สวนสัตว์เชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เปิดตัวนกแขวก อพยพมาอาศัยและขยายพันธุ์ในแหล่งสงบเงียบ มีอาหารธรรมชาติเพียบ

สวนสัตว์เชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เปิดตัวนกแขวก อพยพมาอาศัยและขยายพันธุ์ในแหล่งสงบเงียบ มีอาหารธรรมชาติเพียบ พร้อมสักการะวัดกู่ดินขาว วัดโบราณก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่

คุณนิพนธิ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสวนสัตว์เชียงใหม่มีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในด้านสัตว์ที่มีอยู่หลากหลายและเพิ่มจำนวนมากขึ้น การบริการและการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว การให้บริการวิชาการความรู้แก่เยาวชน การเข้าค่ายเยาวชน ฯลฯ

นอกจากนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมสัตว์ต่าง ๆ แล้ว ขณะนี้สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้มีนกแขวกอพยพเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก เนื่องจากภายในสวนสัตว์มีต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่น มีแหล่งอาหารและแหล่งน้ำที่เหมาะสม นกแขวกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติปี 2535 เป็นนกที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเซีย จะออกหากินในเวลากลางคืน กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ลูกกบ ลูกเขียด ลูกปลา แมลงต่าง ๆ ในเวลากลางวันจะพักผ่อนบนต้นไม้ที่ร่มรื่น อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ๆ จะผสมพันธุ์ในช่วงฤดูฝนต่อเนื่องถึงฤดูหนาว ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะคล้ายคลึงกัน บนหัวและขนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ปีกและหางสีเทา บริเวณหน้าผากใต้คอ ท้องและใต้หางสีขาว ขณะนี้ได้อาศัยและวางไข่ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่มากกว่า 200 รัง

ป่าไม้ร่มรื่นหมาะสมกับการขยายพันธุ์นกแขวก
รังนกแขวกที่มีมากกว่า 200 รัง

จุดท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งคือ วัดกู่ดินขาว เป็นโบราณสถานภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ มีความสัมพันธ์กับเวียงเจ็ดลิน ตามประวัติล้านนากล่าวไว้ว่า เป็นการตั้งถิ่นฐานชุมชนในระยะก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่และเมืองหริภุญไชย ราวพุธศตวรรษที่ 13 (พ.ศ.1201-1300) และมีการพัฒนาสืบเนื่องในระยะหลังเรื่อยมา วัดกู่ขาวจัดเป็นวัดเดียวของเวียงเจ็ดลินที่ยังคงหลงเหลือหลักฐาน การก่อสร้างค่อนข้างสมบูรณ์ ตั้งอยู่นอกกำแพงเวียงเจ็ดลินทางทิศใต้ กลุ่มโบราณสถานของวัดกู่ดินขาวประกอบด้วย เจดีย์รายประธาน เจดีย์แปดเหลี่ยม และกำแพงแก้วเขตพุทธวาส ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีและวิศวกรรมในการก่อสร้างในสมัยนั้น ใช้อิฐก้อนใหญ่ ๆ เผาด้วยความร้อนสูงไม่ต่ำกว่า 3,000 องศาขึ้นไป ทำให้เกิดก้อนอิฐที่มีความแข็งแกร่ง สามารถรับน้ำหนักองค์เจดีย์ประธาน ซึ่งไม่เคยพบก้อนอิฐโบราณที่ใหญ่ขนาดนี้ ระหว่างการบูรณะวัดกู่ดินขาวของสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เชียงใหม่ ได้พบชิ้นส่วนเป็นหลักฐานที่บริเวณนี้ เช่น ด้านหน้าส่วนพระอุระพระพุทธรูปปูนปั้น ขมวดพระเกษาพระพุทธรูปดินเผามีรอยการลงรักปิดทอง ชิ้นส่วนแผ่นรักทาสีแดงชาดหรือการปิดทองคำเปลว ตะปูที่มีสนิมเกาะเป็นเวลานาน พระพิมพ์ดินเผาแบบหริภุญไชย ชิ้นส่วนภาชนะดินเผาเนื้อเครื่องเงินสีออกเทาไม่เคลือบและเนื้อเครื่องดินสีออกส้ม ผางประทีปดินเผา ชิ้นส่วนภาชนะดินเผาทรงชาม เนื้อแกร่ง ตกแต่งลายเขียนสีออกดำ สีเขียวขุ่น แหล่งเตาเผาบ้านป่ายาง-เกาะน้อย เมืองศรีสัชนาลัย ชิ้นส่วนบัวปูนบั้น สัณนิษฐานว่าเป็นบัวปูนปั้นในส่วนฐานชุกชีพระประธาน ชิ้นส่วภาชนะดินเผาเครื่องหินตกแต่งลายขูดขีดเป็นเส้นบริเวณไหล่ อิฐของดั้งเดิมที่ใช้ก่อสร้างวิหาร อิฐที่ใช้ก่อสร้างวงโค้งของซุ้มมณฑปพระประธาน

พระธาตุแปดเหลี่ยม
ก้อนอิฐโบราณขนาดใหญ่จากภูมิปัญญาดั้งเดิม

ขณะนี้สวนสัตว์เชียงใหม่ มอบหมายให้คุณวิทยา สิงห์คำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ทำการตกแต่งสถานที่ จัดภูมิทัศน์ให้เหมาะสมสวยงามแก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ พร้อมทั้งประสานงานกับคุณนพดล จริภักดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ ชมรมนักท่องเที่ยว ชมรมมัคคุเทศก์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ให้การส่งเสริมและสนับสนุนในโอกาสต่อไป