะเลี้ยงในตาข่าย เพราะเราสามารถยกขึ้นมาดูตัวหอยได้ และเมื่อโตเต็มที่สามารถจำหน่ายได้ง่ายขึ้น” คุณแข็งแรง บอก
ในการเลี้ยงหอยปังและหอยขมในตาข่ายภายในบ่อน้ำนั้น คุณแข็งแรง บอกว่า ในช่วงแรก นำหอยจากธรรมชาติที่หาได้มาใส่เลี้ยงในตาข่ายในบ่อขนาด กว้าง 3×10 เมตร จำนวน 500 ตัว เมื่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ หอยออกลูกออกหลานได้จำนวนมาก จึงจับย้ายมาเลี้ยงอยู่ในตาข่าย เย็บให้มีขนาดที่เล็กลง ขนาดประมาณ 30×50 เซนติเมตร หรือถ้าต้องการให้มีขนาดที่ใหญ่กว่านี้ก็สามารถทำได้ จากนั้นใส่หอยปัง หรือหอยขม ที่มีลงไปในตาข่ายตามความเหมาะสม
ในระหว่างที่เลี้ยงก็จะปล่อยให้หอยอยู่เองในบ่อน้ำตามธรรมชาติ บางช่วงก็จะหาเศษหญ้า เศษผัก เข้ามาใส่ให้หอยในบ่อกินบ้าง โดยในบ่อน้ำเป็นบ่อที่ค่อนข้างสะอาด หอยที่เลี้ยงก็จะโตได้ดี ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 6 เดือน หอยในถุงตาข่ายทั้งหมดก็จะโตได้ใซซ์ขนาดที่จำหน่ายได้
สำหรับในเรื่องของการป้องกันโรคของหอยที่เลี้ยงในตาข่าย ถ้าน้ำในบ่อมีความสะอาดจะไม่มีโรคมาทำให้หอยเกิดโรคและตาย แต่เมื่อเห็นว่าน้ำในบ่อเริ่มมีสี หรือจะเน่าเสีย ก็จะนำน้ำใหม่เข้ามาภายในบ่อ เพื่อให้หอยได้น้ำที่ใหม่และมีการเจริญเติบโตที่ดี
โดยการทำตลาดสำหรับจำหน่ายหอยปังและหอยขมนั้น คุณแข็งแรง บอกว่า ถ้าต้องการจำหน่ายส่งให้กับร้านอาหาร กะเลี้ยงให้มีอายุ 6 เดือน ก็สามารถจำหน่ายได้ทันที แต่ถ้าต้องการจำหน่ายเป็นพ่อแม่พันธุ์ก็จะใช้เวลาเลี้ยงให้มีอายุอยู่ที่ 10 เดือนขึ้นไป
“หอยปังหอยขมก็ถือว่าเป็นสัตว์น้ำที่เลี้ยงง่าย ขอให้น้ำเราไม่เน่าเสียหรือไม่มีการระบายออกเลย โดยตลาดเราก็สามารถขายได้ทั้งเป็นพ่อแม่พันธุ์ และส่งร้านอาหารที่เขาต้องการ อย่างเช่น ร้านส้มตำ เพราะพื้นที่นี้ลูกค้านิยมบริโภค ราคาขายตอนนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 80-100 บาท เพราะฉะนั้นก็ถือว่าถ้าเราจะเลี้ยงก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ค่อนข้างสร้างรายได้ ทำเป็นอาชีพเสริมที่ดี” คุณแข็งแรง บอก
สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการเลี้ยงหอยปัง หอยขม ในตาข่าย ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณแข็งแรง ทองออน หมายเลขโทรศัพท์ (063) 023-2866
เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อวันพฤหัสที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2564