สวนประภาพรอินทผลัม หนองบัวลำภู ปลูกอินทผลัมอย่างไร ให้หวาน กรอบ อร่อย

ซากหอยหินดึกดำบรรพ์ หรือฟอสซิลหอยกาบคู่อายุประมาณ 150 ล้านปี ที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2537 และฟอสซิลไดโนเสาร์ อยู่ติดถนนหนองบัวลำภู-อุดรธานี ได้ถูกสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์หอยหิน 150 ล้านปี และอุทยานไดโนปาร์ค ได้กลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

ท่านที่เคารพ ห่างจากพิพิธภัณฑ์หอยหิน 150 ล้านปี และอุทยานไดโนปาร์ค มีสวนประภาพรอินทผลัม ที่ ผลิตอินทผลัมได้รสหวาน กรอบ อร่อยมากๆ อยู่บ้านเลขที่ 215 หมู่ที่ 8 บ้านหนองบัวเหนือ ตำบลโนนทัน อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู โดย คุณประภาพร สุนารัตน์ หรือ คุณจอย วัย 49 ปี เป็นเจ้าของสวน โทรศัพท์ 061-969-9896

สวนประภาพรอินทผลัม

ความเป็นมา และแนวคิดในการปลูกอินทผลัม

คุณประภาพร ให้ข้อมูลว่า พื้นเพเดิมเป็นคนที่นี่โดยกำเนิด แต่ไปอยู่ประเทศอังกฤษ ประมาณ 25 ปี ระหว่างนี้ก็ไปๆ มาๆ ปีละ 3 รอบ เป็นคนที่สนใจการเกษตร จึงตัดสินใจทำการเกษตรบนพื้นที่ 2 แปลง รวมประมาณ 26 ไร่ 3 งาน โดยได้ปลูกอินทผลัมและทำไร่นาสวนผสมด้วย

มีแนวคิดอยากทำการเกษตรอินทรีย์เพื่อสุขภาพของตนเองและของผู้บริโภค หรือหากผลิตยังไม่ถึงขั้นอินทรีย์ก็ขอให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย เพราะว่าเรายังจำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีอยู่บ้างบางตัว นอกจากนี้ การตัดสินใจปลูกอินทผลัมก็เนื่องจากว่าปลูกครั้งเดียวแต่สามารถให้ผลผลิตต่อเนื่องได้นานหลายสิบปี 

คุณประภาพร กับสภาพสวน

เทคนิคการปลูก การดูแลรักษา

ปัจจุบัน ได้ปลูกอินทผลัม ประมาณ 5 ไร่ จำนวน 200 ต้น เป็นต้นตัวเมีย ประมาณ 160 ต้น ขณะนี้อายุ 3 ปี ให้ผลผลิตในปีแรก ประมาณ 100 ต้น โดยพันธุ์ที่ปลูก ได้แก่ พันธุ์บาฮีเหลือง พันธุ์บาฮีแดง พันธุ์โคไนซี่ พันธุ์ฟูเดลี่ ซึ่งเป็นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อทั้งหมด ซื้อมาในราคาต้นละ 4,000 บาท ต้นสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร

การเตรียมดิน

ใช้ระยะปลูก 7×8 เมตร ขุดหลุมขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ลึก 1 เมตร โดยผสมมูลไก่ไข่ผสมแกลบ มูลวัวและปุ๋ยมูลค้างคาว ที่ผ่านการตากแห้งแล้ว อย่างละครึ่งกระสอบปุ๋ย คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วก็นำต้นพันธุ์ลงปลูก

ผู้เขียน (เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู) พร้อมด้วย คุณชัยรัตน์ ยอดทับ เกษตรอำเภอเมืองหนองบัวลำภู เยี่ยมชม

การดูแลรักษา

หลังปลูก 3 เดือน ให้ใส่ปุ๋ยมูลค้างคาว 1 ช้อน ห่างจากคนประมาณ 1 คืบ แล้วฉีดพ่นด้วยฮอร์โมนเดือนละ 1 ครั้ง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์ อัตรา 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 20 ลิตร

– เมื่ออายุ 1 ปี ฉีดพ่นฮอร์โมนเดือนละ 3 ครั้ง ทุก 10 วัน และใส่ปุ๋ยอินทรีย์ปีละ 2 ครั้ง คือ มูลไก่ไข่ มูลวัว และมูลค้างคาว อย่างละครึ่งกระสอบปุ๋ย และเมื่อต้นโตใส่ต้นละประมาณ 1-2 กระสอบปุ๋ย

– ปีที่ 2 คืออายุประมาณ 2 ปีเศษๆ ต้นที่สมบูรณ์จะเริ่มออกจั่น (ออกดอก) บ้างเป็นบางต้น ให้เหลือไว้ 1-2 จั่น ต่อต้น นอกนั้นตัดทิ้งให้หมด เมื่ออายุครบ 3 ปี จะให้ผลผลิตแทบทุกต้น

– ในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงเตรียมต้นให้พร้อมสำหรับการออกดอก ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 อัตราต้นละครึ่งกิโลกรัม หรือประมาณ 1 ถ้วย โรยรอบหลุมภายในทรงพุ่มแล้วใช้ดินกลบรดน้ำ หรือเปิดน้ำใส่ ให้น้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ส่วนฤดูฝนหากมีความชื้นอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องให้น้ำ

การออกจั่น (ดอกตัวเมีย)

– ระยะออกดอก ให้บำรุงทางใบด้วยฮอร์โมนของแอมเวย์ เดือนละ 3 ครั้ง

– หลังจากแทงจั่น หรือออกดอก ประมาณ 5-6 สัปดาห์ ดอกตัวเมียจะเริ่มบานให้นำเกสรตัวผู้มาเคาะใส่ นำกระดาษห่อป้องกันลมพัด ละอองเกสรตัวผู้นี้ห่อไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เอาออก

– การตัดแต่งผลและตัดแต่งทะลาย โดยตัดแต่งทะลายออกให้พอดี ไม่เบียดกัน ผลจะได้โตโดยตัดแต่งในระยะผลขนาดเท่ามะเขือพวง แล้วห่อด้วยถุงกระดาษเพื่อให้ผลสวยและป้องกันแมลงศัตรูมาทำลาย (หลังผสมเกสร 50-60 วัน) พร้อมกับใส่ปุ๋ยมูลค้างคาว ต้นละ 1 ถ้วย

– หลังจากผสมเกสร 150-160 วัน ผลจะเริ่มแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองพร้อมรับประทาน หรือจำหน่ายได้

นอกจากนี้ การดูแลอื่นๆ เช่น กำจัดวัชพืช ให้น้ำสม่ำเสมอ เช่น ที่สวนจะเจาะบ่อบาดาล 2 บ่อ เพื่อดึงน้ำลงสระ จากนั้นสูบน้ำจากสระมารดต้นพืชอีกครั้งหนึ่ง

ระยะติดผลอ่อน

ด้านการตลาด ขณะนี้ขายผลผลิตในราคากิโลกรัมละ 400-500 บาท โดยขายที่สวน มีผู้บริโภคมารับซื้อที่สวน ออกขายตามงานต่างๆ ในจังหวัด และขายออนไลน์ โดยปีนี้ซึ่งเป็นปีแรกของการให้ผลผลิตคาดว่าจะได้ผลผลิตประมาณ 2 ตัน ส่วนในปีต่อไปผลผลิตจะเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละประมาณ 3-4 เท่า นอกจากนี้ ยังมีต้นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจำหน่ายให้ท่านที่สนใจอีกด้วย ราคาต่อรองกันได้

คุณประภาพร บอกอีกว่า ภายในฟาร์มยังทำการเกษตรหลายอย่างในรูปแบบไร่นาสวนผสมด้วย ได้แก่

ขุดสระน้ำ 2 บ่อ พื้นที่ 4 ไร่ เลี้ยงปลา ปลูกสะละ 200 ต้น ไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง 200 กอ ไผ่กิมซุ่ง 50 กอ มะพร้าวน้ำหอม 70 ต้น เพกา 30 ต้น

ระยะผลแก่พร้อมรับประทาน

ท่านที่เคารพ จะเห็นว่าสวนประภาพรอินทผลัม ได้ใช้เทคนิคการปลูก การดูแลรักษา ที่ส่งผลให้ผลผลิตรสหวาน กรอบ อร่อยมากๆ พร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์กับทุกท่าน และยังเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยดีพร้อมต้อนรับทุกท่านที่มาเยือน ประกอบกับสวนประภาพรอินทผลัมแห่งนี้อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดหนองบัวลำภู หลายแห่ง ได้แก่ ห่างจากพิพิธภัณฑ์หอยหิน 150 ล้านปี และอุทยานไดโนปาร์ค 2 กิโลเมตร ตลาดห้วยเดื่อ (มีของป่ามากมาย) 2 กิโลเมตร วัดถ้ำกลองเพล (หลวงปู่ขาวอนาลโย) 2 กิโลเมตร

ดังนั้น หากท่านใดสนใจข้อมูลการปลูกอินทผลัมและเยี่ยมชมสวน ติดต่อที่โทรศัพท์ 061-969-9896 นอกจากจะได้เที่ยวชมสวน รับประทานผลไม้จากสวนแล้วยังได้ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

ต้นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพร้อมจำหน่าย
นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมสวน
(จากซ้ายไปขวา) รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดหนองบัวลำภู คุณสวลี ศรีสกุลวงษ์ ปลัด อบต.โนนทัน นางสาวทัศณีญ์ ชมภูวิเศษ พาณิชย์จังหวัด นายวีระพงษ์ สืบค้า คุณประภาพร (เจ้าของสวน) เกษตรจังหวัด นายอำพน ศิริคำ เกษตรอำเภอเมือง นายชัยรัตน์ ยอดทัพ และนักท่องเที่ยวเยี่ยมชม