“รมว.แรงงาน” เยี่ยมชมงาน “เกษตรมหัศจรรย์และวันเส้นทางเศรษฐี” พร้อมย้ำ! ส่งเสริม-รักษาการจ้างงานเอสเอ็มอี

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่มติชนอคาเดมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอรเทพ อินทรสกุล รองอธิบดีกรมการจัดหางาน นางดรุณี นิธิทวีกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นางเจริญพิศ เอกอุรุ ผู้ตรวจราชการกรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรืออากาศเอกหญิง ศุภพร อยู่วัฒนา ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาร่วมงาน “เกษตรมหัศจรรย์และวันเส้นทางเศรษฐี” พร้อมชมโซน “มหัศจรรย์พรรณไม้” ที่จัดแสดงไม้ด่างหายาก มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยมีผู้บริหาร บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นำโดย นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ นางสาวปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ ร่วมด้วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ มติชนสุดสัปดาห์ เทคโนโลยีชาวบ้าน เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฯลฯ ให้การต้อนรับ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

รมว.สุชาติ กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ปลุกพลัง สร้างทางรอด SMEs” ซึ่งถ่ายทอดในรูปแบบไลฟ์ สตรีมมิ่ง ผ่านเฟซบุ๊กเครือมติชนว่า ขอบคุณเครือมติชนที่จัดกิจกรรมมีประโยชน์ และทำให้พี่น้องประชาชนในธุรกิจเอสเอ็มอีมีพลังใจและมีพลังที่จะต่อสู้ ธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นธุรกิจที่มีคุณค่าและเป็นฐานรากของประเทศไทยอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะประเทศไทย แต่ทั่วโลกด้วย ธุรกิจจะเติบโตเป็นรายใหญ่ได้ก็ต้องเติบโตจากเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพในหลายประเทศก็เติบโตจากเอสเอ็มอี ซึ่งนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างมาก จำนวนผู้ใช้แรงงานในธุรกิจเอสเอ็มอีต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อที่การแก้ปัญหาของรัฐบาลในการประคับประคองและช่วยเหลือเอสเอ็มอี จะได้เป็นข้อมูลที่จับต้องได้และเสถียรที่สุด 

รมว.แรงงาน กล่าวว่า จำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมีราว 11 ล้านคน จำนวนนี้เป็นต่างด้าวราว 1 ล้านคน นอกนั้นเป็นคนไทย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีเอสเอ็มอี 5.6 ล้านคน ในมาตรา 33 มี 490,000 กว่ากิจการ เป็นเอสเอ็มอี 390,000 กว่ากิจการ ดังนั้นในการจ้างงานเท่ากับว่า 80% เป็นเอส เอ็มอี ส่วนฝั่งลูกจ้างครึ่งหนึ่งคือเอสเอ็มอี ซึ่งช่วงที่คนออกจากงานเดือนละ 100,000-200,000 คน ส่วนมากเป็นเอสเอ็มอีที่ออก เพราะความแข็งแรงทางการเงินยังไม่เพียงพอที่จะรับกับพายุในปี 2563 ได้ แต่หลังจากที่นายกฯ ได้แก้ปัญหาและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด สถานการณ์ก็คลี่คลาย มีโครงการเราชนะ มีคนละครึ่ง มีการจ้างงานเอสเอ็มอีสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องประคับประคองเอสเอ็มอีให้อยู่รอด เลยเสนอโครงการเยียวยาเพื่อช่วยกันประคับประคองให้พ้นวิกฤต เพราะคำนึงแล้วว่าเอสเอ็มอีล้มไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้มีคนออกจากงานเป็นหลักล้าน 

“รัฐบาลมีความจริงใจและมีความคิดช่วยเหลือเอสเอ็มอี ล่าสุดนโยบายกระทรวงแรงงาน ผมได้ทำโครงการเสนอนายกฯ ผ่าน ครม. แล้ว คือ โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี ประคับประคองเอสเอ็มอีให้อยู่รอดปลอดภัยใน 3 เดือนนี้ ถ้ายังไม่ดีพอเราขยับต่อได้ โดยช่วยเหลือเอส เอ็มอีที่มีลูกจ้างจำนวน 200 คนลงมา โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนให้นายจ้างเพื่อรักษาการจ้างงานในอัตรา 3,000 บาท ต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564-มกราคม 2565 ซึ่งนายจ้างต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ระหว่างเข้าร่วมโครงการ พี่น้องเอสเอ็มอีเจอผมอาจบอกว่าน่าจะช่วยลูกจ้างอีก แต่ผมบอกว่าการช่วยนายจ้างก็มีผลส่งถึงลูกจ้างด้วย นี่คือนโยบายล่าสุดที่เราทำอยู่ เราคาดหวังว่าจะทำให้เอสเอ็มอีมีความแข็งแรง” รมว.แรงงาน เผย

รมว.สุชาติ กล่าวอีกว่า เอสเอ็มอีก็เหมือนต้นไม้เล็ก เราปลูกจากเมล็ดได้ กว่าจะเติบโตต้องใช้เวลา แต่เติบโตแล้วแข็งแรง แต่ถ้าตัดตอนจากกิ่ง อาจโตเร็ว แต่สู้ความแข็งแรงของต้นไม้ที่โตจากรากไม่ได้ วันนี้  เอสเอ็มอีล้มหายตายจากมีแน่นอน แต่ถ้าผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เพราะถือว่าสู้กับวิกฤตของโลก จะมีความแข็งแรงและเข้มแข็ง 

“ผมได้ให้นโยบายแก่ปลัดกระทรวงแรงงานให้ช่วยเหลือเอสเอ็มอีทุกมิติ เช่น เงินทุน เราไม่มีแหล่งทุน แต่เราสามารถพาเขาไปหาสถาบันการเงิน สอนเขาทำบัญชี สอนการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตอนนี้ผมให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานไปเข้าตามวิสาหกิจชุมชน สำรวจว่าจังหวัดนั้นๆ มีวัตถุดิบอะไรเยอะสุด เช่น สุพรรณบุรีมีข้าว ก็เอาข้าวมาแปรรูป ให้เขาเป็นวิสาหกิจชุมชนที่แข็งแรง สามารถเติบโตเป็นคอร์เปอเรทรายใหญ่ได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องสร้าง ฝากเรียนข้าราชการไปแล้วว่าต้องใส่ใจ เราอยู่กระทรวงแรงงาน แต่เราไปคุยกับคนอื่นได้ ผมเรียนนายกฯ และท่านมีดำริตลอดว่า เอสเอ็มอีคือการจ้างงานที่สามารถเติบโต ถ้าเขาไม่แข็งแรง เขาอาจลดลงเหลือ 3 ล้านคนก็ได้ อยู่ที่เราใส่ใจ” รมว.แรงงาน กล่าว